สิงคโปร์ หนึ่งในประเทศของเอเชียที่คนไทยฮิตไปมากๆ เนื่องจากระยะทางไม่ห่างจากไทยมากนัก วันนี้เราจะมารีวิววิธีการเดินทางของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆและเมนูอาหารที่ห้ามพลาดที่สิงคโปร์กันค่ะ ^^
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักบัตรโดยสารแต่ละประเภทกันก่อนเลยค่ะ บัตรโดยสารจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ
1. บัตร EZ Link เป็นบัตรเงินสดที่สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้า MRT, รถเมล์, แท็กซี่ และใช้ซื้อสินค้าต่างๆได้ ราคาบัตรจะอยู่ที่ 12 เหรียญ (300 บาท) โดยแบ่งเป็นค่าบัตร 5 เหรียญ และเงินที่ใช้ได้อีก 7 เหรียญ
2. บัตร Standard ticket หรือบัตรโดยสารทั่วไปที่ใช้เดินทางแบบเที่ยวต่อเที่ยว
3. บัตร Singapore tourist pass เป็นบัตรแบบเหมาจ่ายที่สามารถขึ้นได้ทั้ง MRT และรถเมล์ได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง มีให้เลือกแบบ 1 วัน ราคา 10 เหรียญ (250 บาท), 2 วัน ราคา 16 เหรียญ (400 บาท) และ 3 วัน ราคา 20 เหรียญ (500 บาท) โดยจะมีค่ามัดจำบัตรเพิ่มอีก 10 เหรียญ ซึ่งเราต้องคืนภายใน 5 วันหลังจากเปิดใช้งานถึงจะได้เงินมัดจำคืนค่ะ
เราจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินกันค่ะ ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่ใช้ครั้งนี้คือ Singapore Travel by MRT
การเดินทางจะเดินทางจากสถานี Changi airport ไปยังสถานี Tarah merah เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองกันค่า
Merlion-ที่แรกเราก็มาเช็คอินกันที่ Merlion กันก่อนเลยค่า
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 5 (สีแดง) ลงสถานี Raffles Place Exit H แล้วเดินตามถนน Battery Road หรือสถานี City Hall
ใกล้ๆกันก็จะมีตึก Esplanade หรือที่หลายๆคนมักจะเรียกว่าตึกทุเรียนค่ะ
Marina bay sand-เดินต่อมาอีกนิดก็จะเจอ Marina bay sand ค่ะ
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 10 (สีเหลือง) ลงสถานี Bayfront Exit B,C,D,E
นี่คือ Marina bay ช่วงกลางคืนค่ะ
ด้านหลังของ Marina bay ค่ะ
ภายใน Marina bay ค่ะ
Garden by the bay-เรามาต่อกันที่ Garden by the bay ค่ะ
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 10 (สีเหลือง) ลงสถานี Bayfront Exit B
ที่นี่จะเปิดไฟเวลา 19.45น. และ 20.45 น.ค่ะ
ภาพจากมุมไกลค่ะ
Fountain of wealth-น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 10 (สีเหลือง) ลงสถานี Promenade Exit C
Singapore flyer-ภายในมีศูนย์อาหารด้วยนะคะ
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 10 (สีเหลือง) ลงสถานี Promenade Exit A
Helix Bridge
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 10 (สีเหลือง) สถานี Bayfront Exit C หรือสถานี Promenade Exit A
Universal studio
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 6 (สีม่วง) ลงสถานี HarbourFront
1. Sentosa express เป็นรถไฟที่ข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ราคา 4 เหรียญ (100 บาท) เวลาให้บริการ 07.00 – 24.00 น. ลงสถานี Water front
2. Sentosa boardway เป็นทางเดินข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ราคา 1 เหรียญ (25 บาท) เวลาให้บริการ 24 ชั่วโมง
3. Singapore cable car เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่นั่งจากภูเขาเมาท์เฟเบอร์ (Mount Faber) ข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ราคาผู้ใหญ่ 29 เหรียญ (725 บาท) เด็ก 18 เหรียญ (450 บาท)
เครื่องแรกที่เราเล่นกันคือ Transformer ค่า เครื่องนี้จะมีแว่น 3 มิติให้ใส่ เป็นรถไฟเหาะผจญภัยแบบฉาก transformers
ออกมาก็จะมีหุ่นแบบนี้ให้ถ่ายรูปกันค่า
เครื่องต่อมาคือ Revenge of the mummy เป็นรถไฟเหาะผจญภัยในที่มืดค่ะ
ต่อไปเราก็ไปดูโชว์ Water world กันค่า
แต่ละฉากสมจริงอลังการมากๆค่ะ
ต่อไปจะเป็นเครื่อง Jurassic Park Rapids Adventure จะเป็นการนั่งในแพกลม ล่องแก่งวนตามน้ำค่ะ
และเครื่องสุดท้ายที่เราเล่นคือ Madagascar: A crate adventure จะล่องเรือช้าๆไปตามน้ำ ผจญภัยกับเหล่าตัวการ์ตูนค่ะ
ออกมาก็ซื้อน้ำดื่มกันให้ชื่นใจค่า
ออกจากสวนสนุกมาเราก็แวะมาถ่ายรูปกับ Sentosa Merlion กันค่ะ
Clarke Quay-เป็นย่านที่มีร้านอาหารเยอะมากๆค่ะ
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 6 (สีม่วง) ลงสถานี Clarke Quay Exit C
China town
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 6 (สีม่วง) ลงสถานี Chinatown
วัดพระเขี้ยวแก้ว
ซึ่งวัดนี้จะมีหลายชั้นเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งชั้นบนสุดก็จะมีสวนบนดาดฟ้าด้วยนะคะ
ในย่านนี้มีของขายมากมายเลยค่ะ ซึ่งราคาก็ย่อมเยามากๆค่ะ
อันนี้เป็นนาฬิกาพกที่ลวดลายคลากสิกมากค่ะ
Orchard road
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้สาย 4 (สีแดง) ลงสถานี Orchard Exit E
การเดินทางครั้งนี้ เราพักที่โรงแรม Furama city centre ย่านไชน่าทาวน์ค่ะ
การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 6 (สีม่วง) ลงสถานี Chinatown
วิวเมืองจากห้องพักค่า
ต่อไปมาที่เรื่องอาหารกันบ้างค่ะ
เมนูแรกก็คือ Laksa นั่นเองค่า ราคา 3.5 เหรียญ (87.5 บาท)
ร้าน Macpherson bbq seafood ค่ะ
การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 6 (สีม่วง) ลงสถานี Clarke Quay
Chilli crab เป็นเมนูที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ ปูตัวนี้น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมค่ะ ราคา 70 เหรียญ (1750 บาท)
Crispy cereal prawn
Honey pork rib
ข้าวมันไก่ ร้าน Tian Tian ค่ะ จานนี้เป็นไซส์กลางราคา 5 เหรียญค่ะ (125 บาท)
Chendol หรือลอดช่องนั่นเองค่ะ
Bak Kut Teh เป็นน้ำซุปกระดูกหมูค่ะ
Crispy pork หรือข้าวหมูกรอบค่ะ
ส่วนอันสุดท้ายคือไอศกรีม Godiva ค่ะ
[CR] [Singapore] <3 พาเที่ยวสิงคโปร์ แลนมาร์คสำคัญ+อาหารที่ไม่ควรพลาด
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักบัตรโดยสารแต่ละประเภทกันก่อนเลยค่ะ บัตรโดยสารจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ
1. บัตร EZ Link เป็นบัตรเงินสดที่สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้า MRT, รถเมล์, แท็กซี่ และใช้ซื้อสินค้าต่างๆได้ ราคาบัตรจะอยู่ที่ 12 เหรียญ (300 บาท) โดยแบ่งเป็นค่าบัตร 5 เหรียญ และเงินที่ใช้ได้อีก 7 เหรียญ
2. บัตร Standard ticket หรือบัตรโดยสารทั่วไปที่ใช้เดินทางแบบเที่ยวต่อเที่ยว
3. บัตร Singapore tourist pass เป็นบัตรแบบเหมาจ่ายที่สามารถขึ้นได้ทั้ง MRT และรถเมล์ได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง มีให้เลือกแบบ 1 วัน ราคา 10 เหรียญ (250 บาท), 2 วัน ราคา 16 เหรียญ (400 บาท) และ 3 วัน ราคา 20 เหรียญ (500 บาท) โดยจะมีค่ามัดจำบัตรเพิ่มอีก 10 เหรียญ ซึ่งเราต้องคืนภายใน 5 วันหลังจากเปิดใช้งานถึงจะได้เงินมัดจำคืนค่ะ
เราจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินกันค่ะ ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่ใช้ครั้งนี้คือ Singapore Travel by MRT
การเดินทางจะเดินทางจากสถานี Changi airport ไปยังสถานี Tarah merah เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองกันค่า
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 5 (สีแดง) ลงสถานี Raffles Place Exit H แล้วเดินตามถนน Battery Road หรือสถานี City Hall
วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 6 (สีม่วง) ลงสถานี HarbourFront
1. Sentosa express เป็นรถไฟที่ข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ราคา 4 เหรียญ (100 บาท) เวลาให้บริการ 07.00 – 24.00 น. ลงสถานี Water front
2. Sentosa boardway เป็นทางเดินข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ราคา 1 เหรียญ (25 บาท) เวลาให้บริการ 24 ชั่วโมง
3. Singapore cable car เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่นั่งจากภูเขาเมาท์เฟเบอร์ (Mount Faber) ข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ราคาผู้ใหญ่ 29 เหรียญ (725 บาท) เด็ก 18 เหรียญ (450 บาท)