ສະບາຍດີ
สวัสดึค่ะ
เรามารีวิวการท่องเที่ยวประเทศลาว (ทางใต้) แบบ 3 วัน 2 คืน ทริปนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีความตื่นเต้นตลอด
ใครๆ ก็ไปได้แค่ลาวเอง นั้นแหละค่ะ คำพูดของคนชอบเที่ยวแบบเรากับเพื่อนนัดกันไปเที่ยวลาวใต้ เพื่อที่จะไปโหน Zip Line อย่างเดียว
ไม่ได้ศึกษาอะไรมากมาย เพราะคิดว่าไม่ยาก ดูรีวิวก็แค่ไปโหน ส่วนรายละเอียดการเดินทางหรือร้านอาหารค่อนข้างน้อย เอาจริงๆ นี้ก็อยากจะแปะรีวิวที่พักที่เราประทับใจหลายๆ คือมันรู้สึกอบอุ่นและเรียบง่าย เดินทางในประเทศเล็กๆ อย่างลาวก็ไม่ได้ยากนะ
อยากให้ลองไปเที่ยวกันดู ไปคร้ารีบเก็บกระเป๋าเดินทางกันเลยยยย >>
อุบลฯ > > ช่องเม็ก >> ลาว (ปากเซ) >> น้ำตกตาดฟาน >> น้ำตกเยือง
เราเดินทางไปโดยเครื่องบิน กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี ประมาณ 19.35 น ถึง อุบลราชธานี ประมาณ 20.30 น การเดินทางในช่วงหน้าฝนนั้นว่าลำบากแล้วนะ แต่!! เราเดินทางไปช่วงที่น้ำท่วมอุบลฯ และ ปากเซ หนักมาก ซึ่งก็ไม่ได้มีผลกระทบการเส้นทางการบิน และเส้นทางไปลาว ช่วงนั้นเราโทรสอบถามการท่องเที่ยวของไทย และของประเทศลาว (ปากเซ) ตลอด คิดว่าจะไม่ได้ไปละ
เฮ้ยยย แต่เราก็ได้ไป !!
มาถึงอุบลฯ เราก็จองที่พักใกล้ๆ สถานีขนส่งอุบลราชธานี เพื่อที่จะออกเดินทางกันตอนเช้าๆเลย ที่พักสะอาดสามารถเดินไปสถานีขนส่งอุบลฯ แบบสบายๆเลยคร้า ที่พักราคาถูกแค่ 350.- บาท (ห้องแอร์) ห้องพักใกล้ร้านหมูกระทะด้วยน๊า ไม่ต้องห่วงเรื่องหาของกินเลยจร้า
ที่พัก ปั้นหยา พาเลซ
นอนหลับพักผ่อนกันอย่างสบายแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อ
ออกเดินทางกันช่วงเช้าประมาณ 07.00 น เดินจากที่พักไปสถานีขนส่งอุบลฯ เพื่อขึ้นรถตู้ ไปด่านช่องเม็ก
ก่อนที่เราจะเดินทางไปลาวใต้ เราต้องข้ามด่านช่องเม็กก่อนนะ
ค่ารถตู้อุบลฯ - ช่องเม็ก 100 บาท /ต่อคน
(ขออภัยลืมถ่ายคิวรถตู้มาค่ะ)
เรานั่งรถตู้ใช้เวลาประมาณ 1 ช่วโมงกว่าๆ ถึง สถานนีขนส่งด่านช่องเม็ก แต่เราต้องนั่งพี่วิน มาที่ด่านอีก ระยะทางมันก็ค่อนข้างไกล เลยนั่งพี่วินคะ
ค่าวินมอไซค์ 20 บาท /ต่อคน
ด่านช่องเม็ก
ข้อแนะนำ
1. ซื้อซิมเน็ตหน้าด่านเลย ราคาประมาณ 150 บาท ที่ลาวเขาใช้ซิมแยกกันนะ บริการเน็ตกับบริการโทร แยกซิมกันคะ ความแรงของเน็ต เราจำไม่ได้ว่าเท่าไร แต่ก็พอใช้ได้ระดับนึง ทำไมถึงต้องซื้อหน้าด่าน เพราะเวลาเปลี่ยนซิม อย่างเพื่อนเราไอโฟน เอาออกเองไม่ได้ก็ต้องให้คนที่ใส่เอาออกให้เราเจอคนใส่ซิมง่ายกว่าฝั่งลาวคะ
2. ไม่ต้องแลกเงินกีบ จ่ายเงินไทยไปเลยยย คนที่นั้นอยากให้จ่ายเงินไทยมากกว่า เพราะถ้าแลกเงินกีบคืนแล้วเราอาจขาดทุนน๊าา
3. ถ้าจะเหมารถเที่ยว (ตุ๊กตุ๊ก) แนะนำไปโรงแรมที่เราจะรีวิวก่อน เพราะเขามีตุ๊กๆ จ้างประจำ ราคาจะถูกกว่าข้างนอก
ไปต่อ >>
เรากับเพื่อนเดินทางเข้าด่านช่องเม็ก ยืนพาสปอร์ต (พาสปอร์ตอยู่ยาวได้ 30 วัน)
ตรวจพาสปอร์ตเสร็จ เราก็ต้องเดินทางผ่านช่องใต้ดิน ข้ามไปประเทศลาว
ถึงแล้ว ประเทศลาว
เราเดินทางข้ามฝั่งลาวแล้ว ต้องเดินไปตรง ตม. ของฝั่งลาวเพื่อตรวจสอบคนเข้าเมือง
และจ่ายค่าผ่านด่าน คนละ 100 บาท (ตอนขากลับก็จ่ายอีก 100 บาท/ ต่อคน น๊าา )
หารถตู้เดินทางไปปากเซ เพื่อเข้าที่พัก รถตู้จอดจะใกล้ๆ ด่านตรวจเลยคะ เดียวก็มีคนลาวมาหาคนขึ้นรถไปปากเซ
ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีรถ ค่ารถราคาประมาณ 100 บาท / ต่อคน อาจจะนั่งไม่สบายหน่อยนะ เพราะเขาอัดคนเข้ารถเยอะมาก
อยากได้เงินนะ ต้องเขาใจเขาหน่อย T_T
( ขออภัยไม่มีรูปรถตู้)
นั่งรถจากด่านช่องเม็ก ไป ปากเซ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ได้ รถตู้จะจอดส่งคนลงที่ ตลาดดาวเรือง เมืองปากเซ
รถตุ๊กตุ๊ก จะจอดเยอะมากแล้วเข้ามาเสนอราคาเหมาให้กับเรา ซึ่งเรากับเพื่อนได้เหมารถในราคา 1400 บาท แต่!!!! อย่าทำตามเราเพราะนั้นคุณจะเสียเงินเยอะมาก เพราะมันจะต้องเสียอีกหลายอย่าง เช่น ค่าเติมน้ำมัน, ค่าจอดรถ, ค่าเข้าทั้งเราและคนขับ ฯลฯ
ก็อย่างที่บอกเลยมาแนะนำว่าให้นั่งไป ลงแค่โรงแรม พอ!! เดียวโรงแรมแนะนำคนขับรถซึ่งราคาจะถูกกว่ามากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไปค่ะ นั่งไปแบบสบายใจไม่ได้คิดว่าจะโดนจ่ายอะไรมากกมาย ต่อไปยาวๆ เราให้พี่เขาขับรถไปส่งที่ โรงแรมก่อนเพื่อเช็คอินเก็บกระเป๋า
โรงแรมที่เราพัก Sanga Hostel
ราคา 230 บาท/ ต่อคน (ห้องรวม)
ที่พักที่นี้สะอาด สบาย กันเองมาก ส่วนมากที่นี้จะมีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติมาพักมากกว่า นี่ก็ไม่เคยเห็นคนไทยรีวิว ที่เราเจอเราหาใน google maps เอานะ เลยพุ่งตรงมาที่นี้เลย พอได้เข้ามาพักบอกเลยประทับใจทุกอย่างไม่มีที่ติ ทั้งเรื่องการบริการ และการพูดคุย เราได้รับคำแนะนำตอนกลับเรื่องของการเดินทางและหารถ เราพลาดเองถึงต้องมาเขียนบอกทุกคน
ปล. ถ้าทุกคนไปถึงโฮเทลสอบถามเขาได้เลยน๊า เขาพร้อมแนะนำเรื่องการเดินทางและจัดหารถให้กับเราหมดเลยไม่ต้องห่วงเลยคร้า
เรากับเพื่อนก็โดดขึ้นรถที่เหมามาในราคา 1400 บาท ต่อไป บ้าจริงยิ่งเขียนแล้วยิ่งรู้สึกโมโห ฮ่าๆ
หิวๆๆๆ เรายังไม่ได้กินข้าวกันตั้งแต่เช้าเลยบอกให้พี่คนขับแวะร้านอาหารให้หน่อย
แวะกิน เฝอ หรือก๋วยเตี๋ยวบ้านเรานี่แหละ อันนี้น่าจะเป็นอาหารของประเทศเวียนนามนะ แต่ร้านเฝอก็เยอะอยู่นะในปากเซ หากินง่าย
อิ่มแล้ว พร้อมออกเดินทางไปนำตกตาดฟานต่อ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 44 นาที แต่เราเจอฝนเลยก็ประมาณ 1 ชั่วโมงได้
บรรยากาศข้างทางประเทศลาว เหมือนอยู่ต่างจังหวัดบ้านเรา แต่อากาศช่วงนี้จะเย็นๆ เพราะฝนตกค่อนข้างบ่อย
เดินทางฝ่าฝนที่ตกหนักตลอดทางมาแบบเย็น ก็มาถึงแล้ววว ประตูทางเข้านำตกตาดฟาน
ค่าเข้าน้ำตกตาดฟานประมาณ 40 กว่าบาท/ ต่อคน (นักท่องเที่ยว)
เราก็ต้องจ่ายค่าเข้าให้กับคนขับรถ 2 คน เขาเป็นคนลาวเสียค่าเขาประมาณ 30 กว่าบาท / ต่อคน
แค่หน้าประตูใช้เวลาในการถ่ายรูปนานมากกกก ถ่ายเหมือนอยู่ ญี่ปุ่นเลยคะ
ป่ะ เดินเข้าไปด้านในกันดีกว่า
ขอเล่าประวัติน้ำตกตาดฟานหน่อยนะคะ
น้ำตกตาดฟาน (Tad Fane Waterfall) เป็นน้ำตกที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองลาว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสายน้ำ 2 สาย ด้วยเป็นน้ำตกสูงใหญ่สองสายไหลลงสู่หน้าผาสูงชันสู่กลางหุบเขา สูงกว่า 220 เมตร สูงชัน 90 องศา ไหลมาจากห้วยจำปีและห้วยผักกูด รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวมากมาย ความอลังการของน้ำตกแห่งนี้จะอยู่ในช่วงหน้าฝน เพราะจะมีปริมาณน้ำเยอะมากแต่ก็สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี น้ำตกทั้งสองสายดูสวยสมบูรณ์ เสียงน้ำตกดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า โดยที่น้ำตาดฟานนี้นักท่องเที่ยวจะสามารถขึ้นไปชมน้ำตกจากด้านบนได้เท่านั้น ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำตกตาดฟาน ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในแขวงจำปาสัก และยังมีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศลาวอีกด้วย น้ำตกแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวตั้งอยู่ในพื้นที่ราบสูงโบโลเวน (Bolaven Plateau) เมืองปากซอง (Paksong) แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองปากเซ และไม่ไกลจากประเทศไทยเท่าไรนัก
นี้คือภาพน้ำตกตอนแรกที่เราเจอ แถบไม่เห็นน้ำตกเลย แล้วถ้าโหน Zipline เราจะเห็นไหมมม
มาถึงจุดนี้แล้ว ไม่โหน Zipline มันก็เสียดายอีก!!
[CR] เที่ยวลาวใต้ โหน Zip Line ສະບາຍດີ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม