เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย  ลางานไม่ได้  กำเงินหมื่นไป  มีเงินเหลือกลับ

วันแรก
06.55-10.30  ไฟลทเช้าดอนเมือง-สิงคโปร์  (เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม.)   ไม่ต้องใช้วีซ่า พกแค่พาสปอร์ตก็ไปได้แล้ว
10.30  ไปถึงสนามบินชางกี   ออกมาจากเกต  ควรแวะซื้อบัตร mrt ezy pass แบบเติมเงิน $10  (มีเงินในบัตร 5 เหรียญ) + ซิมโทรศัพท์เน็ต $10
            ถ้าซื้อผ่านเว็ป https://www.changirecommends.com  ก็จะได้ราคาส่วนลด   ปริ้นเอกสารแล้วไปยื่นที่เคาทเตอร์ได้เลย
            แนะนำให้เติมเงิน 10 เหรียญในบัตร ezy pass เลย

ต่อคิวรอรถบัสเพื่อไปต่อ mrt  
11.30  ไปถึง รร Hotel 81 China town อยู่ติดกับ mrt   สะดวกมาก   ไปแวะดรอปกระเป๋าเพื่อเตรียมเที่ยว
12.00  ออกเที่ยวถ่ายรูปในละแวกไชน่าทาวน์ 
           Sri Mariamman temple
           Buddha tooth replic temple

เดินแล้วแวะหาข้าวกิน  มี food court ไม่ไกล  จิ้มพิกัดตามร้าน Tian tian hananese chicken rice
ร้านข้าวมันไก่ดังของที่นี่  แต่คิวเยอะมาก 40+   ไม่รอละจ้า

หาที่นั่งให้ได้ก่อน ค่อยหาร้านนะ ขอบอก
สรุปได้มาสองเมนู  หนักเค็มไปนิด


15.00  Little India
           Sri veerama kaliamman temple

           ตามแพลนจะไปต่อที่ Mustafa  แต่เดินไม่ไหวแล้วววว ยอมแพ้   
           ขาพังหนักมาก  หนีกลับ รร. ก่อน
16.30  กลับมาอาบน้ำ นอนพักขาก่อน เย็นๆ ค่อยลุยต่อ
18.00  Garden by the bay  มีการแสดงไฟ  วิวสวยๆ เยอะเลย

พอแสดงไฟจบสักพัก  ฝนตกเม็ดใหญ่จ้า   ไปต่อไม่ได้  รอฝนหยุดไปเกือบชม.
20.30   เดินทางไป Merlion  แต่ขึ้นผิดสถานีเลยแวะถ่ายรูป  Esplanade theatres on the bay

เดินไปอีกนิดก็จะเจอสะพาน Jubilee Bridge กับวิวสวยๆ 

เดินถัดไปอีก 350 เมตรก็เจอเจ้าถิ่น Merlion

ณ จุดๆ นี้  เวลาประมาณ 22.45   
Helix bridge อยู่ห่างไป 750 เมตร  ในรูปทางด้านซ้ายมือ
แต่เดินไม่ไหวแล้วว + mrt ปิดตอน 24.00   ดูแล้วอาจกลับไม่ทัน mrt

23.30  กลับถึง รร. แบบหิวโซ  เดินไปกินร้านอาหารจีนที่อยู่เลย 7-11 ไปนิดนึง

6 เหรียญ แต่กินได้สองคนเลยนะ อร่อยใช้ได้
24.00  ซื้อน้ำ 7-11 ก่อนแล้วอาบน้ำ  นอนนนนน

DAY 2
กะตื่นไปถ่ายแสงเช้ากะ Merlion สัก 6.30
ตื่นแล้วแต่ไม่ไหวจ้าา  นอนต่อ

8.00  Fort canning park   แนะนำให้มาเช้าๆ คนมาต่อคิวเยอะ  รอนานพอควร ราวๆ ชม นึง

10.00  กลับที่พัก  แพ็คกระเป๋า  ฝากกระเป่าที่ รร ได้นะ เย็นๆ ค่อยมาเอา
11.00  เช็คเอาท์เรียบร้อย 
           ไปหาไรหม่ำ  ฝากท้องที่ร้าน Song fa

อาหารใช้ได้  น้ำซุปอร่อยมากกก  เติมน้ำซุปฟรีได้ตลอด
12.00  Sentosa Cable Car   ซื้อจากเว็ปได้ส่วนลด 20 เปอ  (ปริ้นมาแล้วยื่นที่เคาทเตอร์)
ตั๋วนี้ใช้นั่งเที่ยวรอบเกาะได้ 1 รอบ    Habor - Sentorsa  ,  และนั่งเที่ยวในเกาะ Sentosa ได้หนึ่งรอบ


ถึงแล้วก็ไปแวะทักทาย เจ้าถิ่นตัวใหญ่

ถ้าซื้อผ่านเว็ป  นั่งกระเช้าฟรี ได้ 1 รอบนะ  เลยไปทางชายหาดได้ด้วย
เราจะแวะลงไปพักผ่อนก็ได้   แต่นี่นั่งวน  เอาแค่ดูวิวกะถ่ายรูปก็พอ
ดูแดดแล้ว  เก็บวิวพอเถอะ

16.30   ขากลับ รร. แวะ China town point ซื้อขนม ของฝาก 
            รีแพ็คกระเป๋าที่ รร แล้วไปสนามบิน
18.00   นั่ง mrt ไปสนามบิน   มุ่งหน้าไป jewel เพื่อถ่ายรูป
            ถ้ามีแรงเหลือ  สามารถเดินจาก mrt ไปได้นะ  ไม่ต้องต่อรถบัส

สวยงาม  ต้องแวะมาถ่ายนะ  แนะนำๆ 

19.00  ถ่ายเสร็จลงไปชั้น B2 หาของกิน 

อิ่มแล้วก็กดเช็คอินออนไลน์  กลับไฟลท 22.20 เดินกลับไปทาง mrt
อย่าลืมคืนบัตร mrt  มัดจำใบละ 5 เหรียญ
ได้เงินคืนแล้ว นั่งรถบัสไป Terminal  

20.00  ช่องเช็คอินคนเยอะมากกกกกกกก  เผื่อเวลาหน่อยก็ดี

20.30  ได้ตั๋วแล้ว ไป Gate D41
            เดินไปที่เกท  ไกล ไกลมาก ไกลมากๆ ไกลมากที่สุดด    
            ยาวกว่าบ้านเราเยอะะะะะ

รวมค่าเสียหายทริปนี้
ค่าเครื่องไป-กลับ คนละ 4985บาท    ไปแอร์เอเชีย  กลับสกู๊ด
ค่าMRT (12$) 266 บาท
ค่าซิม (9.65$) 214 บาท     
ค่า Cable car (29$) 644 บาท
ค่าที่พัก 3081 บาท/คน        (ไปกัน2คน เหลือคนละ1541บาท)
ค่ากิน (มื้อละ 10$*5) 1110 บาท
ค่าซื้อขนมของฝาก (~30$) 650 บาท

กำเงินไปไม่ถึงหมื่นก็เที่ยวได้  ไม่เน้นชอปนะ  ไม่ดราม่านะจ๊ะ

คำแนะนำแบบเตือนไว้ก่อน 555
1.  ควรบินเที่ยวเช้าสุด  กลับเที่ยวดึกสุด  เพื่อความคุ้มค่า  
2.  หารองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย  สำหรับเดินทางไกล  เพราะเดินไปกลับแต่ละจุดนี่  1 กม. ขึ้นไป
3.  พกร่มกันแดดกันฝน  เพราะอากาศริมทะเลเปลี่ยนไว
4.  น้ำแพงควรซื้อใน 7-11 หรือโชวห่วย  จะถูกกว่าและอากาศร้อน
5.  พกยาแก้ปวด แบบกิน แบบทา ในหลอดเดียวกัน เอ้ย ไม่ใช่   
     อ้อ  พกยาคลายกล้ามเนื้อด้วยก็จะดี

เชิญบันเทิง สิงคโปร์ โอโห ... ทีนข้าาา     

สอบถามข้อมูล  ถามได้  ตอบได้มั้ย  ค่อยว่ากัน  
ติได้ ชมดี โอนฟรี มีพร้อมเพ