มีโอกาสได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง เห็นเธอดูผอมลง ก็เลยทักถามทำไมดูผอมลง เธอก็เลยเล่าให้ฟังว่าเธอไม่สบาย
น้ำตาลต่ำ จนเกือบช๊อคตาย เธอเป็นเบาหวาน ก็เลยทานพวกสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด แต่ทานมากไปก็เลยช๊อค
เธอบอกว่า น้ำตาลสูงไม่ตาย แต่น้ำตาลต่ำ เกือบตาย
ฉันยังไม่เป็นเบาหวานก็เลยไม่รู้อาการเป็นยังไง ฉันก็เลยถามเธอว่า ช็อคเกือบตาย อาการเป็นยังไง
เธอเล่าให้ฟังว่า เธอเหงื่อออกท่วมตัวเลย แล้วก็หนาวมาก อ๊วก อยากจะอ๊วก แล้วก็อยากจะหลับ มันจะล้ม
เธอเรียกให้หลานที่อยู่ใกล้ๆ เอาน้ำหวานมาให้กินหน่อย หลานชายเอาน้ำแดงมาให้ดื่ม 2 แก้ว แล้วก็พาไปหาหมอ
แต่กว่าจะถึงหมอ อาการก็เริ่มดีขึ้นแล้ว เพราะมีน้ำตาลแล้ว
อาการช็อคเกือบตายของเธอ เหมือนกับที่ฉันเคยเจอ ตอนที่ทั้งแม่และยาย ตอนกำลังใกล้จะตาย มันใช่เลย อาการก่อนตาย
มีอาการเหงื่อออกทั่วตัว เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมด แล้วก็อ๊วกแล้วอ๊วกอีกเหมือนกัน แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือ เหงื่อออกแล้วมีความรู้สึกหนาว
ความต่างก็คือ แม่ของฉันล้มตัวลงนอน แล้วขาดสติ ก้านสมองตาย ส่วนยาย นั่งรถไปโรงพยาบาล พอถึงโรงพยาบาลแล้วมีเตียงมารับ
พอขึ้นนอนเตียงเข็นเข้าโรงพยาบาล ช่วงนั้นแหละที่ขาดสติ หัวใจล้มเหลว ปั้มเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น
แต่เธอไม่ยอมล้มตัวลงนอน เธอนั่งตลอด นั่งทานน้ำ แล้วก็นั่งพัก ไปโรงพยาบาลก็นั่ง ไม่ยอมนอน ฝืนตัวเองทั้งที่อยากนอน จะล้มแต่ไม่ยอมล้ม
ฉันก็เลยกลับมาคิด ตอนนั้นฉันไม่รู้ไงว่าล้มตัวลงนอนแล้วจะไปเลย แต่มาเจอเธอเล่าว่าเธอไม่ยอมลง ไม่ยอมนอน ทำให้เธอรอดตาย
ถ้าวันนั้นฉันรู้ก่อนว่า ไม่นอนจะรอดตาย ถ้าฉันไม่ยอมให้แม่นอน ไม่ยอมให้ยายนอน วันนั้นจะรอดตายหรือเปล่า มันช่วยชีวิตได้ไหม
แล้วถ้าเจอเคสแบบเดียวกันวันหน้า หรือไปเจอคนที่ใกล้จะตาย ลักษณะเดียวกัน เราจะห้ามเขานอนได้หรือเปล่า จะห้ามเขาไม่ให้ตายได้ไหม
มันใช่วิธีรักษาชีวิตคนเอาไว้หรือเปล่า มีใครเคยใช้วิธีนี้ได้ผลมั่งคะ
เราห้ามคนไม่ให้ตายได้หรือเปล่า
น้ำตาลต่ำ จนเกือบช๊อคตาย เธอเป็นเบาหวาน ก็เลยทานพวกสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด แต่ทานมากไปก็เลยช๊อค
เธอบอกว่า น้ำตาลสูงไม่ตาย แต่น้ำตาลต่ำ เกือบตาย
ฉันยังไม่เป็นเบาหวานก็เลยไม่รู้อาการเป็นยังไง ฉันก็เลยถามเธอว่า ช็อคเกือบตาย อาการเป็นยังไง
เธอเล่าให้ฟังว่า เธอเหงื่อออกท่วมตัวเลย แล้วก็หนาวมาก อ๊วก อยากจะอ๊วก แล้วก็อยากจะหลับ มันจะล้ม
เธอเรียกให้หลานที่อยู่ใกล้ๆ เอาน้ำหวานมาให้กินหน่อย หลานชายเอาน้ำแดงมาให้ดื่ม 2 แก้ว แล้วก็พาไปหาหมอ
แต่กว่าจะถึงหมอ อาการก็เริ่มดีขึ้นแล้ว เพราะมีน้ำตาลแล้ว
อาการช็อคเกือบตายของเธอ เหมือนกับที่ฉันเคยเจอ ตอนที่ทั้งแม่และยาย ตอนกำลังใกล้จะตาย มันใช่เลย อาการก่อนตาย
มีอาการเหงื่อออกทั่วตัว เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมด แล้วก็อ๊วกแล้วอ๊วกอีกเหมือนกัน แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือ เหงื่อออกแล้วมีความรู้สึกหนาว
ความต่างก็คือ แม่ของฉันล้มตัวลงนอน แล้วขาดสติ ก้านสมองตาย ส่วนยาย นั่งรถไปโรงพยาบาล พอถึงโรงพยาบาลแล้วมีเตียงมารับ
พอขึ้นนอนเตียงเข็นเข้าโรงพยาบาล ช่วงนั้นแหละที่ขาดสติ หัวใจล้มเหลว ปั้มเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น
แต่เธอไม่ยอมล้มตัวลงนอน เธอนั่งตลอด นั่งทานน้ำ แล้วก็นั่งพัก ไปโรงพยาบาลก็นั่ง ไม่ยอมนอน ฝืนตัวเองทั้งที่อยากนอน จะล้มแต่ไม่ยอมล้ม
ฉันก็เลยกลับมาคิด ตอนนั้นฉันไม่รู้ไงว่าล้มตัวลงนอนแล้วจะไปเลย แต่มาเจอเธอเล่าว่าเธอไม่ยอมลง ไม่ยอมนอน ทำให้เธอรอดตาย
ถ้าวันนั้นฉันรู้ก่อนว่า ไม่นอนจะรอดตาย ถ้าฉันไม่ยอมให้แม่นอน ไม่ยอมให้ยายนอน วันนั้นจะรอดตายหรือเปล่า มันช่วยชีวิตได้ไหม
แล้วถ้าเจอเคสแบบเดียวกันวันหน้า หรือไปเจอคนที่ใกล้จะตาย ลักษณะเดียวกัน เราจะห้ามเขานอนได้หรือเปล่า จะห้ามเขาไม่ให้ตายได้ไหม
มันใช่วิธีรักษาชีวิตคนเอาไว้หรือเปล่า มีใครเคยใช้วิธีนี้ได้ผลมั่งคะ