เกริ่นก่อนครับ
สวัสดีครับ ผมตั้งกระทู้นี้ เพราะผมพยายามหาเว็บภาษาไทยที่แนะนำและอธิบายเรื่องการจองตั๋วรถไฟระหว่างเมืองต่างๆในอังกฤษที่ให้ข้อมูลเต็มที่ไม่ค่อยได้เลย ยกเว้นตาม facebook แต่เดี๋ยวนี้ระบบ search รวนๆ จนหาข้อมูลยากมากเลยครับ
ข้อมูลอาจจะไม่สมบูรณ์มากนัก เพราะผมเพิ่งอยู่ที่อังกฤษได้ 2 ปีกว่าๆ แต่ก็เดินทางไปหลายที่อยู่ (ขาดไอร์แลนด์ กำลังพยามยามหาข้อมูลเดินทางอยู่ครับ)
ตอนไปถึงแรกๆ ก็จ่ายค่าวิชากับรถไฟไปมากโขเลยครับ เดินมึนงงสับสนไปหมด เพราะข้อมูลที่เจอเป็นภาษาอังกฤษด้วย แถมยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุผล อ่านแล้วงงมากๆ รีวิวที่หาอ่านก็ยังงงอยู่ดี แค่เรื่องที่แต่ละที่ เป็นคนละบริษัทเดินรถก็งงแล้ว
ในกระทู้นี้ผมจะอธิบายตามนี้นะครับ
1.ประเภทตั๋ว ชั้นโดยสาร
2.บัตรส่วนลด
3.เว็บไซต์จองตั๋วโดยตรง และตัวอย่างวิธีการจองตั๋ว
4.การออกตั๋ว
5.การเดินทาง
6.การเคลมเงินคืน
ในสหราชอาณาจักร ซึ่งต่อไปจะขอเรียกอังกฤษนะครับ ขนส่งสาธารณะทางบกถือว่าค่อนข้างดีมากระดับนึงเลยครับ (ขอละเรื่องทางอากาศนะครับ) โดยเฉพาะที่นิยมมากที่สุดอย่างรถไฟ ซึ่งไปได้หลายที่มากและสะดวกปลอดภัยมาก หลายท่านที่ไปเที่ยวเอง ก็มักจะเดินทางด้วยรถไฟเสมอ
บางท่านอาจจะซื้อ Britrail pass หรือตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวต่างๆมา ซึ่งเป็นตั๋วที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก จะไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้ (แต่ราคาก็สูงเอาเรื่อง) ก็คงไม่เจอปัญหามากครับ แต่บางท่านที่มาหาซื้อตั๋วจัดแพลนเอง อาจจะไม่สะดวกบ้าง งงบ้าง กว่าจะได้ตั๋วที่โอเคก็เหนื่อยเลย บางท่านอาจจะไปซื้อตั๋วที่สถานี จากตู้หรือเจ้าหน้าที่ ซึ่งมักจะได้ราคาแพงมากๆ(แพงที่สุด) เลยครับ
หากต้องการจองตั๋วล่วงหน้า สามารถจองได้สูงสุด 12 สัปดาห์ก่อนวันเดินทาง (ยกเว้นรถนอน จองได้ล่วงหน้า 1 ปี) ซึ่งบางครั้งราคาอาจมีการปรับขึ้นได้เมื่อใกล้วันเดินทาง ควรรีบจองครับ
เริ่มส่วน
ประเภทตั๋ว
ตั๋วที่นักท่องเที่ยวนิยมแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ 10 ประเภทย่อย
ซึ่งประเภทย่อยจะเกี่ยวข้องกับเวลาและเส้นทางเป็นหลักครับ
เวลาแบ่งได้ 3 แบบ คือ
Anytime
-เลือกขึ้นรถไฟขบวนไหน เวลาไหนก็ได้ที่จะพาเราไปถึงปลายทาง
Off-Peak
-ขึ้นรถไฟขบวนไหนก็ได้ที่ระบุในตั๋ว (ส่วนมากจะระบุบริษัท หรือเส้นทางที่ผ่าน)
-เลือกขึ้นรถไฟเวลาไหนก็ได้นอกชั่วโมงเร่งด่วน (ช่วงเข้างานเช้าประมาณ 6.00 - 9.30 บางที่อาจรวมช่วงเลิกงานเย็นประมาณ 16.00-19.00 ด้วย)
Super Off-Peak
-ขึ้นรถไฟขบวนไหนก็ได้ของบริษัทและเส้นทางที่ระบุในตั๋วเท่านั้น (บริษัทอื่น ทางอื่นอาจจะไม่ได้ ขึ้นกับเงื่อนไข)
-เลือกขึ้นรถไฟเวลาไหนก็ได้นอกชั่วโมงเร่งด่วน (ช่วงเข้างานเช้าประมาณ 6.00 - 9.30 และอาจนับช่วงเลิกงานเย็นประมาณ 16.00-19.00)
และตั๋วทุกประเภท ยกเว้น Advance Single เราสามารถลงพักกลางทาง ที่สถานีระหว่างทางก่อนได้แล้วค่อยขึ้นขบวนถัดไป ตราบใดที่เราไม่ออกจากสถานี จนกว่าเราจะถึงที่หมาย ในวันเดียวกับที่เราใช้ตั๋วเท่านั้นนะครับ (อันนี้คือตามกฎ breaking of journey เป๊ะๆ)
1.Single ตั๋วขาเดียว
1.1 ตั๋วแบบ
Fixed มี 1 ประเภท ซึ่งเป็นแบบที่มักจะมีราคาถูกที่สุดครับ
1.1.1
Advance Single (Advance Single First) ตั๋วล่วงหน้าแบบเที่ยวเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
-ต้องรู้วันและเวลาเดินทางที่แน่นอน
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (ห้ามลงพักกลางทาง ยกเว้นเปลี่ยนขบวน)
-ไม่สามารถขอคืนเงินได้ (แบบคืนเงินอย่างเดียว ไม่จองใหม่ ไม่ให้ทำครับ)
-เลื่อนล่วงหน้าได้ (มีค่าธรรมเนียมการคืนเงิน 10 ปอนด์ และบังคับให้มีการจองใหม่ ซึ่งอาจต้องจ่ายส่วนต่างค่าตั๋วใหม่ด้วย)
-ส่วนมากจองที่นั่งได้ (เลือกแบบเจาะจงไม่ได้ อาจได้แค่มีโต๊ะ ติดหน้าต่างหรือทางเดิน)
-ต้องเป็นขบวนรถที่ระบุในตั๋วเท่านั้น ทั้งเวลา เส้นทาง และบริษัท
1.2 ตั๋วแบบ
Flexible มี 3 ประเภท ซึ่งมีเงื่อนไขเหมือนกันทั้งหมดคือ
-ต้องรู้วันเดินทางแน่นอน
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (แต่ลงกลางทางได้)
-ขอคืนเงินได้ก่อนวันเดินทาง มักมีค่าธรรมเนียม 10 ปอนด์
-เลื่อนวันไม่ได้ (ให้คืนเงินแล้วซื้อใหม่ บางที่ใช้คำว่าค่าธรรมเนียมเลื่อนตั๋ว)
-จองที่นั่งได้ ในขบวนใดขบวนหนึ่ง (ต้องระบุเวลาของเที่ยวรถไฟ แต่จะไม่ขึ้นที่เราจองก็ได้) นอกนั้นต้องไปหาที่นั่งว่างบนรถไฟ (จะกล่าวต่อไปครับ)
1.2.1
Anytime Day Single (Anytime Day Single First) ตั๋วเที่ยวเดียวแบบไม่ระบุเวลาเดินทางชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
1.2.2
Off-Peak Single (Off-Peak Single First) ตั๋วเที่ยวเดียวแบบไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
1.2.3
Super Off-Peak Single (Super Off-Peak Single First) ตั๋วเที่ยวเดียวแบบไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนพิเศษชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.Return ตั๋วไปกลับ
2.1 ตั๋วแบบ
ใช้ไปกลับภายในวันเดียว (Day Retun) มี 3 ประเภท มีเงื่อนไขที่เหมือนกันคือ
-ต้องรู้วันเดินทางแน่นอน
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (ลงกลางทางได้)
-ขอคืนเงินได้เฉพาะส่วนที่ยังไม่ใช้ มีค่าธรรมเนียม 10 ปอนด์
-เลื่อนวันขาไปไม่ได้ (ให้คืนเงินแล้วซื้อใหม่/ค่าธรรมเนียมเลื่อนตั๋ว)
-จองที่นั่งได้ ในขบวนใดขบวนหนึ่ง (ต้องระบุเวลาของเที่ยวรถไฟ แต่จะไม่ใช้ที่เราจองก็ได้) นอกนั้นต้องไปหาที่นั่งว่างบนรถไฟ
2.1.1
Anytime Day Return (Anytime Day Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลาแบบใช้ได้วันเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.1.2
Off-Peak Day Return (Off-Peak Day Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนแบบใช้ได้วันเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.1.3
Super Off-Peak Day Return (Super Off-Peak Day Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนพิเศษแบบใช้ได้วันเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.2 ตั๋วแบบ
ใช้ไปกลับภายใน 1 เดือน (Return) มี 3 ประเภท มีเงื่อนไขที่เหมือนกันคือ
-ต้องรู้ช่วงเวลาเดินทางคร่าวๆ
-ตั๋ว
ขาไป ใช้ได้ครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ระบุ และ
4 วันหลังจากนั้น (รวมเป็น 5 วัน)
-ตั๋ว
ขากลับ ใช้ได้ครั้งเดียว
ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ระบุในตั๋วขาไป
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (ลงกลางทางได้)
-ขอคืนเงินได้ มีค่าธรรมเนียม 10 ปอนด์
-คืนเงินส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ได้ทั้ง 2 ขา ภายในกำหนด 28 วันก่อนหมดอายุ
-ถ้าใช้ตั๋วขากลับแล้ว คืนเงินขาไปไม่ได้
-เลื่อนวันขาไปไม่ได้ (ให้คืนเงินแล้วซื้อใหม่/ค่าธรรมเนียมเลื่อนตั๋ว)
-จองที่นั่งได้ ในขบวนใดขบวนหนึ่ง (ต้องระบุเวลาของเที่ยวรถไฟ แต่จะไม่ใช้ที่เราจองก็ได้) นอกนั้นต้องไปหาที่นั่งว่างบนรถไฟ
2.2.1
Anytime Return (Anytime Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลาชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.2.2
Off-Peak Return (Off-Peak Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.2.3
Super Off-Peak Return (Super Off-Peak Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนพิเศษชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
จากที่ผมอธิบายจะเห็นว่า มีชั้นธรรมดา (เดิมเรียกว่าชั้น 3) กับชั้น 1 (ไม่มีชั้น 2 ครับ) ซึ่งในบางขบวนที่เดินทางระยะสั้น อาจจะไม่มีชั้น 1 ให้บริการนะครับ ผมขออธิบายบริการดังนี้ครับ
ชั้นธรรมดา
-จัดวางที่นั่งแบบ 2 2 (แถวละ 4) บางจุดจะมีโต๊ะ ให้ 4 คนนั่งด้วยกันได้ หรือ 3 2
-บางจุดอาจมีปลั๊กให้ชาร์จแบตโทรศัพท์หรือโน๊ตบุ๊คด้วย
-ในบางขบวนมีเคาน์เตอร์จำหน่ายของว่างและเครื่องดื่มให้บริการ
-ในบางขบวนมีรถเข็นจำหน่ายของว่างและเครื่องดื่มให้บริการ
-บางขบวนมีบริการ wifi
ชั้นหนึ่ง (จริงๆไม่หรูเท่าไหร่นะครับผม)
-จัดวางที่นั่งแบบ 2 1 (แถวละ 3) มีโต๊ะเกือบทุกที่นั่ง ข้างนึงนั่งโต๊ะ 4 คน อีกข้างนั่งโต๊ะ 2 คน
-มีปลั๊กทุกที่นั่ง
-บางขบวนมีบริการเครื่องดื่มและของว่างฟรี
-บางขบวนที่เดินทางไกลมีอาหารร้อนทำสดบริการฟรี (บางขบวนต้องเสียเงินเพิ่ม)
-บริการ wifi ฟรี
-บางสถานีมีบริการห้องพักรอ First Class Lounge สามารถเข้าไปนั่งพัก อ่านหนังสือพิมพ์ พร้อมของว่างและเครื่องดื่มได้
-มักจะมีพนักงานประจำตู้โดยสารคอยบริการตลอดทาง
นี่คือประเภทตั๋วที่นักท่องเที่ยวใช้โดยทั่วไป ผมขออนุญาตละตั๋วแบบหลายเที่ยว (Seasonal ticket) นะครับเพราะตั๋วแบบนั้นจะใช้ได้สำหรับปลายทาง 2 สถานี กำหนดเวลาเป็น
รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี เหมาะสำหรับคนที่ทำงาน หรือเรียน ซึ่งนักท่องเที่ยวเราๆไม่น่าจะได้ใช้
แล้วก็การที่เราไปซื้อตั๋วที่สถานีในวันเดินทาง เรามักจะได้ตั๋วประเภทที่มีความยืดหยุ่น Flexible สูง ซึ่งก็จะมีราคาแพงตามไปด้วยครับ
จบส่วนประเภทตั๋วแล้วครับ
ต่อไปขอพูดถึง
บัตรส่วนลดครับ
บัตรส่วนลดของรถไฟอังกฤษเรียกว่า
Railcard หาซื้อได้ทั้งจากเว็บไซต์ และสถานี (ยกเว้นแบบ 26-30) สามารถซื้อได้ล่วงหน้าก่อนไป หรือไปซื้อเอาที่สถานีเมื่อวันเดินทางได้เลยครับ (แต่ต้องดูประเภทที่จะซื้อด้วยนะครับ) ราคาจะอยู่ที่ 20-30 ปอนด์ต่อปี แบ่งได้ตามนี้ครับ
1.16-25 Railcard
-สำหรับนักเรียนนักศึกษา อายุ 16-25 ปี
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-
https://www.16-25railcard.co.uk/
2.16-17 Railcard
-สำหรับบุคคลอายุ 16-17 ปี
-ให้ส่วนลด 50%
-
https://www.16-17saver.co.uk/
3.26-30 Railcard
-สำหรับบุคคลมีอายุ 26-30 ปี (บางที่ให้เฉพาะที่ยังเป็นนักศึกษาเท่านั้น แต่ในเว็บบอกว่าไม่จำเป็น)
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น
-
https://www.26-30railcard.co.uk/
4.Two together Railcard
-ผู้สมัครอายุ 16 ปีขึ้นไป
-สำหรับคน 2 คนที่เดินทางด้วยกัน
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ไม่ให้ส่วนลดในเวลาเร่งด่วนเช้า Peak time
-
https://www.twotogether-railcard.co.uk/
5.Family and Friends Railcard
-สำหรับกลุ่มคนเดินทางด้วยกัน สูงสุด 4 คน
-อายุน้อยกว่า 16 ปี ให้ส่วนลด 60%
-อายุ 16 ปีขึ้นไป ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ไม่ให้ส่วนลดตั๋วชั้นหนึ่ง
-ไม่ให้ส่วนลดตั๋วชั่วโมงเร่งด่วนเช้าบางสาย (ต้องเช็คทุกครั้งที่จอง)
-ต้องมีเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี เดินทางด้วยอย่างน้อย 1 คน
-
https://www.familyandfriends-railcard.co.uk/
6.Senior Railcard
-สำหรับบุคคลอายุ 60 ปีขึ้นไป
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ไม่ให้ส่วนลดตั๋วชั่วโมงเร่งด่วนเช้าเฉพาะบางสาย (เช็คทุกครั้งที่จอง) ยกเว้นตั๋วไม่ระบุเวลา
-
https://www.senior-railcard.co.uk/
7.Disable persons Railcard
-สำหรับผู้พิการที่มีเอกสารรับรองความพิการที่ออกให้หรือรับรองโดยหน่วยงานอังกฤษ
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-
https://www.disabledpersons-railcard.co.uk/
8.Network Railcard
-สำหรับใช้ในลอนดอนและตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-
https://www.network-railcard.co.uk/
เวลาจองผ่านเว็บ จะต้องใส่ลงไปด้วย ว่าเรามีบัตรแบบไหนก่อนจะจอง ถ้าซื้อผ่านคน ก็ต้องเอาให้ดูก่อนและเวลาตรวจตั๋ว อาจถูกขอให้โชว์บัตรส่วนลดด้วยครับ
ดังนั้นต่อไปขอพูดถึงการจองครับ (ต่อในความเห็นนะครับ)
ว่าด้วยการเดินทางด้วยรถไฟในอังกฤษ ประเภทตั๋ว บัตร Railcard วิธีการจองตั๋ว
สวัสดีครับ ผมตั้งกระทู้นี้ เพราะผมพยายามหาเว็บภาษาไทยที่แนะนำและอธิบายเรื่องการจองตั๋วรถไฟระหว่างเมืองต่างๆในอังกฤษที่ให้ข้อมูลเต็มที่ไม่ค่อยได้เลย ยกเว้นตาม facebook แต่เดี๋ยวนี้ระบบ search รวนๆ จนหาข้อมูลยากมากเลยครับ
ข้อมูลอาจจะไม่สมบูรณ์มากนัก เพราะผมเพิ่งอยู่ที่อังกฤษได้ 2 ปีกว่าๆ แต่ก็เดินทางไปหลายที่อยู่ (ขาดไอร์แลนด์ กำลังพยามยามหาข้อมูลเดินทางอยู่ครับ)
ตอนไปถึงแรกๆ ก็จ่ายค่าวิชากับรถไฟไปมากโขเลยครับ เดินมึนงงสับสนไปหมด เพราะข้อมูลที่เจอเป็นภาษาอังกฤษด้วย แถมยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุผล อ่านแล้วงงมากๆ รีวิวที่หาอ่านก็ยังงงอยู่ดี แค่เรื่องที่แต่ละที่ เป็นคนละบริษัทเดินรถก็งงแล้ว
ในกระทู้นี้ผมจะอธิบายตามนี้นะครับ
1.ประเภทตั๋ว ชั้นโดยสาร
2.บัตรส่วนลด
3.เว็บไซต์จองตั๋วโดยตรง และตัวอย่างวิธีการจองตั๋ว
4.การออกตั๋ว
5.การเดินทาง
6.การเคลมเงินคืน
ในสหราชอาณาจักร ซึ่งต่อไปจะขอเรียกอังกฤษนะครับ ขนส่งสาธารณะทางบกถือว่าค่อนข้างดีมากระดับนึงเลยครับ (ขอละเรื่องทางอากาศนะครับ) โดยเฉพาะที่นิยมมากที่สุดอย่างรถไฟ ซึ่งไปได้หลายที่มากและสะดวกปลอดภัยมาก หลายท่านที่ไปเที่ยวเอง ก็มักจะเดินทางด้วยรถไฟเสมอ
บางท่านอาจจะซื้อ Britrail pass หรือตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวต่างๆมา ซึ่งเป็นตั๋วที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก จะไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้ (แต่ราคาก็สูงเอาเรื่อง) ก็คงไม่เจอปัญหามากครับ แต่บางท่านที่มาหาซื้อตั๋วจัดแพลนเอง อาจจะไม่สะดวกบ้าง งงบ้าง กว่าจะได้ตั๋วที่โอเคก็เหนื่อยเลย บางท่านอาจจะไปซื้อตั๋วที่สถานี จากตู้หรือเจ้าหน้าที่ ซึ่งมักจะได้ราคาแพงมากๆ(แพงที่สุด) เลยครับ
หากต้องการจองตั๋วล่วงหน้า สามารถจองได้สูงสุด 12 สัปดาห์ก่อนวันเดินทาง (ยกเว้นรถนอน จองได้ล่วงหน้า 1 ปี) ซึ่งบางครั้งราคาอาจมีการปรับขึ้นได้เมื่อใกล้วันเดินทาง ควรรีบจองครับ
เริ่มส่วนประเภทตั๋ว
ตั๋วที่นักท่องเที่ยวนิยมแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ 10 ประเภทย่อย
ซึ่งประเภทย่อยจะเกี่ยวข้องกับเวลาและเส้นทางเป็นหลักครับ
เวลาแบ่งได้ 3 แบบ คือ
Anytime
-เลือกขึ้นรถไฟขบวนไหน เวลาไหนก็ได้ที่จะพาเราไปถึงปลายทาง
Off-Peak
-ขึ้นรถไฟขบวนไหนก็ได้ที่ระบุในตั๋ว (ส่วนมากจะระบุบริษัท หรือเส้นทางที่ผ่าน)
-เลือกขึ้นรถไฟเวลาไหนก็ได้นอกชั่วโมงเร่งด่วน (ช่วงเข้างานเช้าประมาณ 6.00 - 9.30 บางที่อาจรวมช่วงเลิกงานเย็นประมาณ 16.00-19.00 ด้วย)
Super Off-Peak
-ขึ้นรถไฟขบวนไหนก็ได้ของบริษัทและเส้นทางที่ระบุในตั๋วเท่านั้น (บริษัทอื่น ทางอื่นอาจจะไม่ได้ ขึ้นกับเงื่อนไข)
-เลือกขึ้นรถไฟเวลาไหนก็ได้นอกชั่วโมงเร่งด่วน (ช่วงเข้างานเช้าประมาณ 6.00 - 9.30 และอาจนับช่วงเลิกงานเย็นประมาณ 16.00-19.00)
และตั๋วทุกประเภท ยกเว้น Advance Single เราสามารถลงพักกลางทาง ที่สถานีระหว่างทางก่อนได้แล้วค่อยขึ้นขบวนถัดไป ตราบใดที่เราไม่ออกจากสถานี จนกว่าเราจะถึงที่หมาย ในวันเดียวกับที่เราใช้ตั๋วเท่านั้นนะครับ (อันนี้คือตามกฎ breaking of journey เป๊ะๆ)
1.Single ตั๋วขาเดียว
1.1 ตั๋วแบบ Fixed มี 1 ประเภท ซึ่งเป็นแบบที่มักจะมีราคาถูกที่สุดครับ
1.1.1 Advance Single (Advance Single First) ตั๋วล่วงหน้าแบบเที่ยวเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
-ต้องรู้วันและเวลาเดินทางที่แน่นอน
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (ห้ามลงพักกลางทาง ยกเว้นเปลี่ยนขบวน)
-ไม่สามารถขอคืนเงินได้ (แบบคืนเงินอย่างเดียว ไม่จองใหม่ ไม่ให้ทำครับ)
-เลื่อนล่วงหน้าได้ (มีค่าธรรมเนียมการคืนเงิน 10 ปอนด์ และบังคับให้มีการจองใหม่ ซึ่งอาจต้องจ่ายส่วนต่างค่าตั๋วใหม่ด้วย)
-ส่วนมากจองที่นั่งได้ (เลือกแบบเจาะจงไม่ได้ อาจได้แค่มีโต๊ะ ติดหน้าต่างหรือทางเดิน)
-ต้องเป็นขบวนรถที่ระบุในตั๋วเท่านั้น ทั้งเวลา เส้นทาง และบริษัท
1.2 ตั๋วแบบ Flexible มี 3 ประเภท ซึ่งมีเงื่อนไขเหมือนกันทั้งหมดคือ
-ต้องรู้วันเดินทางแน่นอน
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (แต่ลงกลางทางได้)
-ขอคืนเงินได้ก่อนวันเดินทาง มักมีค่าธรรมเนียม 10 ปอนด์
-เลื่อนวันไม่ได้ (ให้คืนเงินแล้วซื้อใหม่ บางที่ใช้คำว่าค่าธรรมเนียมเลื่อนตั๋ว)
-จองที่นั่งได้ ในขบวนใดขบวนหนึ่ง (ต้องระบุเวลาของเที่ยวรถไฟ แต่จะไม่ขึ้นที่เราจองก็ได้) นอกนั้นต้องไปหาที่นั่งว่างบนรถไฟ (จะกล่าวต่อไปครับ)
1.2.1 Anytime Day Single (Anytime Day Single First) ตั๋วเที่ยวเดียวแบบไม่ระบุเวลาเดินทางชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
1.2.2 Off-Peak Single (Off-Peak Single First) ตั๋วเที่ยวเดียวแบบไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
1.2.3 Super Off-Peak Single (Super Off-Peak Single First) ตั๋วเที่ยวเดียวแบบไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนพิเศษชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.Return ตั๋วไปกลับ
2.1 ตั๋วแบบใช้ไปกลับภายในวันเดียว (Day Retun) มี 3 ประเภท มีเงื่อนไขที่เหมือนกันคือ
-ต้องรู้วันเดินทางแน่นอน
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (ลงกลางทางได้)
-ขอคืนเงินได้เฉพาะส่วนที่ยังไม่ใช้ มีค่าธรรมเนียม 10 ปอนด์
-เลื่อนวันขาไปไม่ได้ (ให้คืนเงินแล้วซื้อใหม่/ค่าธรรมเนียมเลื่อนตั๋ว)
-จองที่นั่งได้ ในขบวนใดขบวนหนึ่ง (ต้องระบุเวลาของเที่ยวรถไฟ แต่จะไม่ใช้ที่เราจองก็ได้) นอกนั้นต้องไปหาที่นั่งว่างบนรถไฟ
2.1.1 Anytime Day Return (Anytime Day Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลาแบบใช้ได้วันเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.1.2 Off-Peak Day Return (Off-Peak Day Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนแบบใช้ได้วันเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.1.3 Super Off-Peak Day Return (Super Off-Peak Day Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนพิเศษแบบใช้ได้วันเดียวชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.2 ตั๋วแบบใช้ไปกลับภายใน 1 เดือน (Return) มี 3 ประเภท มีเงื่อนไขที่เหมือนกันคือ
-ต้องรู้ช่วงเวลาเดินทางคร่าวๆ
-ตั๋วขาไป ใช้ได้ครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ระบุ และ 4 วันหลังจากนั้น (รวมเป็น 5 วัน)
-ตั๋วขากลับ ใช้ได้ครั้งเดียว ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ระบุในตั๋วขาไป
-ต้นทาง ปลายทาง ชัดเจน (ลงกลางทางได้)
-ขอคืนเงินได้ มีค่าธรรมเนียม 10 ปอนด์
-คืนเงินส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ได้ทั้ง 2 ขา ภายในกำหนด 28 วันก่อนหมดอายุ
-ถ้าใช้ตั๋วขากลับแล้ว คืนเงินขาไปไม่ได้
-เลื่อนวันขาไปไม่ได้ (ให้คืนเงินแล้วซื้อใหม่/ค่าธรรมเนียมเลื่อนตั๋ว)
-จองที่นั่งได้ ในขบวนใดขบวนหนึ่ง (ต้องระบุเวลาของเที่ยวรถไฟ แต่จะไม่ใช้ที่เราจองก็ได้) นอกนั้นต้องไปหาที่นั่งว่างบนรถไฟ
2.2.1 Anytime Return (Anytime Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลาชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.2.2 Off-Peak Return (Off-Peak Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
2.2.3 Super Off-Peak Return (Super Off-Peak Return First) ตั๋วไปกลับไม่ระบุเวลานอกชั่วโมงเร่งด่วนพิเศษชั้นธรรมดา (ชั้นหนึ่ง)
จากที่ผมอธิบายจะเห็นว่า มีชั้นธรรมดา (เดิมเรียกว่าชั้น 3) กับชั้น 1 (ไม่มีชั้น 2 ครับ) ซึ่งในบางขบวนที่เดินทางระยะสั้น อาจจะไม่มีชั้น 1 ให้บริการนะครับ ผมขออธิบายบริการดังนี้ครับ
ชั้นธรรมดา
-จัดวางที่นั่งแบบ 2 2 (แถวละ 4) บางจุดจะมีโต๊ะ ให้ 4 คนนั่งด้วยกันได้ หรือ 3 2
-บางจุดอาจมีปลั๊กให้ชาร์จแบตโทรศัพท์หรือโน๊ตบุ๊คด้วย
-ในบางขบวนมีเคาน์เตอร์จำหน่ายของว่างและเครื่องดื่มให้บริการ
-ในบางขบวนมีรถเข็นจำหน่ายของว่างและเครื่องดื่มให้บริการ
-บางขบวนมีบริการ wifi
ชั้นหนึ่ง (จริงๆไม่หรูเท่าไหร่นะครับผม)
-จัดวางที่นั่งแบบ 2 1 (แถวละ 3) มีโต๊ะเกือบทุกที่นั่ง ข้างนึงนั่งโต๊ะ 4 คน อีกข้างนั่งโต๊ะ 2 คน
-มีปลั๊กทุกที่นั่ง
-บางขบวนมีบริการเครื่องดื่มและของว่างฟรี
-บางขบวนที่เดินทางไกลมีอาหารร้อนทำสดบริการฟรี (บางขบวนต้องเสียเงินเพิ่ม)
-บริการ wifi ฟรี
-บางสถานีมีบริการห้องพักรอ First Class Lounge สามารถเข้าไปนั่งพัก อ่านหนังสือพิมพ์ พร้อมของว่างและเครื่องดื่มได้
-มักจะมีพนักงานประจำตู้โดยสารคอยบริการตลอดทาง
นี่คือประเภทตั๋วที่นักท่องเที่ยวใช้โดยทั่วไป ผมขออนุญาตละตั๋วแบบหลายเที่ยว (Seasonal ticket) นะครับเพราะตั๋วแบบนั้นจะใช้ได้สำหรับปลายทาง 2 สถานี กำหนดเวลาเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน รายปี เหมาะสำหรับคนที่ทำงาน หรือเรียน ซึ่งนักท่องเที่ยวเราๆไม่น่าจะได้ใช้
แล้วก็การที่เราไปซื้อตั๋วที่สถานีในวันเดินทาง เรามักจะได้ตั๋วประเภทที่มีความยืดหยุ่น Flexible สูง ซึ่งก็จะมีราคาแพงตามไปด้วยครับ
จบส่วนประเภทตั๋วแล้วครับ
ต่อไปขอพูดถึงบัตรส่วนลดครับ
บัตรส่วนลดของรถไฟอังกฤษเรียกว่า Railcard หาซื้อได้ทั้งจากเว็บไซต์ และสถานี (ยกเว้นแบบ 26-30) สามารถซื้อได้ล่วงหน้าก่อนไป หรือไปซื้อเอาที่สถานีเมื่อวันเดินทางได้เลยครับ (แต่ต้องดูประเภทที่จะซื้อด้วยนะครับ) ราคาจะอยู่ที่ 20-30 ปอนด์ต่อปี แบ่งได้ตามนี้ครับ
1.16-25 Railcard
-สำหรับนักเรียนนักศึกษา อายุ 16-25 ปี
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-https://www.16-25railcard.co.uk/
2.16-17 Railcard
-สำหรับบุคคลอายุ 16-17 ปี
-ให้ส่วนลด 50%
-https://www.16-17saver.co.uk/
3.26-30 Railcard
-สำหรับบุคคลมีอายุ 26-30 ปี (บางที่ให้เฉพาะที่ยังเป็นนักศึกษาเท่านั้น แต่ในเว็บบอกว่าไม่จำเป็น)
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น
-https://www.26-30railcard.co.uk/
4.Two together Railcard
-ผู้สมัครอายุ 16 ปีขึ้นไป
-สำหรับคน 2 คนที่เดินทางด้วยกัน
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ไม่ให้ส่วนลดในเวลาเร่งด่วนเช้า Peak time
-https://www.twotogether-railcard.co.uk/
5.Family and Friends Railcard
-สำหรับกลุ่มคนเดินทางด้วยกัน สูงสุด 4 คน
-อายุน้อยกว่า 16 ปี ให้ส่วนลด 60%
-อายุ 16 ปีขึ้นไป ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ไม่ให้ส่วนลดตั๋วชั้นหนึ่ง
-ไม่ให้ส่วนลดตั๋วชั่วโมงเร่งด่วนเช้าบางสาย (ต้องเช็คทุกครั้งที่จอง)
-ต้องมีเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี เดินทางด้วยอย่างน้อย 1 คน
-https://www.familyandfriends-railcard.co.uk/
6.Senior Railcard
-สำหรับบุคคลอายุ 60 ปีขึ้นไป
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-ไม่ให้ส่วนลดตั๋วชั่วโมงเร่งด่วนเช้าเฉพาะบางสาย (เช็คทุกครั้งที่จอง) ยกเว้นตั๋วไม่ระบุเวลา
-https://www.senior-railcard.co.uk/
7.Disable persons Railcard
-สำหรับผู้พิการที่มีเอกสารรับรองความพิการที่ออกให้หรือรับรองโดยหน่วยงานอังกฤษ
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-https://www.disabledpersons-railcard.co.uk/
8.Network Railcard
-สำหรับใช้ในลอนดอนและตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ
-ให้ส่วนลด 1 ใน 3
-https://www.network-railcard.co.uk/
เวลาจองผ่านเว็บ จะต้องใส่ลงไปด้วย ว่าเรามีบัตรแบบไหนก่อนจะจอง ถ้าซื้อผ่านคน ก็ต้องเอาให้ดูก่อนและเวลาตรวจตั๋ว อาจถูกขอให้โชว์บัตรส่วนลดด้วยครับ
ดังนั้นต่อไปขอพูดถึงการจองครับ (ต่อในความเห็นนะครับ)