Joker - (9*/10 MUST SEE!!!!!)
________________________________
.
"ความดาร์คใน The Dark Knight กลายเป็นเพียงเรื่องแฟนตาซีในทันใด"
.
ต้องบอกตรงนี้ก่อนเลยว่า หนังเรื่องนี้มันหดหู่มากๆและมีประเด็นที่อ่อนไหวมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาจากหนังที่ดัดแปลงมาจาก comic เลยทีเดียว ***จึงต้องขอเตือนก่อนว่าใครก็ตามที่มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้านั้นอยากให้พาเพื่อนไปดูด้วย***
.
Joker ในฉบับล่าสุดนี้รับบทโดยวาคีน ฟีนิกซ์ เรียกได้ว่าเป็นหนังเดี่ยวเรื่องแรกจริงๆของตัวละครในตำนานตัวนี้อย่าง Joker ซึ่งหนังจะได้ทำให้เรารู้ถึงความเป็นมาของตัวละครและปมของวายร้ายตลอดกาลตัวนี้เสียที กำกับโดยทอดด์ ฟิลิปส์ ซึ่งได้ผันตัวจากการทำหนังตลกจาก Hangover และ Due Date มาสายดาร์คกันบ้าง ซึ่งต้องขอบอกเลยว่ามันประสบความสำเร็จอย่างที่สุดดเลยยยย
.
ต้องขอชมเลยว่าหนังมีการกำกับภาพและเพลงประกอบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเรื่องนึงเลยทีเดียว มันดีมากๆระดับหนังดราม่าล่ารางวัลเลย ซึ่งก็คิดว่ารางวัลก็คงไม่หนีไปไหนแน่ๆกับเรื่อง Joker การใช้โทนสีเพื่อสื่ออารมณ์ในฉากต่างๆ รวมถึงการสร้างโลกของ Gotham ขึ้นมาได้สมจริงและทำให้เราคล้อยตามได้เลยว่า มันเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่และเต็มไปด้วยพื้นที่แห่งการก่ออาชญากรรม ซึ่งในเรื่องนี้จะเล่าถึง Gotham ในช่วงก่อนที่จะมี Batman นะครับ นั่นหมายความว่า Joker นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นมาก่อน Batman นานมากๆเลยทีเดียว ซึ่งช่วงเวลาในหนังนั้นจะเป็นประมาณช่วงยุค 70-80s
.
หนังจะพาเราดำดิ่งไปสู่ห้วงแห่งความหดหู่ในชีวิตสุดน่ารันทดของ อาเธอร์ เฟล็ค นักแสดงตลกก่อนจะกลายมาเป็น Joker โดยหนังพยายามสะท้อนปัญหาของสังคมในเรื่องต่างๆที่อยู่รอบตัวเราที่บีบคั้น และกลั่นแกล้งจนมันหล่อหลอมให้อาเธอร์ บุคคลที่มีความฝันเพียงอย่างเดียวในชีวิต คือต้องการเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไม่โครโฟน ต้องแปลงเปลี่ยนกลายมาเป็นฆาตกรเลือดเย็นที่มีปัญหาทางจิต
.
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วตอนแรกว่า หนังมีประเด็นที่อ่อนไหวมากๆ จนเมื่อดูไปถึงจุดนึงจะรู้สึกได้เลยว่า ดูจบแล้วจะมีคนที่ไปกระทำความรุนแรงแบบ Joker ในเรื่องหรือเปล่า เพราะหนังพูดถึงเรื่องการใช้ความรุนแรงสูงมากๆ ในลักษณะของการตอบโต้กับความรุนแรงหรือการโดนกลั่นแกล้งจากผู้อื่นว่ามันสมควรแล้วละที่มันจะรับกรรมของมัน ซึ่งการโน้มน้าวจิตใจคนดูแบบนี้มันยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงอย่างมาก
.
เพราะตอนแรกที่ได้ยินข่าวว่าผู้รับเคราะห์จากเหตุกราดยิงในโรงหนังเมื่อตอน The Dark Knight Rises เข้านั้นได้ออกมาห้ามไม่ให้เมืองนั้นฉาย Joker เพราะกลัวมีคนทำเลียนแบบ เราก็คิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับหนังอะไรเลย แต่พอดู Joker จบ กลับเริ่มเป็นห่วงจริงๆ เพราะหนังมันโน้มน้าวให้คนที่บอบช้ำกับเรื่องทางจิตใจให้ลุกขึ้นสู้หรือตอบโต้ด้วยความรุนแรง
.
ไม่ว่าจะเป็นประเด็นของความเหลื่อมล้ำของชนชั้นในเรื่อง "รวยกระจุกจนกระจาย" ถ้าวันหนึ่งคนเหล่านั้นทนไม่ไหว เราอาจจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่สุดขั้วแบบใน Joker ก็เป็นได้นะ หรือการถูกรังแกจากผู้อื่นและสภาพโดยรอบ
.
สิ่งที่แอบขัดใจเล็กๆคือการตัดต่อในบางฉากที่ตัดเอาฉากในตัวอย่างออกไป เลยรู้สึกได้ว่ามันแปลกๆในบางซีน แต่สรุปแล้ว "นี่คือหนังที่ตีความ Joker ออกมาได้ดีที่สุด นี่คือ Masterpiece ที่คุ้มค่าแก่การดู ถึงแม้ว่าดูจบแล้วจะรู้สึกดาวน์โคตรๆก็ตาม"
สามารถติดตามต่อได้ที่เพจ Facebook : โต๊ะดราฟตัวนั้น
https://www.facebook.com/TheDraftingTable/
[CR] Joker (9*/10 MUST SEE!!!!!) - ความดาร์คใน The Dark Knight กลายเป็นเพียงเรื่องแฟนตาซีในทันใด
________________________________
.
"ความดาร์คใน The Dark Knight กลายเป็นเพียงเรื่องแฟนตาซีในทันใด"
.
ต้องบอกตรงนี้ก่อนเลยว่า หนังเรื่องนี้มันหดหู่มากๆและมีประเด็นที่อ่อนไหวมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาจากหนังที่ดัดแปลงมาจาก comic เลยทีเดียว ***จึงต้องขอเตือนก่อนว่าใครก็ตามที่มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้านั้นอยากให้พาเพื่อนไปดูด้วย***
.
Joker ในฉบับล่าสุดนี้รับบทโดยวาคีน ฟีนิกซ์ เรียกได้ว่าเป็นหนังเดี่ยวเรื่องแรกจริงๆของตัวละครในตำนานตัวนี้อย่าง Joker ซึ่งหนังจะได้ทำให้เรารู้ถึงความเป็นมาของตัวละครและปมของวายร้ายตลอดกาลตัวนี้เสียที กำกับโดยทอดด์ ฟิลิปส์ ซึ่งได้ผันตัวจากการทำหนังตลกจาก Hangover และ Due Date มาสายดาร์คกันบ้าง ซึ่งต้องขอบอกเลยว่ามันประสบความสำเร็จอย่างที่สุดดเลยยยย
.
ต้องขอชมเลยว่าหนังมีการกำกับภาพและเพลงประกอบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเรื่องนึงเลยทีเดียว มันดีมากๆระดับหนังดราม่าล่ารางวัลเลย ซึ่งก็คิดว่ารางวัลก็คงไม่หนีไปไหนแน่ๆกับเรื่อง Joker การใช้โทนสีเพื่อสื่ออารมณ์ในฉากต่างๆ รวมถึงการสร้างโลกของ Gotham ขึ้นมาได้สมจริงและทำให้เราคล้อยตามได้เลยว่า มันเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่และเต็มไปด้วยพื้นที่แห่งการก่ออาชญากรรม ซึ่งในเรื่องนี้จะเล่าถึง Gotham ในช่วงก่อนที่จะมี Batman นะครับ นั่นหมายความว่า Joker นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นมาก่อน Batman นานมากๆเลยทีเดียว ซึ่งช่วงเวลาในหนังนั้นจะเป็นประมาณช่วงยุค 70-80s
.
หนังจะพาเราดำดิ่งไปสู่ห้วงแห่งความหดหู่ในชีวิตสุดน่ารันทดของ อาเธอร์ เฟล็ค นักแสดงตลกก่อนจะกลายมาเป็น Joker โดยหนังพยายามสะท้อนปัญหาของสังคมในเรื่องต่างๆที่อยู่รอบตัวเราที่บีบคั้น และกลั่นแกล้งจนมันหล่อหลอมให้อาเธอร์ บุคคลที่มีความฝันเพียงอย่างเดียวในชีวิต คือต้องการเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไม่โครโฟน ต้องแปลงเปลี่ยนกลายมาเป็นฆาตกรเลือดเย็นที่มีปัญหาทางจิต
.
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วตอนแรกว่า หนังมีประเด็นที่อ่อนไหวมากๆ จนเมื่อดูไปถึงจุดนึงจะรู้สึกได้เลยว่า ดูจบแล้วจะมีคนที่ไปกระทำความรุนแรงแบบ Joker ในเรื่องหรือเปล่า เพราะหนังพูดถึงเรื่องการใช้ความรุนแรงสูงมากๆ ในลักษณะของการตอบโต้กับความรุนแรงหรือการโดนกลั่นแกล้งจากผู้อื่นว่ามันสมควรแล้วละที่มันจะรับกรรมของมัน ซึ่งการโน้มน้าวจิตใจคนดูแบบนี้มันยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงอย่างมาก
.
เพราะตอนแรกที่ได้ยินข่าวว่าผู้รับเคราะห์จากเหตุกราดยิงในโรงหนังเมื่อตอน The Dark Knight Rises เข้านั้นได้ออกมาห้ามไม่ให้เมืองนั้นฉาย Joker เพราะกลัวมีคนทำเลียนแบบ เราก็คิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับหนังอะไรเลย แต่พอดู Joker จบ กลับเริ่มเป็นห่วงจริงๆ เพราะหนังมันโน้มน้าวให้คนที่บอบช้ำกับเรื่องทางจิตใจให้ลุกขึ้นสู้หรือตอบโต้ด้วยความรุนแรง
.
ไม่ว่าจะเป็นประเด็นของความเหลื่อมล้ำของชนชั้นในเรื่อง "รวยกระจุกจนกระจาย" ถ้าวันหนึ่งคนเหล่านั้นทนไม่ไหว เราอาจจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่สุดขั้วแบบใน Joker ก็เป็นได้นะ หรือการถูกรังแกจากผู้อื่นและสภาพโดยรอบ
.
สิ่งที่แอบขัดใจเล็กๆคือการตัดต่อในบางฉากที่ตัดเอาฉากในตัวอย่างออกไป เลยรู้สึกได้ว่ามันแปลกๆในบางซีน แต่สรุปแล้ว "นี่คือหนังที่ตีความ Joker ออกมาได้ดีที่สุด นี่คือ Masterpiece ที่คุ้มค่าแก่การดู ถึงแม้ว่าดูจบแล้วจะรู้สึกดาวน์โคตรๆก็ตาม"
สามารถติดตามต่อได้ที่เพจ Facebook : โต๊ะดราฟตัวนั้น
https://www.facebook.com/TheDraftingTable/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้