[CR] เที่ยวสิงคโปร์ รีวิว 5 วัน 4 คืน เที่ยวง่าย จ่ายน้อย ด้วยงบ 9,000 บาท รวมทุกอย่างแล้ว PART 2

มาต่อแล้วนะครับสำหรับ Part2  หากใครยังไม่ได้อ่าน Part 1 ติดตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
https://ppantip.com/topic/37732340
ฝากกดถูกใจเพจ เดี๋ยวมาเดิน https://www.facebook.com/DiewMaDern/ ด้วยนะครับ

หลังจากที่เรากลับจาก Marina Barrage แล้ว
เราก็ไปสัมผัสบรรยากาศยามเย็นกันต่อที่ Singapore Art Museum
นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Bras Basah และเดินออก Exit A
จากนั้นก็เดินตาม Stamford Road จนถึงแยก Victoria Road
CHIJMES จะอยู่ตรงหัวมุมพอดีครับ หรือขึ้นรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี City Hall แล้วออก Exit A
CHIJMES @ Victoria Street, Singapore -ที่นี่เคยเป็นโรงเรียนและโบสถ์
สถานที่แห่งนี้ได้ปิดตัวลงในปี 1983 อาคารทั้งหมดได้ประกาศให้เป็นอาคารสงวนโดย Preservation of Monuments Board ในปี 1990
หล้งจากนั้นได้เปิดให้บริการอีกทีในชื่อว่า CHIJMES ในช่วงปลายศตวรรษที่ 1990 ได้รับรางวัล UNESCO Asia Pacific Heritage Awards for Culture Heritage Conservation Merit Award ในปี 2002 โดย UNESCO ซึ่งเป็นสถานที่รวมร้านอาหารและบาร์ในย่านใจกลางเมืองอีกด้วย
จากนั้นเรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ สถานี Raffles Place แล้วเดินตามป้ายมายัง One Fullerton
เดินข้างๆโรงแรม Fullerton มายังถนน Fullerton ผ่านหน้าโรงแรมไปยังถนนใต้สะพานเพื่อเดินลอดไปยัง Merlion ได้เลย
ถึงแล้ว แลนด์มาร์คของสิงคโปร์ เมอร์ไลออน พาร์ค (Merlion Park)
เดินข้ามสะพาน Esplanade Drive ไปเดินเล่นข้างใน Esplanade - Theatres
ที่นี่มีร้านเครื่องดนตรีและร้านอื่นๆอีกมากมาย
เราร่วมกิจกรรมเขียนโพสอิท แปะด้วยภาษาไทยล้วนๆ
เรือนกระจกคริสตัลกลางน้ำ คือ ช็อปหรูของแบรนด์ Louis Vuitton นั่นเอง
เรามานั่งดูโชว์ Wonder Full น้ำพุเล่นแสงสีเสียงตอนกลางคืน ฟรีทุกวัน 20:00/21:30/23:00 รอบละ 15 นาที
Helix Bridge สะพานรูปเกลียวคู่แห่งแรกของโลก จากนั้นเราเดินเข้าไปใน Marina Bay Sand
ไปชม Super tree โดยเดินข้ามตรงสะพานทางเชื่อมกับ marina bay เข้าฟรี ช่วงเวลา 19.45 หรือ 20.45 มีการแสดงโชว์ไฟด้วย
จากนั้นเราเดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์ไปเรื่อยๆ ผ่าน Elgin Bridge สะพานสีขาวๆแห่งนี้ ใกล้ที่พักเราอีกด้วย
เดินจาก Clarke Quay มาไม่กี่ก้าว จะเห็นตึกที่มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าต่างหลากสี คือ"กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร" นั่นเอง
บรรยากาศยามค่ำคืนที่ Clarke Quay
ที่นี่ยังเป็นแหล่ง “กิน - ดื่ม” มีทั้งร้านอาหารและผับขึ้นชื่อ ตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำของสิงคโปร์
คืนนี้ได้เวลานอนแล้ว กลับที่พักเตรียมออกเดินทางต่อพรุ่งนี้

DAํY 2> เช้านี้ฝนตกหนักมาก เราเลยเปื่อยกันอยู่ที่พักนี่แหละ
หลังจากฝนหยุด ไปเดินเล่นย่าน China Town ซึ่งไม่ไกลจากที่พัก
พักท้องที่นี่เลย
ไปต่อที่โบสถ์ เซนต์แอนดรู (St Andrew’s Cathedral)
นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี City Hall Station อยู่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน City Hall Station ทางออก Exit B
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 09:00-17:00
นั่งรถไฟฟ้าไปลง สถานี Bugis ทางออก B
เย็นนี้ไปเดินเล่นและนั่งปิกนิกกันที่ Singapore Botanic Gardens ลงรถไฟฟ้าสถานี Botanic Gardens
จากนั้นเรากลับที่พักแล้ว ค่ำคืนนี้เรานั่งเล่นชิลๆ Clarke Quay เหมือนเดิม

DAY 3 >เรา check-out จากที่นี่เกือบเที่ยง เพื่อไปที่พักอีกที่นึง ซึ่งเราอยากเปลี่ยนบรรยากาศนอนแบบธีมอวกาศ  
เราจองที่พักไว้ที่นี่เลย MET A Space Pod @ Little India นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Farrer Park
การควบคุมไฟ ใช้ระบบสัมผัส เพื่อลดหรือปรับเพิ่มระดับได้ตามความต้องการ
หลังจาก Check-in แล้ว เราไปเดินเล่นกันแถวๆที่พัก ซึ่งเป็นย่าน Little India
ไปต่อที่ Universal Studio Singapore ซึ่งอยู่บนเกาะ Sentosa นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี HarbourFront เดินเข้าห้าง Vivo City ชั้น 3 เพื่อไปยัง Sentosa ด้วย Sentora Express ลงรถไฟฟ้าที่สถานี Waterfront บนเกาะ Sentosa
เราสองคนแค่อยากมาถ่ายกับลูกโลกนี่แหละ ไม่ได้เข้าไปเล่นในสวนสนุกข้างใน
นั่ง Sentosa Express กลับมาที่ Vivo City เพื่อไป Marina at Keppel Bay
นั่งรถสาย 10, 30, 57 ,61, 97, 100, 131, 143, 145, 166 เกือบทุกสายที่ผ่าน VivoCity
ลงป้าย 14131 Caribbean at Keppel Bay (2 ป้าย) แล้วเดินเข้าไป Marina At Keppel Bay ที่นี่แหล่งเรือยอร์ชและอาคารสุดหรู
จากนั้นเราเดินมารอรถเมล์ป้ายเดิมเพื่อจะไปยัง Henderson Waves จากจุดนี้มี 2 สายคือสาย 131 และ145
กลับตามทางเดิมป้ายรถเมล์อยู่ตรงเชิงทางลงเลยแล้วขึ้นสาย 131 หรือ 145
ไปสถานี Harbour Front เพื่อนั่งรถไฟฟ้ากลับที่พักกัน

DAY 4> Check-in ที่ COO Boutique Hostel ลงสถานี Outram Park อยู่บน Outram Road
วันนี้เราสองคนอยาก Slow life ถ่ายรูปเก็บตกภาพบรรยากาศ เดินเล่นไปเรื่อยๆแบบไม่มีแผน เมื่อยไหนพักนั่นครับ
หลังจากไป Casino แล้ว เราเดินเล่นออกมาโผล่ตรงนี้
หลังจากเดินเหนื่อยมาทั้งวัน ได้เวลากลับที่พัก
ตอน Check-in ผมได้ฝากเครื่องดื่มและขนมไว้ที่ Reception คืนนี้เรานั่งชิลๆกันที่พักเลย
ที่นี่มีบริการอาหารเช้าด้วย
DAY 5> Check-out นั่งรถไฟฟ้าไปสนามบิน Changi พร้อมเดินทางกลับ Bye Bye!!
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าตั๋วเครื่องบิน Air Asia ไป - กลับ ราคา 3,920 บาท
  ขาไป DMK -SIN (เที่ยวบินที่ 355 เวลา 13.25 - 16.35)
  ขากลับ SIN - DMK (เที่ยวบินที่ 356 เวลา 14.40 - 16.05)
- ค่าที่พัก 5footway.inn Project Boat Quay  2 คืน S$ 159.64 = 3,800 บาท  
- ค่าที่พัก MET A Space Pod @ Little India 1 คืน S$ 74.16 = 1765.56 บาท
- ค่าที่พัก COO Boutique Hostel 1 คืน S$ 61.60 = 1469.71 บาท
รวมค่าที่พัก 4 คืน  S$  295.4 = 7,034 บาท (หาร 2 ประมาณ 3,515 บาท)
ค่าเดินทางในสิงคโปร์
- Singapore Tourist Pass บัตรโดยสารแบบเหมา $20/3 วัน = 477.18 บาท และรายเที่ยวประมาณ 540 บาท
- ค่ากิน 14 มื้อ ราคามื้อละประมาณ 2.75 - 3.20 รวม 46 SGD หรือประมาณ 1,085 บาท
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริปประมาณ 9,000 บาท

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรีวิว ถ้าชอบ ฝากกด Like กด Share ด้วยนะครับ
ฝากติดตามเพจ เดี๋ยวมาเดิน https://www.facebook.com/DiewMaDern/
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์ , Singapore
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่