เป็นหนังที่ติดอยู่ในหัวตั้งแต่เมื่อวานที่ได้ไปดู เลยอยากมาแชร์ความรู้สึก ภาพรวม ถ้าใครชอบหนังโทนจริงจัง ดราม่า ศึกษาจิตใจตัวละคร น่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยากครับ สำหรับผมนี่เป็นหนังในรอบหลายปี เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกว่าหนังมันพูดกับเรามากๆ ผมเชียร์สุดใจครับ หลังจากนี้จะเป็นรีวิวแบบสปอยล์นะครับ ถ้าไม่ได้ดู รบกวนไปดูก่อนเพื่ออรรถรสครับ 
.

.

1. หัวเราะ
- สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ นอกไปเหนือไปจากการแสดงของ Joaquin Phoenix คือบทที่พาเราไปสำรวจความลึกของอารมณ์ และ ความคิดของการหัวเราะ 

- ในระดับที่เป็นธรรมชาติที่สุดเราจะหัวเราะเมื่อเรามีความสุข ความพึงใจ เหมือนเป็นการระเบิดความสุขออกมา ตลก ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดี 

- ที่น่าสนใจคือในระดับตรงข้าม บางทีเราก็ตลกจนร้องไห้ ซึ่งการร้องไห้ก็เป็นการระเบิดอารมณ์ออกมาเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการระเบิดอารมณ์ในเรื่องของความเศร้า 

- ในหนังพยายามเชื่อมโยงสองอย่างเข้าไว้ด้วยกัน บางทีผลิกไปมา บางทีเกิดขึ้นพร้อมกันแต่ขัดแย้งกัน พระเอกไม่อยากหัวเราะ แต่ควบคุมไม่ได้ เลยต้องหัวเราะ แต่จริงๆ แล้วทุกข์ระทมกับชีวิตมากๆ 

- ความหน้าชื่นอกตรมนี้มันไปสัมพันธ์กับการหัวเราะอีกแบบคือเราไม่ได้ตลก แต่เราหัวเราะ เพราะว่าชีวิตมันขื่นเกินไป เราไม่ทำยังไง ทุกอย่างมันพังพินาศ ถล่มลงมา เราเล็กเกินกว่าจะเข้าไปทำอะไรได้ เราก็เลยหัวเราะออกมาในความ ไม่เมคเซนส์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเลยเกิดเป็นตลกร้าย ตลกเศร้า ซึ่งมันเป็นคำอธิบายชีวิตของโจ๊กเกอร์ หรือ อาจจะเป็นชีวิตส่วนใหญ่ของประชากรของ Gotham ด้วย

-  การหัวเราะนี้ยังเชื่อมโยงไปสู่ความปกติ เวลาเราเข้าสังคมแล้วเรารู้สึกได้ถึงความอิหลักอิเหลือ บางทีเราก็หัวเราะ หรือแกล้งทำเป็นตลก เพื่อให้เราสามารถสมานเป็นเนื้อเดียวกับวงสังคม ไม่รู้สึกแปลกแยก แบบเดียวกับที่แม่ของโจ้กเกอร์บอก ถึงขนาดตั้งชื่อเค้าว่า Happy ซึ่งจริงๆ แล้วตัวเขาเองไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย (ซึ่งยังสะท้อนแบบ-ดันด้วยการที่เขาเป็นโรคหัวเราะแบบควบคุมไม่ได้ ถ้าเขาไม่ได้หัวเราะแล้วใครกันมีอำนาจควบคุมการหัวเราะของเขาความปรารถนาในการอยากเข้าสังคมของเขาหรือ)

2. ตัวตลก 

- โจ๊กเกอร์ใช้การเป็นตัวตลกเพื่อดำรงอยู่ในสังคม (มีอาชีพ มีกิน มีชีวิตอยู่ได้) ที่ทางของคนนอกมันก็เป็นได้แค่ตัวตลกแบบนี้หละ ทั้งคนแคระ คนที่ดูเป็นอื่นจากสังคม และตลอดชีวิตของเขาก็ดำเนินไปตามค่านิยมของสังคม คืออยากจะเป็นตลกจนได้ดี ไปเป็นเดี๋ยวไมค์โครโฟน อยากให้สังคมยอมรับ เชื่อว่านี่เป็นทางออก นี่เป็นทางที่เขาจะปรากฏอยู่ในสังคมได้  ถึงแม้ลึกๆ แล้วเขาอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยก็ตาม แต่นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น สำหรับคนนอกอย่างเขา

- ในขณะเดียวกันตัวตลกก็ยังหมายถึงการถูกหัวเราะเยาะ ดูถูกเหยียดหยาม ในหนังคือการที่คนรวยมองว่าคนจนเป็นตัวตลก คนรวยที่เป็นคนควบคุมสิ่งต่างๆ ในสังคมมองว่าคนจนทำแต่สิ่งที่ไร้สาระ โง่เง่า โจ้กเกอร์ถูกเชิญไปในรายการเพื่อให้ถูกหัวเราะเยาะในระดับสาธารณะของประเทศ เขาควรจะยอมมั้ย 

3. สื่อทำให้เกิดความรุนแรง

- จริงๆ แล้วเรื่องของโจ๊กเกอร์ไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงทางสังคมอะไรเลย เขาไม่ได้มีความคาดหวัง หรือเป็นผู้นำในการเคลื่อนไหวอะไร สื่อต่างหากที่เป็นผู้ชักใย อยู่เบื้องหลัง สิ่งที่เขาทำเป็นไปเพื่อพยายามแก้ปัญหาหรือตามอารมณ์ของเขาเท่านั้น เพียงแต่ชีวิตของเขามันก็สะท้อนชีวิตคนส่วนใหญ่ใน Gotham ด้วย

4. มองแบทแมนใหม่ 

- ก่อนหน้านี้เรามักจะมองว่าแบทแมนเป็นพระเอก เป็นผู้ผดุงความยุติธรรม แต่พอมาดูโจ้กเกอร์แล้ว ทำให้เรารู้สึกว่า จริงๆ แล้ว แบทแมนมันเป็นเจ้าหน้าที่ ในการรักษาระเบียบ แต่ปัญหาคือระเบียบที่แบทแมนรักษามันเป็นระเบียบของคนรวยนี่หว่า Joker เข้าใจและเชื่อมโยงกับรากหญ้าแบบเราได้มากกว่า ! 

- มีการบูชาโจ๊กเกอร์เก่าในหลายๆ ซีน ทั้งโจ้กเกอร์ของ Jack Nicholson ใน Batman และโจ้กเกอร์ของ Heath Ledger ใน Dark Knight และเหมือนจะโฟกัสเป็นพิเศษที่จะเป็นภาคก่อน Dark Knight Trilogy ทำให้เวลาเราดู Dark Knight เราอาจจะต้องคิดใหม่ 

5. Gotham

- ไม่รู้ใครรู้สึกเหมือนผมมั้ย แต่ผมรู้สึกว่า เข้าใจบรรยากาศของการอยู่ใน Gotham ได้มากๆ เหมือนตอนนี้อยู่ใน Gotham เลยและยังเข้าใจทั้งโจ้กเกอร์และผู้คนหน้ากากตัวตลกได้ประมาณหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะตลกหรือเสียใจดี

- ถ้าเราเห็นด้วยกับ Joker มากๆ หมายความว่ายังไง ?

เป็นหนังที่มีอะไรให้คิดได้อีกเยอะ สำหรับผมเป็นหนังที่ขึ้นหิ้งหนังดีที่สุดเรื่องหนึ่งทันที 

ติดตามแมวนูนได้จ้า : https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/