คือดิฉันชอบบทความนี้มากๆเลยค่ะ ขอใช้พื้นที่ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ นี่เป็นเรื่องราวดีๆมุมหนึ่งของศาสนาอิสลาม อ่านแล้วร่วมพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดกันได้นะ
บาบอ อะลี ยะยา ลาเซ็ม เป็นที่รู้จักในด้าน ความหล่อ, มีรูปร่างที่สมส่วน,และร่างกายที่แข็งแรง
เมื่อใดก็ตามที่ผ้าโสร่ง ,สระบัน และหมวกของท่าน หลุดออก ท่านก็อยู่คล้ายลูกครึ่งยุโรบ อเมริกา, หรือ ออสเตรเลีย
...วันหนึ่ง ท่านได้รับคำเชิญให้ไปบรรยาย ณ เมืองจัมปารา ขณะรถที่ท่านนั่ง กำลังวิ่งไปตามท้องถนน ได้หยุดรอไฟแดง ขณะนั้นท่านได้นั่งข้างๆคนขับรถ และท่านก็ได้ปลดหมวกและสระบันที่ท่านใส่ออก ทันใดนั้น มีหญิงสาว สวยและเซ็กซี่คนหนึ่ง ได้เข้ามาใกล้ท่าน
ผู้หญิงกลางคืน คนนั้น คิดไปว่า ผู้ชายที่นั่งรถแบบนี้ คงมีสะตุ้งสะตังค์และคงกำลังหาความสนุกสนานในยามค่ำคืน
ผู้หญิงได้ทักทาย , มาลัม (ราตรีสวัสด์)
ท่านก็ตอบว่า มาลัม (ราตรีสวัสดิ์)
ไปๆ , ไปได้หรือ?
อะ, ไปได้ ,ไปได้, เชิญเข้ามา..
หญิงสาวคนนั้นก็ได้รีบเข้าไปในรถยนตร์ ประตูปิดลง และรถก็เริ่มออกเดินทาง
ผู้หญิงคนนั้นได้ถามว่า"ไปไหนกันหรือ, ต้องการฉันไหม", ฉันอยู่เป็นเพื่อนให้คุณถึงเช้าได้นะ?
ในขณะนั้น ท่านกำลังสวมใส่ หมวก และสระบัน ท่านก็ได้ตอบแบบสบายๆว่า อ๋อ กำลังไปบรรยายที่ จัมบารา , ไม่เป็นไร ไปด้วยกันได้..
หญิงสาวคนนั้น ก็ตกใจ และรู้สึกผิด ,นี่ตกลงท่าน เป็นบาบอหรือ?
เมื่อกี้ยังเรียกบัง ตอนนี้ เรียก บาบอ ตลกเนอะ? บาบอ อาลี อมยิ้มเบาๆ
ขอโทษนะ, บาบอ, ฉันไม่รู้จริงๆเลย มาอัฟจริงๆๆ
ผู้หญิงคนนั้น วิตกกังวล และมีสีหน้าขาวซีด
แต่ทว่า บาบอ อาลี ตอบด้วยความนุ่มนวล ไม่เป็นไรหรอก สบายใจได้, เธอตามไปงานบรรยายกับเราดีเลย,,
ไม่เป็นไร บาบอ ฉันลงตรงนี้ก็ได้,
ไม่ได้, เธอต้องมากับเรา, เมื่อกี้เธอบอกว่า จะตามไปด้วยไง
แต่ฉันไม่ได้สวมใส่ผ้าคลุมหัวนะ? บาบอ
ไม่เป็นไร ไม่ใช่ปัญหา เดี๋ยวค่อยยืมคนที่นู่นแล้วกัน
แต่ฉันอายนะ บาบอ?
อืม , เธอเป็นโสเภณี ไม่ละอายหรือ? แต่กลับละอายกับการไปงานบรรยายศาสนากลางคืน? มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไงละ บาบอ , ในสภาพที่ผู้หญิงมีความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก, แล้วนางพูดขึ้นว่า ฉันกลัว, บาบอตอบขึ้นว่า เมื่อกี้บอกว่า อาย แต่ตอนนี้บอกว่า กลัว มันยังใงแน่?
ด้วยความสุขุมของ บาบออาลี ท่านได้ทำให้ผู้หญิงคนนั้น สบายใจ ,แล้วท่านพูดว่า ทำตัวให้สบาย...
รถได้วิ่งไป จนกระทั่งถึงจุดหมาย ปลายทาง ณ สถานที่บรรยาย บรรยากาศ ณ ที่แห่งนั้น ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ผู้คนมากมายต่างรอคอย ผู้คนทั้งชายและหญิง ห้อมล้อม เวที อย่างเนืองเเน่น ทีมงาน ผู้ดำเนินรายการ ต่างรอคอยการมาของบาบออาลี
เมื่อบาบอ อาลีลงจากรถยนต์ ท่านก็รีบเข้าไปยังกลุ่มญามาอะห์ ผู้หญิง,
มะอัฟนะ พอจะยืมผ้าคลุมได้ไหม พอดี บูไยอี ลืมผ้าคลุม"
#บูไยอี คือ คำเรียกที่ให้เกียรติ โดยปกติจะใช้เรียกกับภรรยา ของบาบอ (กีไยอี) หรือจะแปลว่า (ท่านหญิง) ก็ได้
หะ จริง? ภรรยากีไยอี ลืม ผ้าคลุม
ด้วยความงงนิดๆ ของกลุ่มญามาะอฺมุสลิมะฮฺ แต่พวกนาง ก็รีบตอบไปว่า ได้ๆ รอสักครู่นะคะ
กลุ่มมุสลิมมะฮฺ ก็รีบไปเอา และไม่นานนักพวกนางก็กลับมาพร้อมผ้าคลุม ฮีญาบ และมอบให้หญิงสาวที่อยู่ในรถ และนางก็ได้สวมใส่ เมื่อชุดเสื้อผ้าดูเรียบร้อยแล้ว นางก็ลงจากรถ และมาชาอัลลอฮฺ กลุ่มญามาอะฮฺ มุสลิมะฮฺ ต่างเข้ามาจูบมือของนาง อย่างเนืองเเน่น, เอาบาร่อกัต เอาบาร่อกัต ,คำพูดของพวกเขา,,
นางได้พบกับการต้อนรับ อย่างมีเกียรติ ผู้หญิงโสเภณี ได้กับกลายเป็น บูไยอี (ท่านหญิง) นางหน้าตาขาวซีด ถูกเชิญให้เข้าไปนั่ง ณ สถานที่แขกพิเศษ มีผู้คนคอยรับใช้เยี่ยงราชีนี ในขณะนั้นมีทั้งความรู้สึกอาย และเศร้า เกิดขึ้นในหัวใจของนาง
การบรรยายได้ดำเนินไป การพูดของบาบออาลี นั้นไม่ธรรมดา เป็นข้อมูลที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
...เสร็จสิ้นจากการบรรยาย บูไยอี ก็ถูกเชิญให้รับประทานอาหารต่างๆที่เจ้าภาพได้จัดเตรียมเอาไว้ มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน
แต่ก่อนที่จะรับประทานอาหาร กลุ่มมุสลิมะฮฺ ขอให้บูไยอี (ผู้หญิงคนนั้น) ดุอา เพื่อเป็นบาร่อกัตแก่พวกนางเหล่านั้น ทันใดนั้น นางก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะนานแล้วที่ไม่ได้ดุอาเลย แล้วก็ลืมไปหมดแล้ว ดุอาที่เคยท่องจำตอนเด็กๆ สมัยเรียนที่มัสยิด แต่ยังโชคดี ที่นางพอจะจำดุอา ร็อบบานา อาตีนา ฟิดดุนยา ฮาสานะห์ ได้
ดังนั้น ก่อนเดินทางกลับ กลุ่มมุสลีมะฮฺ ก็ได้เวียนกันมาจูบมือ และได้ส่งนางอย่างมีเกียรติจนกระทั่งขึ้นรถ
ตลอดการเดินทาง บนรถ ผู้หญิงขายบริการคนนั้น ร้องให้อย่างมาก น้ำตาไหลหยดลงมาตลอด บาบออาลี และคนขับรถก็ปล่อยให้นางร้องต่อไป
ภายหลังจากนั้น บาบอ อาลีก็ได้นะซีฮัตว่า"
เธอไม่พิจารนา ไม่ใคร่ครวญดอกหรือ ว่าผู้คนได้กระทำอย่างไรกับเธอ ,ให้เกียรติเธอ , ได้อ้อมกอดเธอ ได้ส่งเธอ และเต็มอกเต็มใจ เข้าไปหาเธอ เพียงแค่ได้จูบมือของเธอ คนแล้วคนเล่า ต่างเข้ามา เพื่อหวังบาร่อกัต จากดุอาของเธอ ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่า เธอคือใคร?
ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องให้ รู้สึกอบยส น่ารังเกียจ โศกเศร้าเสียใจ นึกถึงการกระทำบาปต่างๆที่เคยก่อขึ้นมา , แต่อัลลอฮฺ กลับปกปิดความผิดดังกล่าว และอัลลอฮฺ ทรงเมตตาต่อเธอจริงๆ
วันนี้ "คำพูดของบาบออาลีกล่าวต่อ"เธอ ได้รับนะซีฮัตที่อาจเป็นไปได้ว่า มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเธอ ดังนั้น จงรีบเตาบัตเถิด และขออภัยโทษต่ออัลลอฮ อย่าปล่อยให้วิญญาน ถึงลำคอ ก่อนเธอเตาบัต นางก็ยิ่งร้องให้ บาบออาลี ก็ปล่อยนางไว้ในสภาพนั้น
ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้น พลางกล่าวขึ้นว่า ขอบคุณ บาบอมากๆ ที่ได้นาซีฮัต และความบาร่อกัตในเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นกับตัวฉัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเตาบัต และหยุดอาชีพนี้
____________________________
จาก pena santri
ถอดความอิบนุอัฟฟาน อัลฮาชีมีย์
เพจ #อุลามะอฺที่ข้าพเจ้ารู้จัก
บาบอและหญิงโสเภณี
บาบอ อะลี ยะยา ลาเซ็ม เป็นที่รู้จักในด้าน ความหล่อ, มีรูปร่างที่สมส่วน,และร่างกายที่แข็งแรง
เมื่อใดก็ตามที่ผ้าโสร่ง ,สระบัน และหมวกของท่าน หลุดออก ท่านก็อยู่คล้ายลูกครึ่งยุโรบ อเมริกา, หรือ ออสเตรเลีย
...วันหนึ่ง ท่านได้รับคำเชิญให้ไปบรรยาย ณ เมืองจัมปารา ขณะรถที่ท่านนั่ง กำลังวิ่งไปตามท้องถนน ได้หยุดรอไฟแดง ขณะนั้นท่านได้นั่งข้างๆคนขับรถ และท่านก็ได้ปลดหมวกและสระบันที่ท่านใส่ออก ทันใดนั้น มีหญิงสาว สวยและเซ็กซี่คนหนึ่ง ได้เข้ามาใกล้ท่าน
ผู้หญิงกลางคืน คนนั้น คิดไปว่า ผู้ชายที่นั่งรถแบบนี้ คงมีสะตุ้งสะตังค์และคงกำลังหาความสนุกสนานในยามค่ำคืน
ผู้หญิงได้ทักทาย , มาลัม (ราตรีสวัสด์)
ท่านก็ตอบว่า มาลัม (ราตรีสวัสดิ์)
ไปๆ , ไปได้หรือ?
อะ, ไปได้ ,ไปได้, เชิญเข้ามา..
หญิงสาวคนนั้นก็ได้รีบเข้าไปในรถยนตร์ ประตูปิดลง และรถก็เริ่มออกเดินทาง
ผู้หญิงคนนั้นได้ถามว่า"ไปไหนกันหรือ, ต้องการฉันไหม", ฉันอยู่เป็นเพื่อนให้คุณถึงเช้าได้นะ?
ในขณะนั้น ท่านกำลังสวมใส่ หมวก และสระบัน ท่านก็ได้ตอบแบบสบายๆว่า อ๋อ กำลังไปบรรยายที่ จัมบารา , ไม่เป็นไร ไปด้วยกันได้..
หญิงสาวคนนั้น ก็ตกใจ และรู้สึกผิด ,นี่ตกลงท่าน เป็นบาบอหรือ?
เมื่อกี้ยังเรียกบัง ตอนนี้ เรียก บาบอ ตลกเนอะ? บาบอ อาลี อมยิ้มเบาๆ
ขอโทษนะ, บาบอ, ฉันไม่รู้จริงๆเลย มาอัฟจริงๆๆ
ผู้หญิงคนนั้น วิตกกังวล และมีสีหน้าขาวซีด
แต่ทว่า บาบอ อาลี ตอบด้วยความนุ่มนวล ไม่เป็นไรหรอก สบายใจได้, เธอตามไปงานบรรยายกับเราดีเลย,,
ไม่เป็นไร บาบอ ฉันลงตรงนี้ก็ได้,
ไม่ได้, เธอต้องมากับเรา, เมื่อกี้เธอบอกว่า จะตามไปด้วยไง
แต่ฉันไม่ได้สวมใส่ผ้าคลุมหัวนะ? บาบอ
ไม่เป็นไร ไม่ใช่ปัญหา เดี๋ยวค่อยยืมคนที่นู่นแล้วกัน
แต่ฉันอายนะ บาบอ?
อืม , เธอเป็นโสเภณี ไม่ละอายหรือ? แต่กลับละอายกับการไปงานบรรยายศาสนากลางคืน? มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไงละ บาบอ , ในสภาพที่ผู้หญิงมีความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก, แล้วนางพูดขึ้นว่า ฉันกลัว, บาบอตอบขึ้นว่า เมื่อกี้บอกว่า อาย แต่ตอนนี้บอกว่า กลัว มันยังใงแน่?
ด้วยความสุขุมของ บาบออาลี ท่านได้ทำให้ผู้หญิงคนนั้น สบายใจ ,แล้วท่านพูดว่า ทำตัวให้สบาย...
รถได้วิ่งไป จนกระทั่งถึงจุดหมาย ปลายทาง ณ สถานที่บรรยาย บรรยากาศ ณ ที่แห่งนั้น ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ผู้คนมากมายต่างรอคอย ผู้คนทั้งชายและหญิง ห้อมล้อม เวที อย่างเนืองเเน่น ทีมงาน ผู้ดำเนินรายการ ต่างรอคอยการมาของบาบออาลี
เมื่อบาบอ อาลีลงจากรถยนต์ ท่านก็รีบเข้าไปยังกลุ่มญามาอะห์ ผู้หญิง,
มะอัฟนะ พอจะยืมผ้าคลุมได้ไหม พอดี บูไยอี ลืมผ้าคลุม"
#บูไยอี คือ คำเรียกที่ให้เกียรติ โดยปกติจะใช้เรียกกับภรรยา ของบาบอ (กีไยอี) หรือจะแปลว่า (ท่านหญิง) ก็ได้
หะ จริง? ภรรยากีไยอี ลืม ผ้าคลุม
ด้วยความงงนิดๆ ของกลุ่มญามาะอฺมุสลิมะฮฺ แต่พวกนาง ก็รีบตอบไปว่า ได้ๆ รอสักครู่นะคะ
กลุ่มมุสลิมมะฮฺ ก็รีบไปเอา และไม่นานนักพวกนางก็กลับมาพร้อมผ้าคลุม ฮีญาบ และมอบให้หญิงสาวที่อยู่ในรถ และนางก็ได้สวมใส่ เมื่อชุดเสื้อผ้าดูเรียบร้อยแล้ว นางก็ลงจากรถ และมาชาอัลลอฮฺ กลุ่มญามาอะฮฺ มุสลิมะฮฺ ต่างเข้ามาจูบมือของนาง อย่างเนืองเเน่น, เอาบาร่อกัต เอาบาร่อกัต ,คำพูดของพวกเขา,,
นางได้พบกับการต้อนรับ อย่างมีเกียรติ ผู้หญิงโสเภณี ได้กับกลายเป็น บูไยอี (ท่านหญิง) นางหน้าตาขาวซีด ถูกเชิญให้เข้าไปนั่ง ณ สถานที่แขกพิเศษ มีผู้คนคอยรับใช้เยี่ยงราชีนี ในขณะนั้นมีทั้งความรู้สึกอาย และเศร้า เกิดขึ้นในหัวใจของนาง
การบรรยายได้ดำเนินไป การพูดของบาบออาลี นั้นไม่ธรรมดา เป็นข้อมูลที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
...เสร็จสิ้นจากการบรรยาย บูไยอี ก็ถูกเชิญให้รับประทานอาหารต่างๆที่เจ้าภาพได้จัดเตรียมเอาไว้ มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน
แต่ก่อนที่จะรับประทานอาหาร กลุ่มมุสลิมะฮฺ ขอให้บูไยอี (ผู้หญิงคนนั้น) ดุอา เพื่อเป็นบาร่อกัตแก่พวกนางเหล่านั้น ทันใดนั้น นางก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะนานแล้วที่ไม่ได้ดุอาเลย แล้วก็ลืมไปหมดแล้ว ดุอาที่เคยท่องจำตอนเด็กๆ สมัยเรียนที่มัสยิด แต่ยังโชคดี ที่นางพอจะจำดุอา ร็อบบานา อาตีนา ฟิดดุนยา ฮาสานะห์ ได้
ดังนั้น ก่อนเดินทางกลับ กลุ่มมุสลีมะฮฺ ก็ได้เวียนกันมาจูบมือ และได้ส่งนางอย่างมีเกียรติจนกระทั่งขึ้นรถ
ตลอดการเดินทาง บนรถ ผู้หญิงขายบริการคนนั้น ร้องให้อย่างมาก น้ำตาไหลหยดลงมาตลอด บาบออาลี และคนขับรถก็ปล่อยให้นางร้องต่อไป
ภายหลังจากนั้น บาบอ อาลีก็ได้นะซีฮัตว่า"
เธอไม่พิจารนา ไม่ใคร่ครวญดอกหรือ ว่าผู้คนได้กระทำอย่างไรกับเธอ ,ให้เกียรติเธอ , ได้อ้อมกอดเธอ ได้ส่งเธอ และเต็มอกเต็มใจ เข้าไปหาเธอ เพียงแค่ได้จูบมือของเธอ คนแล้วคนเล่า ต่างเข้ามา เพื่อหวังบาร่อกัต จากดุอาของเธอ ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่า เธอคือใคร?
ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องให้ รู้สึกอบยส น่ารังเกียจ โศกเศร้าเสียใจ นึกถึงการกระทำบาปต่างๆที่เคยก่อขึ้นมา , แต่อัลลอฮฺ กลับปกปิดความผิดดังกล่าว และอัลลอฮฺ ทรงเมตตาต่อเธอจริงๆ
วันนี้ "คำพูดของบาบออาลีกล่าวต่อ"เธอ ได้รับนะซีฮัตที่อาจเป็นไปได้ว่า มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเธอ ดังนั้น จงรีบเตาบัตเถิด และขออภัยโทษต่ออัลลอฮ อย่าปล่อยให้วิญญาน ถึงลำคอ ก่อนเธอเตาบัต นางก็ยิ่งร้องให้ บาบออาลี ก็ปล่อยนางไว้ในสภาพนั้น
ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้น พลางกล่าวขึ้นว่า ขอบคุณ บาบอมากๆ ที่ได้นาซีฮัต และความบาร่อกัตในเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นกับตัวฉัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเตาบัต และหยุดอาชีพนี้
____________________________
จาก pena santri
ถอดความอิบนุอัฟฟาน อัลฮาชีมีย์
เพจ #อุลามะอฺที่ข้าพเจ้ารู้จัก