เล่าประสบการณ์ สอบใบอนุญาตให้เป็นทนายความ (ฉบับเด็กน้อย)

กระทู้สนทนา
สวัสดีเจ้าค่ะ สืบเนื่องจากอยากอ่านรีวิวสอบทนายแบบอินดี้แต่ไม่เห็นมี(เจอแต่เครียดๆ) =___="
ในฐานะผู้ที่เคยเข้าร่วมการสอบทั้งภาคที่ใช้แบบพิมพ์ศาลและไม่ใช้แบบพิมพ์ศาล
ได้ไปร่วมฟังบรรยายที่สภาทนายความทั้งของภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เลยจะมาเม้าท์มอยรีวิวตามใจฉันให้ผู้ที่หาข้อมูลอยู่ได้อ่านไว้ เก็บเป็นประสบการณ์อ่านขำๆแก้เบื่อแก้เซ็งกัน
ปล.มีภาษาวิบัติเยอะผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำควรเลิกอ่าน ณ บัดนี้ 

เอาล่ะ เริ่ม!
การเตรียมตัว(ตั้งสติกับชีวิต)เพี้ยนเบลอ
หลังจากเรียนจบมา เจอโลกกลายเป็นคนงงๆไม่มั่นใจในตัวเอง กฎหมายกว้างมาก ชีวิตชั้นจะไปทางไหน หางานทำยังไง สุดท้ายคิดว่านิสัยแบบนี้พฤติกรรมแบบนี้ เป็นทนายนี่แหละ อยากเป็นชั้นอยากเป็นนนน
**สำคัญนาจา** บางคนอยากเป็นราชการ อยากสอบท่าน อัยการ มุ่งแต่ราชการเก็บอายุงาน 2 ปี เขาก็ประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการ บางคนรักอิสระชอบเดินทางพร้อมลุย จะให้เป็นนิติกรอยู่ในสนง.ก็คงไม่ไหว บางคนก็อยากเป็นนิติกร อยากเป็นที่ปรึกษากฎหมายไม่ได้อยากเป็นทนายก็มี ใจมันต้องมาก่อนค่ะคุณพี่ (ตอนแรกๆก็ยังงี้แหละ มีไฟ) พลุ

หลังจากตั้งสติได้ อยากเป็นทนาย เอาว๊ะ เรียนจบมุ่งทนายเลยนี่แหละ สู้!

ขั้นแรก ไปขอร้องผู้หลักผู้ใหญ่ คุณป้าขาช่วยหนูหน่อยนะคะ ได้โปรด หาสนง.ให้หนูฝึกทีนะคะ เพี้ยนสตรอเบอร์รี่ป้าทำหน้าเหนื่อยใจแต่ช่วยไหว้วานเพื่อนฝูงหาให้ จนอิช้านได้ไปฝึกสนง.แห่งหนึ่ง ไปฝึกเงินดงเงินเดือนอะไรไม่ได้หรอก กินความฝันแทนข้าวค่ะ 555 ล้อเล่ง แต่ไม่ได้เป็นเงินเดือนน่ะจริง อาศัยสายป่านพ่อแม่ส่งเป็นหลัก (ภาระครอบครัว) ท่านหน.สนง.ผู้ใจดีก็ให้ค่าอาหารกลางวันเป็นการตอบแทนน้องๆที่มาฝึกซะมากกว่า (บางทีกาแฟรายวันแพงกว่าค่าแรงปกติอีก)

ต่อมา หลังจากที่มาฝึกได้เดือนกว่า ช่วงแรกก็น่ั่งโง่ๆในสนง.ทำงานตามสั่งช่วยเขาดูแลสนง. กวาดพื้นล้างจาน ชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร ไรก็ว่าไป สักพักชักไม่ไหว(หมายถึงโง่อะ) ก็เริ่มตีซี้พี่ทนายที่ดูเข้าท่าเข้าทาง(และหล่อ)เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนชนแก้วจะให้เขาสอน เขาก็ให้เริ่มจากฟ้องแพ่งก่อนไปท่องสูตรการเขียนที่ต้องใช้สอบ ให้หลักมา บอกให้ไปหัดท่อง ให้มา 7 ข้อ
1.สถานะโจทก์-จำเลย
2.นิติสัมพันธ์
3.การโต้แย้งสิทธิ
4.ความเสียหาย(ต้องการอะไร)
5.การบอกกล่าวทวงถาม
6.โจทก์ไม่มีทางอื่นใด(จะบังคับเอาแก่จำเลย(ทั้ง...)ได้ จึงต้องนำคดีมาฟ้องร้องต่อศาล ขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง บังคับเอาแก่จำเลย(ทั้ง..)ต่อไป)
7.ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ท่องหลักไปเขียนไปเฉพาะเจ้า 7 ข้อกว่าจะจำลงสมองน้อยๆได้ 1 เดือน

หลังจากนั้นไม่นาน พี่ทนายผู้สูงอายุในสนง.ก็ได้มอบหมายให้เด็กมาขอฝึกงานตัวน้อยๆทำสำนวนคดีจริง WTF! @_@??? 
สำนวนคดีแรกในชีวิตที่ทำ แพ่งสามัญกู้ยืมเงิน พี่เขาก็มีแบบข้อมูลที่จำเป็นไว้ให้คร่าวๆละ แก้ข้อมูลให้ตรงตามข้อเท็จจริงในคดี ประยุกต์เอา 7 ข้อมาใช้ ทำไปแก้ไปคดีเดียว 1 อาทิตย์กว่าจะเสร็จ พร้อมถ่ายเอกสารเตรียมไว้ให้ตามจำนวนชุดของจำเลย นึกว่าเรียบร้อยละ พอทนายที่รับผิดชอบคดีมา เห็นเอกสารที่เราเตรียมไว้และบอกไม่เอา จะเอาแบบนี้ ทั้งหมายเรียก คำแถลง ใบแต่งทนาย บัญชีพยาน (พี่ขึ้นศาลเอาตามพี่) แก้งานตั้งแต่สี่โมงยันสามทุ่ม เรียงเอกสารใหม่หมด แก้ฟ้องอีกเพี้ยนกริบสำเนาคำฟ้องหนาเกือบ 1 ริม/ชุด เอกสารที่ถ่ายเฉพาะคดีอิช้านน้านหนา 3-4 ริม ไม่รวมโดนดึงออก ที่เสีย และบลาๆ เม่าเป็นลมมึน

หลังจากนั้นก็ มีไปยื่นเอกสารตามศาล ทำใบมอบฉันทะ ส่งหมาย เม่าออกรถได้ไปแรดๆเที่ยวตจว.บ้างติดรถพี่ที่มาฝึกด้วยกันไปก็ไปดูชีวิตการทำงานจริงๆนั่นแหละ ชีวิตเหมือนจะเฮฮาอยู่สองสามเดือน อ่านบ้างไม่อ่านบ้างแต่ไม่เคยลืมท่อง 7 หลักทุกอาทิตย์กลัวจะลืม แล้วก็ท่องมรรยาททนายไปทุกข้อ(ยกเว้นข้อ 1-3) วันละข้อสองข้อ ทวนทุกอาทิตย์ ส่วนของฟ้องอาญาใช้พื้นฐานตอนเรียนป.ตรีเพียวๆ สัญญาก็อิงหลักตอนป.ตรีเป็นหลัก ที่เริ่มอ่านใหม่เลยคือโนติส  คำร้อง/แถลง/ขอ และอื่นๆที่คิดว่าอ.น่าจะเอามาออกสอบ

ว่าด้วยการอ่านหนังสือสอบ
ช่วงแรกมีไฟ ยอมรับว่าอ่านบ่อยมากจ้า เรียนเพื่อรู้และเข้าใจก็โอเคนะ สนุกดี พอหลังจากที่ไปฟังอบรมจากสภาจะสอบจริง ม่ายๆๆๆ ชั้นคิดอะไรไม่ออกอมยิ้ม41มีอาการสติแตกก่อนสอบ 1 เดือน จนทนไม่ได้ เบลอ จับประเด็นอะไรไม่ได้เลย ชีวิตกดดัน แบกรับความกดดันของคนรอบตัว สุดท้ายเสียเงินลงติว 5,000 ....เม่าตกอับ ดูก่อนสอบ 1 เดือน จะนั่งจะนอนในห้องน้ำขึ้นรถเมล์ ฟังกรอกหูให้หลอนเข้าสมอง สรุปคือเหมือนดูคลิปติวเพื่อเก็บประเด็นที่หลุดตอนอ่านหนังสือ จริงๆก็ดีมากเลยนะเหมาะกับเด็กน้อยผู้กำลังหลงทางที่สุด ผู้เฒ่าผู้แก่วัยทำงานหรือเด็กน้อยหัดเดินที่สอบครั้งแรก ข้าพเจ้าแนะนำว่าท่านลงติวเหอะ ให้มีคนมาเซ็ทระบบคิดในสมองของท่านก่อนอยากอ่านอะไรต่อมีพื้นแล้วค่อยมาอ่านทีหลัง เพราะการมานั่งอ่านเองนั้นมันหลงทางและเหนื่อยยากมากจริงๆเม่าสงสัย

....เพี้ยนลอยไปเรียนที่สภาภาคทฤษฎี
พอสภาทนายเปิดอบรมสำหรับผู้สอบภาคทฤษฎี ชั้นกับเพื่อนก็ไปนั่งเรียนไปส่องผู้ชาย(ที่เด็กๆหล่อๆขาดแคลนสุดๆ) เต่าเอือม เเละฟังอ.สอน เบลอบ้างแอบงีบลืมตาบ้างตามสไตล์ แต่รายงานหน.และพี่ๆที่สนง.ว่า พี่ค้า หนูมาเรียนทู๊กวันเลยค่า 555 
สิ่งที่อิช้าน เบื่อสุดๆของการมาอบรมภาคทฤษฎีก็คือ เจอคนเพี้ยนกว่าอิชั้นเยอะมากเว่อร์ blueนี่ชั้นว่าชั้นเพี้ยนละนะ ป้าๆลุงๆเพี้ยนหนักกว่าอีก ทั้งเด็กที่เอาเป๋าวางกันที่ไม่ให้คนนั่ง ป้าไล่ที่ว่ามีคนนั่งตรงนี้แต่กั๊กที่ไว้ไม่ให้คนนั่งบังตัวเองเฉยๆ ลุงที่มาโวยวายเรื่องไปซื้อข้าวแถวสภาแล้วไม่ได้ตังค์ทอน 5 บาท 10 บาทบ้างล่ะ (เกี่ยวอะไรกับสำนักฝึกอบรม?) คนยุกยิกที่ถามรบกวนอ.ผู้บรรยายตลอด (แหม่ ป้าาาา)
ซึ่งมนุษย์เหล่านี้เยอะมากในการอบรมภาคทฤษฎี ประมาณ 20-30 % ของผู้มาฟังและเป็นขาประจำซะด้วย อยากบอกว่ารบกวนผู้ฟังบรรยายท่านอื่นสุด เสียสมาธิด้วย เราบอกให้ท่านเตรียมใจเลยทีเดียวเชียว เพี้ยนเสียงสูง

ไปเรียนที่สภาภาคปฏิบัติ
 จริงๆไปนั่งฟังตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าจะสอบผ่านไม่ผ่านและบอกได้เลยว่า ดีกว่าภาคทฤษฎีเยอะมาก ถือว่าคัดกรองคนเพี้ยนออกจากระบบเลย นี่ก็ไปฟังแทบทุกวันยกเว้นวันติดธุระ เงียบสงบ เรียน HAppy มีความสุข ถึงอาจจะมีก็ไม่ออกลายเยอะแบบภาคทฤษฎี ท่านใดอยากไปฟังเป็นความรู้แนะนำเลยค่ะ

การสอบ!!!!ทั้งมีแบบพิมพ์และไม่มีแบบพิมพ์เพี้ยนจริงจังเม่าตาสว่างเม่าเหม่อ
ไม่มีอะไรกล้าแนะนำพวกท่านผู้อ่าน นอกจากสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ พกสติ อิชั้นก็อาการหนักมากเจ้าค่ะถึงกับต้องตระเวนไหว้พระขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยเหลือเพี้ยนเฮงเฮงขอท่านได้โปรดช่วยลูกช้างให้สอบทนายผ่านด้วยเทอญ เพี้ยนสะอื้นเพ้อหนักมาก
เพราะ!!!! อิชั้นเคยเจอเหตุการณ์ทำข้อสอบได้แต่เบลอจนทำผิดเจ้าค่า!!!! ไม่ใช่อะไรหรอกทำคดีแล้วเอาคดีจริงมาใส่ คุณต้องเข้าใจด้วยว่าโลกความจริงเวลาฟ้องคดีกับโลกข้อสอบตามหลักทฤษฎีนั้นไม่เหมือนกัน เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ข้อสอบสั่งอะไรทำตามนั้น อย่าไปเถียง หากท่านคิดว่าแน่ ท่านเตรียมดีแค่ไหน แต่วันนั้นที่สอบสติท่านไม่อยู่กับเนื้อกับตัวล่องลอยไปในอวกาศเหมือนเพลงของน้องทอย ธันวาล่ะก็ ท่านจะเกิดอาการฉันทำได้แต่ฉันตก
2. การเขียนที่ต้องเขียนติด Speed ให้ได้มากที่สุด ดิชั้นเขียนข้อสอบไม่ทัน ตอนเขียนข้อสอบฟ้องอาญาเหลือเวลาเขียนเพียงสิบกว่านาที เม่าตกใจกริ๊สสสส หลับหูหลับตาเขียนแบบไร้สมองมากจ้า ไม่ต้องถามความสวยงามของคำฟ้องนะยะ Facepalmก๊อปวางให้ครบองค์ประกอบฟ้องแล้วไม่โดนยกฟ้องพอ สุดท้ายเขียนขาดไป 1 ข้อ
หายไป 1 ข้อ คะแนนหายไปโง่ๆแบบไม่ฉลาดอย่างน้อย 5-10 คะแนน (ซึ่งดิชั้นนี่เองหายไปฟรีถึง 10 คะแนน)ขี้แง *ย้ำ*ว่า 1 คะแนนก็มีค่ามากจ้า ทนายความหลายคนที่กว่าจะสอบได้เคยผ่านประสบการณ์อันชอกช้ำระกำใจคือ ได้ 47 48 49 ทำให้ต้องสอบห้าหกรอบก็มี ดังนั้น ถ้าท่านมั่นใจว่าทำข้อสอบได้ ท่านควรหลับหูหลับตารีบเขียนให้ได้ครบทุกข้อแล้วค่อยมาแก้มาเพิ่มทีหลังจะช่วยไม่ให้ท่านเสียคะแนนฟรีและเรียกค่าน้ำหมึกให้ท่านอ.ช่วยเหลือได้มาก
3.อย่าผิดแบบ อันนี้เป็นประสบการณ์ที่เห็นด้วยลูกกะตาตัวเองในห้องสอบ ระหว่างที่รอท่านผู้คุมสอบนำกระดาษ a4 มาให้ เพราะเอาไปเขียนเล่นหมดจนไม่พอเขียนเอกสารทางกฎหมายนอกศาล หันไปชะแว๊บเห็น คนลืมทำคำขอท้ายฟ้องบ้างละ บางคนเขียนคำฟ้องแต่ลงควรมิควรแล้วแต่จะโปรดทำเป็นแบบพิมพ์ 7 (คำร้อง/ขอ/แถลง)กับ 11 (คำให้การ) 3 บรรทัด นี่นั่งมองงง จะเขียนยังไงนั่น ทนายความผู้ฟ้อง?เป็นผู้เรียงและเขียน? อยากอ้าปากบอกลุงงง ผิดแร้ววว อย่าาาาาา เม่าแพนิคแต่พูดไม่ได้ เม่าโศกเข้าใจว่าแกคงเบลอเขียนเยอะจัด เห็นแล้วสงสารแกมากเลย บางคนเขาให้ทำหนังสือมอบอำนาจหยิบใบมอบฉันทะ เพี้ยนสะอื้นนี่ก็หนัก อ.ท่านบอกเลยว่ามาแบบนี้ไม่ตรวจ ศูนย์คะแนนมันยังเปลืองน้ำหมึกจะเขียนให้เลย กรรม
4.รักษาสุขภาพก่อนเข้าห้องสอบให้ดี ทานข้าว ดื่มน้ำปัสสาวะให้เรียบร้อย เอ้ย!ไม่ใช่ค่ะ ขับถ่าย ทานอาหาร ให้ฟิตๆ นี่วันสอบมีอยู่รอบนึงด้วยความอยากให้หัวแล่นๆดื่มกาแฟสดแล้วกาแฟแรงเกิน หัวแล่นก็แล่นหรอกแต่มันแล่นแบบใจสั่นมือสั่นทำข้อสอบ อดทนอดกลั้นเขียน ต่อสู้กับข้อสอบไม่พอต้องมาสู้กับตัวเองอีก ออกมาเจอลุงๆป้าๆบางท่านก็สู้ข้อสอบไม่ไหว นิ้วล็อค เขียนข้อสอบทีเวลา 3 4 ชม.เกือบยี่สิบหน้า ฟังแล้วเครียดเลย
5.ระเบียบการสอบ หาอ่านด้วย

หลังสอบเสร็จอมยิ้ม42
เบลอ มึน หิวข้าว หน้าดำหน้าแดง กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ผ่านไปสามสี่ชม.หลังจากนั้น บางรอบก็ออกมาแบบ ... เพี้ยนเย้ข้อสอบออกอัลลัย ไม่ได้อ่านมาเล้ยยยยย อ่านมาเพื่ออาหร่าย (เสียงแบบอาบัง) เป็นกับผู้ที่ชอบเก็งข้อสอบแบบเดี้ยนออกหลุดตำราเก็งไปมวั๊กๆ เช่น ปีนี้เก็งพินัยกรรมดันออกละเมิด เป็นต้น แม้ความจริงจะพยายามอ่านให้หมดครอบคลุมแต่ควรเก็งข้อสอบไว้บ้างเพื่อสุขภาพจิตที่ดีนะ แบบอย่างน้อยเราก็ได้เรื่องนึงแน่ๆล่ะวะ ไรงี้อ่าค่ะแป๊กมึนตึ๊บเซ็งหนาว

รอผลสอบประกาศผลสอบ
หลังจากสอบเสร็จ ช่วงสองอาทิตย์แรกจะเป็นอะไรที่ยังอินสำหรับผู้เข้าสอบ สำหรับดิชั้นช่วงนี้จะมีอาการรีเช็คข้อสอบ(ที่ทำไรไม่ทันแล้ว) เพ้อหนักมากพร้อมผีเข้าผีออกตลอดเวลาเป็นมนุษย์เมนส์ บางคนก็จะมีอาการช่างหัวมัน บางคนอ่านหนังสือเตรียมสอบต่อ(จะฟิตไปไหน)พาพันขยัน แล้วแต่ตามสภาพตามรายคน

ช่วงผลสอบใกล้จะออกวันประกาศผลสอบและผลสอบออก
มีทั้งผู้สอบผ่านและสอบตกอีชั้นไม่บอกนะว่าอี้ชั่นผ่านหรือตกให้เดากันเอาเอง  เจสัน แต่บอกได้เลยว่าคืนประกาศผลมีทั้งลุ้นตุ้มๆต่อมๆหน้านิ่งบ้างนอนไม่หลับกระสับกระส่ายด้วยความวิตกกังวลบ้าง สำหรับผู้สอบผ่านภาคทฤษฎีนั้น ก็เตรียมสอบภาคปฏิบัติกันต่อไป ส่วนสอบผ่านปฏิบัติแล้วสนามหน้าก็สอบสัมภาษณ์อีก และพบว่ามีห้องเย็นสำหรับผู้สัมภาษณ์ไม่ผ่านอีกด้วยเพี้ยนกริบฉากนี้ท่านผู้สอบผ่านเตรียมใจเลยว่าคนที่ไม่รู้ว่ากว่าจะได้เป็นทนายในช่วงประมาณ 5-6 ปีมานี้มันยากเย็นแค่ไหนจะพบกับคำพูดว่า หะ ยังไม่จบอีกหร๊ะ ส่วนสอบตกก็โดนอีก เสียใจไม่พอถูกซ้ำเติมอีก ไปทำอย่างอื่นเถอะ มีลูกชั้นจะไม่ให้เรียนทนาย แหม่ป้า หนูนี่อยากจะหยอกเย้ากับเจสันให้กำลังใจสิฟระ รู้ไหมว่าสอบมันเหนื่อย!!! เม่าในกองไฟคิดว่าหนูเสกใบอนุญาตให้เป็นทนายความได้เองรึไงหะ ที่สภาทนายทำแบบนี้เพื่อยกระดับวิชาชีพให้พวกลุงๆป้าๆได้เจอกับทนายที่มีคุณภาพ แม้ใจจะกรีดร้องว่าช่วยปล่อยหนูผ่านไปเถอะท่านอ.เม่าร้องไห้สอบซ้ำๆหลายๆรอบกลัวจะหมดไฟกับสายป่านของท่านพ่อท่านแม่ก่อนเม่าผิงไฟบางทีก็เจอคนที่บอกรอบเดียวผ่าน(สอบกี่ปีมาแล้วพวกพี่น่ะ) โปรดอย่าซ้ำเติมเด็กคนเราไม่เหมือนกัน 

สุดท้ายแต่ไม่รู้จะท้ายสุดไหม
คิดไม่ออก เอาเป็นว่าขอเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าสอบทุกท่านสอบผ่านทุกสนามน้า จุ๊บๆเพี้ยนmbpt
ปล.มีอะไรสงสัยให้โทรถามสำนักฝึกอบรมฯโดยตรง ถามพี่ๆน้องๆในพันทิปก็ดีแต่ระวังได้ข้อมูลเก่าไม่อัพเดทพลาดขึ้นมาจะยุ่งจ้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่