หมอดีๆ ไม่ได้มีทั่วไป และมีน้อยลงทุกวัน

ขอจั่วหัวกว้างหน่อย แต่ในกระทู้ผมขอนิยามแบบนี้ครับ "ดี" คือใส่ใจต่อวิชาชีพ ใส่ใจต่อคนไข้
ที่ตั้งกระทู้ขึ้นมาก็อยากจะสะท้อนในด้านที่ตัวเองพบเจอมา การที่ต้องมีหมอประจำ(ซึ่งหลายๆคนก็คงมี)
แต่ผมก็คิดไปไกลกว่านั้นว่าแล้วถ้าไม่มีท่านๆแล้วเราจะทำอย่างไร

เล่าเรื่องคราวๆ ผมเองเป็นคนป่วยสม่ำเสมอ ทั้งๆที่พยายามดูแลตัวเองแล้วแต่ก็ซวยทุกครั้งไป
โรคที่ป่วยก็ไม่มีอะไรมาก ก็พวกเกี่ยวกับอากาศ หลอดลมอักเสบและพวกท้องเสียหรือลำไส่อักเวบ ประมาณนี้
(แนวบอบบางต่อสิ่งรอบข้าง เวลาเค้าไปเที่ยวหนาวๆกัน เราไปบ้างคงไม่รอด อยากกินของดิบยอดนิยมกับเค้าบ้าง ก็คงต้องจองโรงบาลไว้ก่อนเลย)
(ปกติผมเข้าโรงบาลเอกชน)
ตอนป่วยเป็นลำไส้อักเสบ คือกินอะไรเข้าไปก็ปวดท้อง หิวแต่กินไม่ได้
- ไปหาหมอคนแรกโรงพยาบาลแรก ดูแลดีมาก
ฉีดยาแก้ปวด 1 เข็ม แล้วกลับบ้าน หมดฤทธิ์ยากินอะไรก็ปวดอีก
- ย้ายมาหาหมอคนที่สองโรงบาลที่สอง(โรงบาลประจำ)
แอดมิดและให้ยาแก้ปวดอีก พอหมดฤทธิ์ยาก็ปวดอีก(เหมือนเดจาวู กรรม)
ผมก็เลยบอกหมอกินได้ครับ หิวครับ แต่เหมือนไม่ย่อย สิ่งที่หมอวินิจฉัยผมนี่ถึงกับต้องโวย! คือ...
เมื่อหิวแสดงว่ามีน้ำย่อยออก ฉนั้นหมอจะสอดท่อเข้าไปดูดน้ำย่อยจะได้ไม่ต้องหิว??? เวรเลย....
(ผมเองไม่ใช่หมอ แต่ทำงานเกี่ยวกับ Software Solution มาเป็นสิบปี ฉนั้นการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ มันอยู่ในเส้นอยู่แล้ว
คนป่วยคิดแบบไม่ต้องเยอะ "กิน ขี้ ปี้ นอน" ถ้ายังได้ปกติคือไม่ป่วย แล้วผมหิว แต่กินแล้วปวดท้อง ทำไมไม่ให้ผมกิน )
ผมจึงไม่เซ็นยินยอมให้กระทำใดๆ จนแม่มาเยี่ยม แม่เห็นตรงกันว่ามันไม่ถูกต้อง จึงย้ายผมไปให้หมอประจำครอบครัว
(หมอท่านนี้เคยดูแลคุณย่าตอนที่ยังไม่เสีย และญาติๆ) 
หลังจากหมอท่านนี้มาตรวจ กดที่ท้อง ถามว่ากินแล้วถึงปวดใช่ไหม กินได้ใช่ไหม หมอลงความเห็นว่า "ลำไส่อักเสบ"
กินได้ก็กินเลย เดี๋ยวจะฉีดยาช่วยย่อยและแก้อาเจียนให้ หลังจากนั้นครึ่งวัน ผมก็กินได้ปกติ นอนโรงบาลแค่คืนเดียว

จากนั้นผมก็หาหมอท่านนี้มาตลอด เมื่อไหร่ที่ท่านไม่อยู่แล้วไม่เจอหมอเวร ไม่เคยรักษาหายเลยแม่แต่ครั้งเดียว
ล่าสุดผมเจ็บคอมากๆ และมีไข้ขึ้น ตรงวันหยุดของคุณหมอ เลยไปเจอหมอเวรอีก (ซวย)
อาการผมคือเจ็บคอมาก และไข้ก็ลงแล้วเพราะกินยาแก้ไข้ ตอนตรวจคัดกรองไม่มีไข้ ไข้ประมาณ 37-38 ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก เป็นมา 1 วัน
หมอเวรพอฟังว่ามีไข้เลยให้ไปเจาะเลือดและเก็บเนื้อเยื่อโพรงจมูกหาไข้หวัดใหญ่???
ผมก็ไม่ได้อวดเก่งว่าผมรู้ว่าผมไม่เป็น แต่ที่ถึงบางอ้อก็เพราะตอนตรวจไข้หวัดใหญ่
พนักงานแล็ปเค้าพูดอีกอาการนึง และบอกว่าเดี๋ยวก็โลง ไม่คัดจมูกแล้ว (ผมนี้พูดไม่ออกเลย คือ...แบบ อาการนี้ไม่ใช่กู T_T)
พอตรวจไม่พบไข้หวัดใหญ่ ก็จ่ายยา 5 บาท 10 บาท ยาอม ยาแก้แพ้ ยาลดย้ำมูก บลาๆ... แบบที่ซื้อได้ถูกๆตามร้านทั่วไป
แล้วมันก็ไม่หาย จนวันนี้ผมต้องลางานอีกเพื่อมาพบหมอประจำ คือ....

จากความรู้สึกส่วนตัว(ด่าได้แต่อย่าแรง)
ผมรู้สึกว่าหมอเวร หลายๆท่านที่เจอ จากที่ผมสังเกตุการวินิจฉัย ร้อยทั้งร้อยทำไปตามสเต็ป ไม่ได้ผ่านอะไรในหัวเลย การวิเคราห์ไม่มี
เน้นรักษาตามอาการ ปิดเคสเร็ว เดี๋ยวไม่หายก็ค่อยว่ากัน และตอนนี้ครอบครัวผมเองมีชื่อหมอประจำกันเลย 2-3 ท่าน แต่ละท่านก็มีอายุ
หมอเด็กนี่ก็รักษากันมาตั้งแต่ผมเด็กๆ จนรุ่นลูก 30 ปี แล้ว ท่านก็แก่มากแล้ว แอบเป็นห่วงว่าถ้าไม่มีท่านๆเหล่านี้ เหมือนไม่มีที่พึ่งเลย

ที่มาตั้งกระทู้ก็เพราะอยากเห็นหมอรุ่นใหม่ๆที่เข้ามาแทนได้บ้าง(หรือผมยังไม่เห็น)  จะได้เป็นที่พึ่งของคนไข้ต่อไป
ไม่ใช่แทนที่จะรักษาวันสองวัน ก็ตรวจโน่นนี่ ทดลองไปเรื่อยๆ คนไข้ก็เจ็บตัวไปเรื่อยๆ เสียเงินไปเรื่อยๆ
สมัยนี้บทความ เคสอะไรทางการแพทย์มันก็เยอะแยะมากมาย ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องรอประสบการณ์เป็นสิบๆปี
และที่สำคัญคนสมัยนี้ฉลาด โรคทั่วไป ยา เข้าถึงข้อมูลได้หมดเพียงแต่สั่งรักษาตัวเองไม่ได้เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่