นิพพานก็ส่วนนิพพาน อนัตตาก็ส่วนอนัตตา อย่าเอามารวมกัน ว่า..

นิพพานก็ส่วนนิพพาน อนัตตาก็ส่วนอนัตตา อย่าเอามารวมกันเป็นอันเดียวกัน ว่า

"นิพพานเป็นอนัตตา"  เพราะนั่นมันมั่วอย่างสุดที่จะคาราบาวไปแล้ว....

แยกแยะ.....

(1) อนัตตาสูตร..
 
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๗ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็น
นาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ๗ จำพวกเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้
พิจารณาเห็นว่าเป็นอนัตตา มีความสำคัญว่าเป็นอนัตตา ทั้งรู้ว่าเป็นอนัตตา ใน
ธรรมทั้งปวง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๗ จำพวกนี้แล เป็นผู้ควรของ
คำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ
จบสูตรที่ ๘

(2) นิพพานสูตร
 
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๗ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควร
ของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรกระทำอัญชลี  เป็นนาบุญของโลก
ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ๗ จำพวกเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ พิจารณาเห็น
ความเป็นสุข สำคัญว่าสุข ทั้งรู้ว่าเป็นสุข ในนิพพาน ตั้งใจมั่น ติดต่อกันไป
ไม่ขาดสาย มีปัญญาหยั่งทราบ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ นี้เป็นบุคคลที่ ๑ เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลกไม่มี
นาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ

นิพพานัง ปรมัง สุขัง
นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่