🤣 สวัสดีค่าาาาาา วันนี้เราขอนำเสนอห้องอาหารไทยระดับ Michelin Star สุดครีเอทีฟ ที่มีต้นกำเนิดมาจากกรุง Copenhagen แต่ยังคงรสชาติความเป็นไทยไว้ได้ดี แต่พอไปดูชื่อเชฟแล้ว โอ้ววว ฝรั่งทำอาหารไทยได้รสชาตินี้เลยหรอ ใครว่างๆไปชิมกันได้นะค้าาา
ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้าาา ><
>>> FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇹🇭 Sra Bua by Kiin Kiin - สระบัว บาย กิน กิน
⭐️ 1 Michelin Star - 1 ดาวมิชลิน
🇩🇰 Kiin Kiin ร้านอาหารไทยชื่อดัง ณ กรุง Copenhagen ประเทศ Denmark ควบคุมโดย Henrik Yde-Andersen เชฟมากฝีมือผู้หลงไหลในอาหารไทย ตัวร้านถูกการันตีด้วยรางวัล 1 ดาวมิชลินใน Michelin Guide Denmark ตั้งเเต่ปี 2006 มาจนถึงปัจจุบัน
🇹🇭 Srabua by Kiin Kiin เกิดจากความร่วมมือของเชฟ Henrik Yde-Andersen กับเชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ และโรงแรม Sian Kempinski Bangkok จนเกิดเป็นสุดยอดห้องอาหารไทยสุดครีเอทีฟระดับ 1 ดาวมิชลิน ทางร้านเสิร์ฟเมนูอาหารไทยในรูปแบบ Modern Gastronomy ใช้เทคนิคการปรุงสมัยใหม่จากทั่วโลกเปลี่ยนเมนูอาหารไทยดั้งเดิมให้ออกมามีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร
🦞 ลูกค้าสามารถเลือกทานเป็น Tasting Menu ประจำฤดูกาลที่ทางร้านเพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่ในปีนี้เรียกว่า The Summer Journey Set Menu ในราคาเซ็ตละ 3,200++ หรือจะเลือกทานเมนู A la Carte ที่ทางร้านตั้งชื่อให้ว่า Create Your Own Journey เป็นเมนูที่รวบรวมคอร์สซิกเนเจอร์สุดคลาสสิคของทางร้านอย่างไอศกรีมแกงแดงกับสลัดกุ้งล็อบสเตอร์ หรือจะเป็นแกงเขียวหวานปลาคอดทานกับบีทรูทก็ล้วนเด็ดไม่แพ้กัน
📃 The Summer Journey Set Menu (3,200++)
- Snack and Street Food
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
- Squid, Green Asparagus, Egg Yolk and Holy Basil
- Larb Duck Salad with Foie Gras, Mint
- Seabass with White Five Spices, Fennel
- Scallop in Green Curry with Beetroot
- Flowers of Thailand “Vers Yves Klein”
- Leaves of Thailand's Pandan -- Tea -- Kaffir Lime
📃 Create Your Own Journey (A la Carte Menu)
- Snack and Street Food
- Maine Lobster Salad, Frozen Red Curry (900++)
- Cod Fish in Green Curry with Beetroot (960++)
- Slow Cooked Beef Rib with Homemade Oyster Sauce (960++)
- Banana Cake, Salted Ice Cream and Caramelised Milk (490++)
- Lemon Foam with Thai Basil Sorbet (390++)
- Mango Sticky Rice (480++)
- Pistachio Soufflé, Pandan Ice Cream and Pandan Noodle (480++)
👍 อาหารรสอร่อย มีการนำเสนอที่น่าสนใจ บรรยากาศดีตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว
รสชาติ : 15/20
ราคา : 10/20
ความคุ้มค่า : 13/20
บรรยากาศ : 15/20
บริการ : 15/20
ความประทับใจโดยรวม : 15/20
- Snack and Street Food
Soya meringue, wasabi yogurt
ถัดมามีสองอย่างเสิร์ฟคู่กันคือเมอแรงก์ทำจากซอยซอส รสเค็มๆมันๆ (13/20) และวาซาบิโยเกิร์ตรสเผ็ด มีกลิ่นฉุนขึ้นจมูกของวาซาบิ (13/20)
- Snack and Street Food
Laksa soup with oyster tempura, pork rind and Thai chili dip
ซุปลักซ่าที่ใช้น้ำซุปต้มยำที่มีรสเปรี้ยวหวานมันเค็มแบบไทยๆเบส ผสมกับน้ำกะทิจนมีความนวลความมันความเข้มข้นเพิ่มขึ้นมาจนคล้ายต้มยำน้ำข้นเสิร์ฟมาอุ่นๆ รสชาติกลมกล่อมมากๆ ให้ดูดผ่านหลอดได้เลย (14/20)
- Snack and Street Food
Laksa soup with oyster tempura, pork rind and Thai chili dip
ข้างบนคือเทมปุระหอยนางรมที่ทอดมาจนกรอบ สีเหลืองสวย ไม่มีกลิ่นคาวเลย (14/20)
- Snack and Street Food
Laksa soup with oyster tempura, pork rind and Thai chili dip
สุดท้ายคือเเคบหมูกับน้ำพริกหนุ่มรสเผ็ดแบบไทยแท้ๆ (13/20)
- Snack and Street Food
Cashew nuts in magic bag
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เสิร์ฟมาในถุงพลาสติคทานได้ ตัวถุงทำจากจากข้าวโพดทำให้เมื่อทานจะละลายในปสก เมล็ดมะม่วงหิมพานต์คลุกมากับเกลือมีรสเค็มๆช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (14/20)
- Snack and Street Food
Yellow curry cornetto
ไอศกรีมปูผัดผงกะหรี่ เสิร์ฟมาในโคนทรงกรวยกรอบๆ ทอปด้านบนด้วยผักชี ตัวไอศกรีมมีความนวลและหอมกลิ่นผงกะหรี่และกลิ่นปูจริงๆอย่างไม่น่าเชื่อ อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว (14/20)
- Welcome Drink
Lemongrass and pandan ice tea
หลังจากเดินเข้าร้านมาพนักงานจะพามานั่งที่โต๊ะรับรองก่อนเพื่อนำเสิร์ฟสตรีทฟู้ดืเริ่มตากน้ำตะไคร้มะนาวมีกลิ่นหอมตะไคร้กับรสเปรี้ยวของมะนาว เสิร์ฟมากับดอกไม้พับมาสวยงาม (11/20)
- Snack and Street Food
Traditional Thai kanom krok topped with Ossetra caviar
มาถึงสุดยอดอาหารเรียกน้ำน่อยที่ดีที่สุดของค่ำคืนนี้คือขนมครกหน้าตาบ้านๆ ทอปด้านบนด้วยออสซีตร้าคาเวีย ตัวขนมครกผิวบาง เนื้อกะทิหวานเข้มข้น ความสุดยอดคือการตัดรสเค็มด้วยไข่ปลาออสซีตร้าคาเวียที่มีรสเค็มในปริมาณที่เหมาะเจาะมากๆ เเถมยังไร้ซึ่งกลิ่นคาว ทานเเล้วต้องร้องว้าวเลยทีเดียว (17/20)
- Snack and Street Food
Miang Kam
อาหารริมทางเรียกน้ำย่อยถัดมาคือเมี่ยงคำสูตรพิเศษของทางร้าน มีส่วนผสมหลายอย่างเริ่มจาก กุ้งแห้ง ถั่วลิสง มะพร้าวคั่ว ขิง หอมแดง สับปะรด และน้ำเสาวรส ปิดท้ายด้วยน้ำเมี่ยงคำ คลุกให้เข้ากัน ใส่ในใบชะพลู ทอปด้วยมะนาว และเมล็ดพริกเพิ่มความเผ็ด เป็นอันเสร็จ (14/20)
- Snack and Street Food
Miang Kam
ความสุดยอดของสูตรนี้คือการใส่น้ำเสาวรสเเละสับปะรดลงไปช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวของเที่ยงคำให้ทีมิติมากขึ้นและอร่อยกว่าเมี่ยงคำทั่วๆไปขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง น้ำซอสเมี่ยงคำมีรสหวานกลมกล่อมตัดกับรสเปรี้ยวได้อย่างดี รสเผ็ดของพริกที่ใส่มาทำให้รสหวานไม่บาดคอ กระทั่งใบชะพลูทางร้านยังคัดมาไม่ให้ปนใบแก่จนมีรสขม อร่อยใช้ได้เลยจริงๆ (14/20)
- Snack and Street Food
Miang Kam
หน้าตาสวยงามและยังอร่อยอีกด้วย พอทานเสร็จพนักงานก็จะพาเราไนั่งที่โต๊ะ (14/20)
- Snack and Street Food
Tuna tartare
สุดท้ายเมื่อมานั่งที่โต๊ะจะมีอาหารว่างจานสุดท้ายวางไว้ให้คือทูน่าทาทาร์ผสมน้ำกะทิ เสิร์ฟมาบนดอกบัวสไตล์ไทย ทานกับรากบัวทอดกรอบให้ความต่างของเนื้อสัมผัสนุ่ม-กรอบได้อย่างดี (14/20)
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
จานแรกของเซ็ทเมนูคือต้มโคล้งหัวกุ้งล็อบสเตอร์ เสิร์ฟมาเป็นเซ็ตใหญ่ ดูอลังการมากๆ (16/20)
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
ทีเด็ดคือส่วนหัวของกุ้งล็อบสเตอร์ ย่างมาอุ่นๆจนมันหัวกุ้งเยิ้ม มีกลิ่นหอมครีมมี่มากๆ (16/20)
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
วิธีทานให้ใช้แผ่นข้าวเกรียบกุ้งทอปด้วยซอสมะนาวจิ้มกับส่วนมันกุ้ง อร่อยอย่าบอกใคร (16/20)

- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
จานนี้เชฟได้รับแรงบัลดาลใจมาจากมาม่าต้มโคล้งแบบไทยๆ วิธีทานให้ใช้หลอดฉีดยาดันเนื้อเต้าหู้ใส่ลงไปในซุปต้มโคล้ง น้ำซุปรสแซ่บแบบไทยๆ เต้าหู้เองก็มีเนื้อนุ่ม ละลายในปาก (16/20)
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
คอร์สถัดมาคือเซวิเช่อย่างไทย เมนูไทยประยุกต์ที่นำเซวิเช่ของชิลีเข้ามาผสานกับอาหารไทยอย่างกุ้งเเช่น้ำปลา คอร์สนี้มีส่วนผสมของพริก กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว ปลาฮาลิบัตดิบ น้ำเสาวรส ขิงอ่อน น้ำส้มเขียวหวาน น้ำตาล และผักชี (16/20)
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
นำมาผสมกัน ตำในครกจนละเอียดต่อหน้าลูกค้า หมักไว้ 7 นาทีตามนาฬิกาทรายเพื่อให้ปลาถูกทำให้สุกด้วยกรดจากมะนาว (16/20)
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
ต่อมาพนักงานจะจัดเสิร์ฟแบบเย็นในลูกเสาวรส รองด้านล่างด้วยสายไหม เทน้ำแข็งลงไปจนควันพุ่งขึ้นมา ดูสวยงามอลังการ (16/20)

- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
นอกจากหน้าตาจะสวยเเล้ว รสชาติยังอร่อยไม่แพ้ใคร เนื้อปลาฮาลิบัตนุ่ม ละมุนลิ้น มีกลิ่นหอมของสมุนไพรไทย มีรสเปรี้ยวของน้ำส้มเขียวหวาน น้ำมะนาว มีรสหวานจัดของสายไหม มีกลิ่นหอมของเสาวรส ความว้าวคือการเสิร์ฟมาแบบเย็นทำให้เราได้รสชาติที่แปลกไม่ซ้ำใครจริงๆ (16/20)
- Squid, Green Asparagus, Egg Yolk and Holy Basil
สำหรับจานนี้คือกะเพราปลาหมึกที่เชฟนำมาตรความใหม่คล้ายกับการ Deconstruction เริ่มจากปลาหมึกหั่นซอยมาเป็นเส้นๆ ทานกับหน่อไม้ฝรั่งอ่อน ตรงกลางคือไข่แดงลาวาออแกนิค ซอสหอยนางรมและซอยซอส ใบกะเพรา กุ้งแห้ง ทานเข้าไปจะได้รสชาติและกลิ่นของกะเพรามาเเบบจัดเต็ม เนื้อปลาหมึกสุกกำลังพอดี เคี้ยวหนึบ ถือเป็นการยกระดับเมนูพื้นบ้านอย่างกะเพราให้ล้ำขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง (14/20)
ไปต่อกันในคอมเม้นนะคะ
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
[CR] 🇹🇭 Sra Bua by Kiin Kiin - สระบัว บาย กิน กิน ห้องอาหารไทยระดับ Michelin Star สุดครีเอทีฟ by ตามล่า Fine Dining
ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้าาา ><
>>> FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇹🇭 Sra Bua by Kiin Kiin - สระบัว บาย กิน กิน
⭐️ 1 Michelin Star - 1 ดาวมิชลิน
🇩🇰 Kiin Kiin ร้านอาหารไทยชื่อดัง ณ กรุง Copenhagen ประเทศ Denmark ควบคุมโดย Henrik Yde-Andersen เชฟมากฝีมือผู้หลงไหลในอาหารไทย ตัวร้านถูกการันตีด้วยรางวัล 1 ดาวมิชลินใน Michelin Guide Denmark ตั้งเเต่ปี 2006 มาจนถึงปัจจุบัน
🇹🇭 Srabua by Kiin Kiin เกิดจากความร่วมมือของเชฟ Henrik Yde-Andersen กับเชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ และโรงแรม Sian Kempinski Bangkok จนเกิดเป็นสุดยอดห้องอาหารไทยสุดครีเอทีฟระดับ 1 ดาวมิชลิน ทางร้านเสิร์ฟเมนูอาหารไทยในรูปแบบ Modern Gastronomy ใช้เทคนิคการปรุงสมัยใหม่จากทั่วโลกเปลี่ยนเมนูอาหารไทยดั้งเดิมให้ออกมามีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร
🦞 ลูกค้าสามารถเลือกทานเป็น Tasting Menu ประจำฤดูกาลที่ทางร้านเพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่ในปีนี้เรียกว่า The Summer Journey Set Menu ในราคาเซ็ตละ 3,200++ หรือจะเลือกทานเมนู A la Carte ที่ทางร้านตั้งชื่อให้ว่า Create Your Own Journey เป็นเมนูที่รวบรวมคอร์สซิกเนเจอร์สุดคลาสสิคของทางร้านอย่างไอศกรีมแกงแดงกับสลัดกุ้งล็อบสเตอร์ หรือจะเป็นแกงเขียวหวานปลาคอดทานกับบีทรูทก็ล้วนเด็ดไม่แพ้กัน
📃 The Summer Journey Set Menu (3,200++)
- Snack and Street Food
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
- Squid, Green Asparagus, Egg Yolk and Holy Basil
- Larb Duck Salad with Foie Gras, Mint
- Seabass with White Five Spices, Fennel
- Scallop in Green Curry with Beetroot
- Flowers of Thailand “Vers Yves Klein”
- Leaves of Thailand's Pandan -- Tea -- Kaffir Lime
📃 Create Your Own Journey (A la Carte Menu)
- Snack and Street Food
- Maine Lobster Salad, Frozen Red Curry (900++)
- Cod Fish in Green Curry with Beetroot (960++)
- Slow Cooked Beef Rib with Homemade Oyster Sauce (960++)
- Banana Cake, Salted Ice Cream and Caramelised Milk (490++)
- Lemon Foam with Thai Basil Sorbet (390++)
- Mango Sticky Rice (480++)
- Pistachio Soufflé, Pandan Ice Cream and Pandan Noodle (480++)
👍 อาหารรสอร่อย มีการนำเสนอที่น่าสนใจ บรรยากาศดีตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว
รสชาติ : 15/20
ราคา : 10/20
ความคุ้มค่า : 13/20
บรรยากาศ : 15/20
บริการ : 15/20
ความประทับใจโดยรวม : 15/20
- Snack and Street Food
Soya meringue, wasabi yogurt
ถัดมามีสองอย่างเสิร์ฟคู่กันคือเมอแรงก์ทำจากซอยซอส รสเค็มๆมันๆ (13/20) และวาซาบิโยเกิร์ตรสเผ็ด มีกลิ่นฉุนขึ้นจมูกของวาซาบิ (13/20)
- Snack and Street Food
Laksa soup with oyster tempura, pork rind and Thai chili dip
ซุปลักซ่าที่ใช้น้ำซุปต้มยำที่มีรสเปรี้ยวหวานมันเค็มแบบไทยๆเบส ผสมกับน้ำกะทิจนมีความนวลความมันความเข้มข้นเพิ่มขึ้นมาจนคล้ายต้มยำน้ำข้นเสิร์ฟมาอุ่นๆ รสชาติกลมกล่อมมากๆ ให้ดูดผ่านหลอดได้เลย (14/20)
- Snack and Street Food
Laksa soup with oyster tempura, pork rind and Thai chili dip
ข้างบนคือเทมปุระหอยนางรมที่ทอดมาจนกรอบ สีเหลืองสวย ไม่มีกลิ่นคาวเลย (14/20)
- Snack and Street Food
Laksa soup with oyster tempura, pork rind and Thai chili dip
สุดท้ายคือเเคบหมูกับน้ำพริกหนุ่มรสเผ็ดแบบไทยแท้ๆ (13/20)
- Snack and Street Food
Cashew nuts in magic bag
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เสิร์ฟมาในถุงพลาสติคทานได้ ตัวถุงทำจากจากข้าวโพดทำให้เมื่อทานจะละลายในปสก เมล็ดมะม่วงหิมพานต์คลุกมากับเกลือมีรสเค็มๆช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (14/20)
- Snack and Street Food
Yellow curry cornetto
ไอศกรีมปูผัดผงกะหรี่ เสิร์ฟมาในโคนทรงกรวยกรอบๆ ทอปด้านบนด้วยผักชี ตัวไอศกรีมมีความนวลและหอมกลิ่นผงกะหรี่และกลิ่นปูจริงๆอย่างไม่น่าเชื่อ อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว (14/20)
- Welcome Drink
Lemongrass and pandan ice tea
หลังจากเดินเข้าร้านมาพนักงานจะพามานั่งที่โต๊ะรับรองก่อนเพื่อนำเสิร์ฟสตรีทฟู้ดืเริ่มตากน้ำตะไคร้มะนาวมีกลิ่นหอมตะไคร้กับรสเปรี้ยวของมะนาว เสิร์ฟมากับดอกไม้พับมาสวยงาม (11/20)
- Snack and Street Food
Traditional Thai kanom krok topped with Ossetra caviar
มาถึงสุดยอดอาหารเรียกน้ำน่อยที่ดีที่สุดของค่ำคืนนี้คือขนมครกหน้าตาบ้านๆ ทอปด้านบนด้วยออสซีตร้าคาเวีย ตัวขนมครกผิวบาง เนื้อกะทิหวานเข้มข้น ความสุดยอดคือการตัดรสเค็มด้วยไข่ปลาออสซีตร้าคาเวียที่มีรสเค็มในปริมาณที่เหมาะเจาะมากๆ เเถมยังไร้ซึ่งกลิ่นคาว ทานเเล้วต้องร้องว้าวเลยทีเดียว (17/20)
- Snack and Street Food
Miang Kam
อาหารริมทางเรียกน้ำย่อยถัดมาคือเมี่ยงคำสูตรพิเศษของทางร้าน มีส่วนผสมหลายอย่างเริ่มจาก กุ้งแห้ง ถั่วลิสง มะพร้าวคั่ว ขิง หอมแดง สับปะรด และน้ำเสาวรส ปิดท้ายด้วยน้ำเมี่ยงคำ คลุกให้เข้ากัน ใส่ในใบชะพลู ทอปด้วยมะนาว และเมล็ดพริกเพิ่มความเผ็ด เป็นอันเสร็จ (14/20)
- Snack and Street Food
Miang Kam
ความสุดยอดของสูตรนี้คือการใส่น้ำเสาวรสเเละสับปะรดลงไปช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวของเที่ยงคำให้ทีมิติมากขึ้นและอร่อยกว่าเมี่ยงคำทั่วๆไปขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง น้ำซอสเมี่ยงคำมีรสหวานกลมกล่อมตัดกับรสเปรี้ยวได้อย่างดี รสเผ็ดของพริกที่ใส่มาทำให้รสหวานไม่บาดคอ กระทั่งใบชะพลูทางร้านยังคัดมาไม่ให้ปนใบแก่จนมีรสขม อร่อยใช้ได้เลยจริงๆ (14/20)
- Snack and Street Food
Miang Kam
หน้าตาสวยงามและยังอร่อยอีกด้วย พอทานเสร็จพนักงานก็จะพาเราไนั่งที่โต๊ะ (14/20)
- Snack and Street Food
Tuna tartare
สุดท้ายเมื่อมานั่งที่โต๊ะจะมีอาหารว่างจานสุดท้ายวางไว้ให้คือทูน่าทาทาร์ผสมน้ำกะทิ เสิร์ฟมาบนดอกบัวสไตล์ไทย ทานกับรากบัวทอดกรอบให้ความต่างของเนื้อสัมผัสนุ่ม-กรอบได้อย่างดี (14/20)
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
จานแรกของเซ็ทเมนูคือต้มโคล้งหัวกุ้งล็อบสเตอร์ เสิร์ฟมาเป็นเซ็ตใหญ่ ดูอลังการมากๆ (16/20)
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
ทีเด็ดคือส่วนหัวของกุ้งล็อบสเตอร์ ย่างมาอุ่นๆจนมันหัวกุ้งเยิ้ม มีกลิ่นหอมครีมมี่มากๆ (16/20)
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
วิธีทานให้ใช้แผ่นข้าวเกรียบกุ้งทอปด้วยซอสมะนาวจิ้มกับส่วนมันกุ้ง อร่อยอย่าบอกใคร (16/20)
- Tom Klong Soup, Grilled Lobster Head, Ginger, Lime and Prawn Cracker Aioli
จานนี้เชฟได้รับแรงบัลดาลใจมาจากมาม่าต้มโคล้งแบบไทยๆ วิธีทานให้ใช้หลอดฉีดยาดันเนื้อเต้าหู้ใส่ลงไปในซุปต้มโคล้ง น้ำซุปรสแซ่บแบบไทยๆ เต้าหู้เองก็มีเนื้อนุ่ม ละลายในปาก (16/20)
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
คอร์สถัดมาคือเซวิเช่อย่างไทย เมนูไทยประยุกต์ที่นำเซวิเช่ของชิลีเข้ามาผสานกับอาหารไทยอย่างกุ้งเเช่น้ำปลา คอร์สนี้มีส่วนผสมของพริก กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว ปลาฮาลิบัตดิบ น้ำเสาวรส ขิงอ่อน น้ำส้มเขียวหวาน น้ำตาล และผักชี (16/20)
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
นำมาผสมกัน ตำในครกจนละเอียดต่อหน้าลูกค้า หมักไว้ 7 นาทีตามนาฬิกาทรายเพื่อให้ปลาถูกทำให้สุกด้วยกรดจากมะนาว (16/20)
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
ต่อมาพนักงานจะจัดเสิร์ฟแบบเย็นในลูกเสาวรส รองด้านล่างด้วยสายไหม เทน้ำแข็งลงไปจนควันพุ่งขึ้นมา ดูสวยงามอลังการ (16/20)
- Thai Ceviche with Halibut Passionfruit, Tangerine
นอกจากหน้าตาจะสวยเเล้ว รสชาติยังอร่อยไม่แพ้ใคร เนื้อปลาฮาลิบัตนุ่ม ละมุนลิ้น มีกลิ่นหอมของสมุนไพรไทย มีรสเปรี้ยวของน้ำส้มเขียวหวาน น้ำมะนาว มีรสหวานจัดของสายไหม มีกลิ่นหอมของเสาวรส ความว้าวคือการเสิร์ฟมาแบบเย็นทำให้เราได้รสชาติที่แปลกไม่ซ้ำใครจริงๆ (16/20)
- Squid, Green Asparagus, Egg Yolk and Holy Basil
สำหรับจานนี้คือกะเพราปลาหมึกที่เชฟนำมาตรความใหม่คล้ายกับการ Deconstruction เริ่มจากปลาหมึกหั่นซอยมาเป็นเส้นๆ ทานกับหน่อไม้ฝรั่งอ่อน ตรงกลางคือไข่แดงลาวาออแกนิค ซอสหอยนางรมและซอยซอส ใบกะเพรา กุ้งแห้ง ทานเข้าไปจะได้รสชาติและกลิ่นของกะเพรามาเเบบจัดเต็ม เนื้อปลาหมึกสุกกำลังพอดี เคี้ยวหนึบ ถือเป็นการยกระดับเมนูพื้นบ้านอย่างกะเพราให้ล้ำขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง (14/20)
ไปต่อกันในคอมเม้นนะคะ
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้