ความรู้สึกเหล่านี้พึ่งเกิดขึ้นเมื่อ3-4 ปีมาจนถึงปัจจุบัน. ขอเล่าย้อนนะ.. แต่ก่อนตอนเด็กๆครอบครัวก็ถือว่ามีความสุข ทะเลาะกันบ้างแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา ไปเที่ยวด้วยกัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกวัน พ่อกับแม่ทำงานนอนบ้านสวน. ส่วนเราอยู่บ้านคนเดียว ตั้งแต่ ม.1 มีญาติมานอนเป็นเพื่อนบางวัน บางวันป้าก็ให้หลานมานอนเป็นเพื่อนแทน ตื่นเช้ามาแต่งตัวไปโรงเรียน รถรับส่งมารับ วันไหนตื่นไม่ทันต้องวิ่งไปดักรถอีกซอยนึง กลับจากเรียนตอนเย็นหุงข้าว ไข่เจียวกินเองทุกวันบางวันก็มาม่า เสาร์อาทิตย์ แม่จะมารับไปสวน ช่วยงานที่สวนพ่อกับแม่ไม่เคยถามเรื่องการเรียนเป็นยังไงบ้าง อยู่คนเดียวเป็นยังไงบ้าง ไม่เคยถาม เวลาโรงเรียนมีกิจกรรมก็ไม่เคยให้เข้าร่วม เวลาต้องทำงานกลุ่มไม่เคยได้ไป มีกิจกรรมต้องทำกับเพื่อนไม่เคยได้ไป ยังดีที่มีเพื่อนคบอยู่สองสามคน ตั้งแต่ป.1-6. เรียนได้ที่1 ของห้อง เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งวิชาการหลายอย่าง ได้เกียรติบัตร ได้รางวัล ได้เหรียญทอง แต่พ่อกับแม่ไม่เคยชมไม่มีรางวัลให้ ไม่มีของขวัญปลอบใจ พอขึ้นม.1 เกรดเฉลี่ยยังสูงอยู่ เลยได้อยู่ห้องคิงและเรียนดีมาตลอด จนม.6 ครูเริ่มแนะแนวเริ่มถามว่าจะเรียนต่ออะไร ครูให้กำลังใจว่าเป็นคนเรียนดี สอบที่ไหนก็ติด แต่ในความเป็นจริงเราไม่ได้อ่านหนังสือหรือเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยเลย เพราะพ่อกับแม่บอกว่า คงไม่มีปัญญาส่งต่อแล้ว(แต่เขาวางแผนจะออกรถยนต์คันใหม่) ความตั้งใจ ความฝัน และความพยายามเรียนดีมาตลอดมันไม่มีความหมายอะไรเลย เวลาเพื่อนคุยเรื่องเรียนต่อชวนกันไปสอบด้วยกันเรียนด้วยกัน เราได้แต่เงียบ และบอกเพื่อนไปว่าเราเรียนเอกชน คงไม่ได้ไปสอบด้วย แต่ที่จริงแล้ว ไม่มีใครส่งเสียหรือสนับสนุนอะไรเลย พอรู้ว่าจะไม่ได้ต่อมหาลัย เราเริ่มไม่ตั้งใจเรียน เริ่มสนใจเรื่องอื่น ติดมือถือ คุยกับผู้ชายในแอปคิวๆโทรหากันคุยกันทุกวันแต่ตอนนั้นพี่เขาอยู่กรุงเทพฯเรียนม.หอการค้าคุยแค่ในมือถือ ไม่เคยคิดด้วยซำ้ว่าเขาจะรักเราจริงๆ สิ่งที่คิดตอนนั้นคือ อยากมีใครสักคนที่คอยรับฟัง ในทุกๆเรื่องที่เราอัดอั้น เวลาอยู่บ้านเราไม่ค่อยพูด ไม่คุยกับใคร แต่พอมีคนๆนึงอยากจะฟังในสิ่งที่เราพูดไม่มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ จนเริ่มรู้สึกว่ารักเขา เวลาเขากลับตจว. มีโอกาสได้เจอกันหลายครั้ง
แต่บ้านเขามีฐานะกว่าเรามาก แม่เขาไม่ชอบเรา เขาบอกจะพาเราไปอยู่ด้วยกันเรียนเอกชนด้วยกัน พ่อเขาจะเป็นคนส่งเรียน เราเริ่มวางแผนว่าจบม.6 จะหนีไปด้วยกัน แต่พอใกล้จะจบม.6 แม่เราจับได้ เพราะเห็นเราทำตัวแปลกๆ แฟนเรากลับมาเยี่ยมบ้านเขาโทรมาหาบอกว่าอยู่ร้านคนเดียว (บ้านเขาขายเครื่องใช้ไฟฟ้า) เราก็เลยจะไปอยู่เป็นเพื่อนและค้างที่นั่น แต่ตอนที่แฟนเราโทรมา แม่มาหาเราที่บ้านพอดี เรากำลังจะออกไปหาแฟน. แม่ถามว่าจะไปไหนให้ไปส่งไหมมันเย็นแล้ว. เราบอกแม่ว่าไปทำรายงานบ้านเพื่อน แม่บอกไม่ให้ไปมันค่ำแล้ววันหลังค่อยไป. เรารอจนแม่กลับไปสวน เราถึงขับรถออกไปหาแฟน ไปถึงบ้านแฟนเราก็ไปนั่งเล่นคอมดูยูทูป คุยกันปกติ ไม่เคยมีอะไรเกินเลย แม้แต่ครั้งเดียว พี่เขาบอกว่าถ้าเราไม่พร้อมเขาจะไม่ทำ ....... เดี๋ยวมาต่อ
ผิดไหมถ้ารู้สึกเฉยๆกับพ่อแม่ ไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่อยากคุยด้วย ไม่รู้สึกผูกพัน
แต่บ้านเขามีฐานะกว่าเรามาก แม่เขาไม่ชอบเรา เขาบอกจะพาเราไปอยู่ด้วยกันเรียนเอกชนด้วยกัน พ่อเขาจะเป็นคนส่งเรียน เราเริ่มวางแผนว่าจบม.6 จะหนีไปด้วยกัน แต่พอใกล้จะจบม.6 แม่เราจับได้ เพราะเห็นเราทำตัวแปลกๆ แฟนเรากลับมาเยี่ยมบ้านเขาโทรมาหาบอกว่าอยู่ร้านคนเดียว (บ้านเขาขายเครื่องใช้ไฟฟ้า) เราก็เลยจะไปอยู่เป็นเพื่อนและค้างที่นั่น แต่ตอนที่แฟนเราโทรมา แม่มาหาเราที่บ้านพอดี เรากำลังจะออกไปหาแฟน. แม่ถามว่าจะไปไหนให้ไปส่งไหมมันเย็นแล้ว. เราบอกแม่ว่าไปทำรายงานบ้านเพื่อน แม่บอกไม่ให้ไปมันค่ำแล้ววันหลังค่อยไป. เรารอจนแม่กลับไปสวน เราถึงขับรถออกไปหาแฟน ไปถึงบ้านแฟนเราก็ไปนั่งเล่นคอมดูยูทูป คุยกันปกติ ไม่เคยมีอะไรเกินเลย แม้แต่ครั้งเดียว พี่เขาบอกว่าถ้าเราไม่พร้อมเขาจะไม่ทำ ....... เดี๋ยวมาต่อ