Knight of Clues คดีที่ 13 : สรรพสิ่งสังหาร [บทเฉลย]

- ตอนเฉลยมาแล้ว ลองอ่านกันดูว่า วิชาสรรพสิ่งสังหาร แท้จริงเป็นอย่างไร

ตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

-3-
 
          ปิโยเอื้อมมือลงไปแตะเข็มบินที่กระเป๋าสะพายข้างตัวก่อนจะเข้าไปข้างในตึก

            ภายในตึกเป็นลานกว้างโล่งไม่มีสิ่งใด พื้นที่ถูกรอบล้อมด้วยกำแพงโค้งเป็นวงรี ด้านบนเพดานก็เป็นลักษณะโค้งนูนเป็นวงไม่ต่างกัน

            ที่นี่เป็นสถานที่ประลองของปิโยกับมัตเตโอตามเทียบเชิญที่ได้

            มัตเตโอยืนรอปิโยในระยะที่ห่างพอสมควร รอบตัวของเขาประกอบด้วยอาวุธมากมาย ในมือก็ถือไว้อย่างครบครัน

            มัตเตโอเอ่ยทันทีเมื่อเห็นปิโยเห็นเข้ามา

            “ขอบคุณท่านปิโยที่รับคำเชิญของข้า สุดยอดนักล่าค่าหัวอย่างท่านให้เกียรติข้ามากแล้วที่รับคำเชิญนี้”

            ปิโยมองเขา ตอบกลับว่า

            “หึ คงไม่หรอก ข้าว่าเจ้าก็รู้ว่าข้ามาเพราะอะไร เตรียมเงิน 7 แสนบาทีไว้แล้วใช่ไหม”

            “เหอ ๆ ตรง ๆ ชัดเจนเลยนะขอรับ” มัตเตโอบอก “สำหรับเงิน 7 แสนบาที ข้าเตรียมไว้ให้ท่านแล้ว อยู่ที่ว่าท่านจะมีชีวิตกลับไปให้หรือไม่”

            “มั่นใจขนาดนั้นเชียว” ปิโยยิ้มบาง “งั้นเริ่มต้นประลองเลยดีไหม”

            “ย่อมได้”

            การประลองระหว่างเข็มบินทะลวงร่าง ปิโยกับมัตเตโอ ผู้ใช้วิชาสรรพสิ่งสังหารเริ่มต้นขึ้นแล้ว

            ระยะระหว่างทั้งสองคนห่างพอสมควร แต่ว่าการประลองสำหรับผู้ใช้อาวุธระยะไกลระยะห่างไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

            เพราะทันทีเริ่มต้นมัตเตโอซัดอาวุธบินที่มีลักษณะเป็นแมลงปอสองตัวพุ่งเข้าหาปิโยทันที

            ในวงการอาวุธบินทุกต่างทราบดีว่าผู้ใช้อาวุธบินรูปแมลงปอมีเพียงผู้เดียว

            แมลงปอสีเงิน อิสรา 

            อาวุธแมลงปอของอิสราถือเป็นอาวุธบินที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากอาวุธบินทั่วไป เพราะมันบินโจมตีได้ราวกับเป็นแมลงปอมีชีวิต

            แต่ว่าอิสรานั้นเสียชีวิตไปแล้ว ไม่ทราบว่ามัตเตโอมีอาวุธบินแมลงปอนี้ได้อย่างไร

            อาวุธแมลงปอบินสองตัวพุ่งเข้าใส่ปิโยอย่างแม่นยำ และเมื่อถึงระยะหนึ่งแมลงปอทั้งสองนั้นกลับแยกออกเป็นวิถีโค้งหมายเข้าใส่ปิโย

            เพียงแต่ว่าอย่างไรปิโยก็อยู่ในทำเนียบผู้ใช้อาวุธบินอันดับที่ 4

            แต่แมลงปอสีเงิน อิสรา อันดับ 8 

            จะอย่างไรย่อมฝีมือเหนือกว่าเจ้าของอาวุธบินแมลงปออยู่แล้ว

            ปิโยแค่ใช้เข็มบินที่ทำด้วยไทเทเทียมของตนซัดสวนอาวุธรูปแมลงปอที่เข้าใส่มาอย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นความแม่นยำในระดับสูง เพราะอาวุธแมลงปอนั้นมีขนาดเล็กมาก

            อาวุธรูปแมลงปอร่วงหล่นสู่พื้น แต่ว่าเข็มบินของปิโยไม่ใช่แค่หยุดยั้งแมลงปอ เข็มบินของปิโยที่ซัดไปนั้นยังพุ่งต่อไปอีก และทิศทางเข้าหามัตเตโอ

            “ร้ายกาจ”

            มัตเตโอร้องคำขึ้นมา เขาพอรู้อยู่แล้วว่าปิโยต้องซัดโจมตีกลับมาด้วย แต่ก็มิคาดว่าสามารถซัดป้องกันและโจมตีได้ในคำรบเดียว

            ทว่าจะอย่างไรมัตเตโอก็มีฝีมือและความรวดเร็วพอเพียง มัตเตโอหลบเข็มบินทั้งสองเล่มนี้ได้ทันท่วงที

            จุดนี้ปิโยก็คาดการณ์ไว้ได้เช่นกัน เพราะมัตเตโอสังหารยอดฝีมืออาวุธบินมาหลายคน ย่อมไม่มีทางดับอนาถเพราะการโจมตีนี้

            “ถือว่าไม่ธรรมดา” ปิโยเอ่ยขึ้นบ้าง เขายังไม่โจมตีเป็นลำดับสอง “เจ้าถือว่าเป็นผู้มีทักษะด้านอาวุธบินที่ไม่ธรรมดาเลย”

            “มิกล้า มิกล้า ข้าเป็นเพียงอาจารย์ด้านคำนวณ ไฉนเลยจะยอมรับคำชมนี้ได้” มัตเตโอกล่าว

            “ไม่กระมัง ระดับที่เอาอาวุธบินของแมลงปอสีเงิน อิสรามาใช้ได้ มันต้องเหนือกว่าผู้ใช้อาวุธบินโดยทั่วไปอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าท่าไม้ตายของเจ้าคือ สรรพสิ่งสังหาร มิใช่หรือ ไหนเลยไม่ใช้กับข้าล่ะ” 

            “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลหรอก อีกไม่นานต้องใช้แน่” มัตเตโอกล่าวต่อ 

            ซึ่งคำว่าอีกไม่นานของมัตเตโอก็คือในลำดับต่อมา เพราะเมื่อมัตเตโอเห็นปิโยเคลื่อนตัวไปยังจุดหนึ่ง เขาเองก็เคลื่อนตัวไปยังอีกจุด แล้วซัดอาวุธทั้งหลายของตนทันที

            ทิศทางการซัดอาวุธของมัตเตโอย่อมแปลกนัก เพราะแทนที่เขาจะซัดตรงมายังปิโยเช่นเดียวกับตอนโจมตีด้วยอาวุธบินแมลงปอ เขาซัดอาวุธทั้งหลายไปหลายทิศทางรอบตัว ทั้งซ้ายขวาและด้านบน

            อาวุธทั้งหมดต่างพุ่งด้วยความเร็วสูงไปกระทบกำแพงและเพดานของลานประลอง แล้วหวนกลับมาเข้าหาปิโยอย่างรวดเร็ว

            นี่คือ วิชาสรรพสิ่งสังหาร

            แต่ว่าคล้ายกับปิโยจะล่วงรู้มาก่อนว่าในจังหวะนั้นมัตเตโอจะใช้วิชาสรรพสิ่งสังหาร เขาสามารถหลบหลีกห่าอาวุธได้อย่างง่ายดาย

            จริงอยู่ว่าอาวุธทั้งหลายต่างพุ่งกลับมาที่ตนหลายทิศทาง แต่ว่าจุดหมายที่อาวุธทั้งหมดพุ่งไปนั้นเป็นตำแหน่งของปิโยที่เคยอยู่ตอนแรก

            ถ้าบอกว่าเคยอยู่ตอนแรก แสดงว่าตอนนี้ปิโยไม่ได้อยู่ตรงนั้น เขาแค่เคลื่อนตัวไปยังพื้นที่จุดอื่น หลบห่าอาวุธที่พุ่งเข้ามาได้ทั้งหมด

            และไม่เพียงแค่นั้น เพราะว่า....

            มีเข็มบินเล่มหนึ่งกระทบกำแพงและพุ่งเข้าเสียบข้างศีรษะของมัตเตโออย่างแม่นยำโดยที่เขาไม่รู้ตัว

            เลือดหลั่งไหลออกมาจากแผลที่โดนเข็มบินนั้น มัตเตโอพยายามพูดกับปิโยว่า

            “นี่ท่านรู้เคล็ดวิชาสรรพสิ่งสังหารของข้าด้วยหรือ”

            ปิโยยิ้มรับ เขาไม่ได้ซัดโจมตีต่อ กล่าวกลับไปว่า

            “มิผิดแล้ว ข้ารู้เคล็ดลับวิชาสรรพสิ่งสังหารของท่าน ถือว่าท่านเป็นสุดยอดผู้ใช้อาวุธบินจริง ๆ ที่สามารถคิดค้นวิชาเช่นนี้ได้”

            “มิน่าเล่า...” มัตเตโอพยายามเอ่ยต่อ ทั้งที่ใกล้สิ้นชีวิตแล้ว “ท่านเองเลยซัดเข็มบินแบบเดียวกับวิชาสรรพสิ่งสังหารของข้า..”

            ปิโยพยักหน้ารับ ซึ่งเขาก็รู้ซึ้งถึงความจริงของวิชาสรรพสิ่งสังหารจริง ๆ

            แท้จริงแล้ววิชานี้เคล็ดวิชามิได้เน้นกระบวนท่า ความเร็ว หรือพลังปราณแต่อย่างใด จุดสำคัญหลักของวิชาสรรพสิ่งสังหารคือ สถานที่

            เพราะสถานที่นี้ถูกเซ็ตไว้เป็นรูปวงรี

            จากการที่มัตเตโอเป็นอาจารย์ด้านการคำนวณ เขาเรียนรู้เรื่องรูปทรงเรขาคณิต เรื่องวงรีเขาย่อมรู้ มัตเตโอเห็นว่าวงรีจะมีจุดโฟกัสอยู่สองจุดแตกต่างจากวงกลมที่มีจุดเดียว

            นิยามของวงรีในวิชาคำนวณ คือ เซตของจุดทุกจุดบนระนาบซึ่งผลบวกของระยะทางจากจุดใด ๆ ในเซตนี้ไปยังจุดคงที่สองจุดบนระนาบมีค่าคงตัว โดยค่าคงตัวมากกว่าระยะห่างระหว่างจุดคงที่ทั้งสองนั้น

            กล่าวง่าย ๆ คือ ทิศทางที่ออกจากจุดโฟกัสหนึ่งไปยังเส้นรอบรูปของวงรีแล้วโยงตรงกลับมายังจุดโฟกัสอีกจุดจะเท่ากันเสมอ ไม่ว่าออกจากทิศทางใด

            ถ้ากล่าวง่าย ๆ ยิ่งกว่านั้นอีกก็คือ ทิศทางจากที่ออกจากจุดโฟกัสแรกไปถึงเส้นรอบรูปวงรีจะโยงกลับมายังจุดโฟกัสที่สองเสมอนั่นเอง




            มัตเตโอใช้จุดนี้สร้างสถานที่สำหรับการประลองขึ้นมาให้มีกำแพงโดยรอบเป็นวงรี รวมทั้งเพดานด้านบนด้วย เขาคำนวณระยะทุกอย่างให้ลงตัว พร้อมทั้งกำหนดจุดโฟกัสของวงรีไว้บนพื้นที่ประลองแล้ว ซึ่งเมื่อใดที่เขาอยู่ที่จุดโฟกัสหนึ่งและคู่ต่อสู้อยู่ที่จุดโฟกัสที่สอง ไม่ว่าเขาจะซัดอาวุธใด ๆ มันจะพุ่งเข้าอีกจุดโฟกัสอย่างแม่นยำเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิชาใด ๆ เพิ่มเติม

            นี่คือ เคล็ดลับวิชาสรรพสิ่งสังหาร ที่มัตเตโอคิดค้นจากความรู้ด้านวิชาคำนวณของตน

            ซึ่งจุดนี้จากที่ปิโยได้คำปรึกษาของปิแอร์ เขาสืบหาข้อมูลจนทราบถึงเรื่อง และเขาเองก็ใช้ประโยชน์จากลานประลองวงรีนี้เช่นกัน

            ปิโยซัดเข็มบินไปยังกำแพงเล่มหนึ่งในตำแหน่งที่เขาอยู่บนจุดโฟกัสของวงรีเช่นกัน และเข็มนี้ก็กระทบถูกกำแพงเข้าโจมตีมัตเตโอนั่นเอง ส่วนเขาในจังหวะหลังจากซัดเข็มบินแล้ว ก็รีบเคลื่อนไหวออกจากจุดโฟกัส เพื่อหลบหลีกห่าอาวุธที่มัตเตโอซัดเข้ามาแค่นั้น

            มัตเตโอค่อย ๆ ทรุดกายลงกับพื้น เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเหล่ายอดฝีมือจะมีคนที่มีความรู้ด้านนี้อยู่ด้วย จึงไม่คิดว่าปิโยจะล่วงรู้ถึงคุณสมบัติของวงรีแบบนี้

            นักล่าค่าหัวปิโย ไม่โจมตีใด ๆ ต่อ ปล่อยให้ร่างของมัตเตโอค่อย ๆ ทรุดของกับพื้นพร้อมเลือดที่ไหลนอง เขาก้าวเดินไปค้นหาเงินที่มัตเตโอเตรียมไว้ ซึ่งเงินจำนวน 7 แสนบาทีก็มีอยู่จริง ๆ

            ปิโยรีบเก็บเงินทั้งหมดนั้นมา มองร่างมัตเตโอที่ไร้ชีวิตลงที่ลานประลานแล้ว ค่อยเอ่ยขึ้นว่า

            “มัตเตโอ.. วิชาความรู้ของท่านร้ายกาจจริง ๆ ทำให้ท่านคิดค้นวิชาที่ร้ายกาจได้ขนาดนี้ หากข้าไม่ได้ท่านปิแอร์แนะนำเอาไว้ ครานี้ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน นี่สินะ ที่กล่าวกันว่าวิชาความรู้ประดุจดั่งอาวุธ ช่างร้ายกาจยิ่งนัก”

            สิ้นประโยค ปิโยก็ก้าวเดินออกไปจากลานประลองวงรีพร้อมเงินรางวัล

 
......................................................จบตอน
            
            
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่