มีมนุษย์เงินเดือนคนไหน ใช้ชีวิตอย่าง minimalist บ้างครับ

ยุคนี้เป็นยุคที่คนๆนึงมีของสะสมจำนวนมากจริงๆเลยนะครับ
บางคนมีของเยอะ ขนาดต้องเช่าโกดังเพื่อเก็บของ  
อย่างผมเอง ห้องผมเต็มไปด้วยสิ่งของ บางอย่างซื้อมาไม่เคยแตะอีก รอแค่วันทิ้ง
ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋า ถ้วย ชาม แผ่นหนัง เกมที่ไม่เคยแกะกล่อง โน้ตบุ๊คที่แทบไม่ได้ใช้
รวมทั้งของแถมต่างๆ ที่ได้จากการซื้อของอีกมากมาย
จนผมรู้สึกอิ่มตัว อยากปฏิวัติชีวิตตัวเอง
หนีจากชีวิตที่รายล้อมไปด้วยสิ่งของ ให้เหลือเฉพาะของที่จำเป็นและใช้บ่อย
ผมเชื่อนะครับว่า ถ้าเรามีของเท่าที่จำเป็น ชีวิตจะโฟกัสมากขึ้น

แต่ก่อนจะถลำลึกเข้าสู่ minimalist
ผมอยากขอสอบถาม ทั้งคนที่มีประสบการณ์ และคนที่สนใจเรื่องนี้
โดยเฉพาะคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน และเจ้าของธุรกิจ 
ที่ปรกติต้องดูแลทั้งงานทั้งครอบครัว จนหลายคนมีของสะสมโดยไม่รู้ตัว
เพราะเผลอซื้อของเข้าบ้านเรื่อยๆ แต่ไม่มีเวลาทิ้ง

มีใครบ้างไหมครับ ที่หักดิบ ทิ้งของไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงอย่างไร คุณภาพชีวิตดีขึ้นไหม อยากให้ช่วยแชร์ด้วยครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
ตอนน้ำท่วมปี54
อำเภอรอบๆท่วมหนัก
ปทุม บางบัวทอง นี่หนักสุด

เราไม่ได้เตรียมเก็บของหนีน้ำ
เพราะวางใจว่าเทศบาลป้องกันเข้มแข็งมาก
ไม่ท่วมแน่นอน
ตี2 กรรมการหมู่บ้านประกาศว่า
เขื่อนที่เทศบาลกั้นน้ำไว้ให้แตกแล้ว
ให้ออกจากบ้าน เพราะประเมินว่าน้ำจะขึ้นสูง
จะออกจากหมู่บ้านไม่ได้

สามีบอกว่า รีบออกๆ ไม่ต้องเก็บ ช่างมันๆ
ส่วนลูกชายยังง่วงๆงงๆ
เราเก็บเฉพาะของที่สำคัญติดตัวไป

... เก็บเสร็จยืนอยู่กลางบ้าน มองไปรอบๆ
ไม่มีอะไรจำเป็นกับชึวิตเลย
เราสะสมสมบัติบ้าอะไรไว้เยอะแยะเนี่ย
แอบคิดว่าน้ำลดแล้ว จะเคลียบ้านให้โล่ง
ไม่ซื้อบ้าบออีกแล้ว

ลี้ภัยอยู่ที่ชล ได้อาทิตย์นึง
กลับบ้าน....
เทศบาลปากเกร็ดทำงานได้ยอดเยี่ยมที่สุด
น้ำไม่ท่วม.... ปรบมือๆ
แต่ยังจำความรู้สึกวันนั้นได้
วันที่รู้ว่า  จริงๆแล้วสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต
มีแค่ครอบครัว คนที่เรารัก เท่านั้นเอง
ความคิดเห็นที่ 9
minimalist คืออะไรอ่ะ แบบนี้ถือได้ว่าเป็น minimalist มั๊ย
- ไม่มีรูปติดผนังเลย รูปรับปริญญา รูปแต่งงาน ทิ้งหมดเลย
- มีกางเกงทำงานสามตัว เสื้อทำงานห้าตัว  รองเท้าคัตชู 1  รองเท้าแตะ 1 อันนี้คือตอนเริ่มชีวิตทำงาน ผ่านไป 15 ปี มีกางเกงทำงานห้าตัว เสื้อทำงานเจ็ดตัว (เป็นเสื้อยึดทีเชิร์ตที่ทำงานแจก 4 ตัว)
- ไม่ใส่แหวน นาฬิกา สร้อย  ตุ้มหู
- ซื้อรถก็เลือกฟังก์ชั่นเท่าที่จำเป็น ส่วนเรื่องสีเป็นลำดับสุดท้าย มีสีไหนก็ซื้อสีนั้น
- กุญแจรถ เป็นแค่กุญแจด้วน ๆ ไม่มีพวง ไม่มีห่วง
- ไม่จักรยาน ไม่วิ่ง ไม่ฟิตเนส ไม่กล้อง ไม่ฟิกเกอร์
คุณภาพชีวิตดีขึ้นนะครับ ผมซื้อที่ดิน บ้าน รถ ด้วยเงินสดได้เลยนะครับ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการไม่เสียเงินไปกับไปของเล็ก ๆ น้อย ๆ
ความคิดเห็นที่ 11
ไม่มีเงินซื้อเลยกลายเป็น minimalist โดยปริยาย
ความคิดเห็นที่ 60
ตอนนี้เป็นมนุษย์เงินเดือน ผบห บริษัทอายุใกล้ 40 นะครับ ปกติเป็นคนไม่ได้ซื้อของเยอะอยู่แล้ว เพราะ ตอนเด็กๆดันไปอ่านเจอข้อความหนึ่ง (จำไม่ได้ว่าใครเขียนไว้) "ชีวิตคือ การสะสมประสบการณ์และความสามารถ ไม่ใช่สะสมสิ่งของ"

ต่อมามีโอกาสไป backpack เที่ยวระยะเวลา 3 เดือนบ้าง 6 เดือนบ้าง ทำให้รู้ว่าของจำเป็นในการใช้ชีวิตไม่ต่างเท่าไหร่กับของที่อยู่บนหลัง ทุกวันนี้ของที่มีอยู่จึงน้อยชิ้น แต่ทุกชิ้นเป็นของดี เพราะต้องการใช้นานๆ เช่น

"เสื้อทำงาน" มีสี 2 tone น้ำเงิน กับขาว เพราะใส่กับกางเกงทำงานหรือยีน ได้ง่าย มีเสื้อ 8 ตัว กางเกง 4 ตัว

"ชุดลำลอง" มี 5 ตัว ลายออกแนวกีฬา และขาสั้น ทำให้ไม่ต้องเลือกและใช้ได้หลายอย่าง และมี ยีน 2 ตัว

"คอม" มี 1 เครื่อง และโทรศัพท์ใช้ iphone 7 มาประมาณ 5 ปี ไม่มี tablet หรืออื่นๆ ไม่มี power bank แต่มีสายชาร์ตที่บ้าน และที่ทำงาน

"App iphone" ลงเองมี 8 อัน spotify, line, whatapp, steaming pro, k+, citi, instagram, calendar

"สูท" มีสองตัว ใช้เป็นหลัก 1 ตัว back up 1 ตัว

"รถ" มีคันเดียว นั่งได้ 4-5 คน คือ BMW 3 ใช้มานาน 8 ปี เพราะมันทนและตอบโจทย์เรื่องเสียงดี (เป็นคนฟังเพลง)

"บ้านมี 1 หลัง" ที่ตจว บ้านเกิด ขณะนี้ทำงานอยู่กทม เช่าคอนโด อยู่เพราะไม่ต้องการเป็นเจ้าของ

"ที่ดิน" มี 2 แปลง ภาคเหนือ 1 แปลง และ ภาตใต้ 1 แปลง ขนาด 1 ไร่ ปลูกบ้านได้ แต่ไม่เกิน 2 คนดูแลดันเอง

"กระเป๋าเงิน" มีบัตร 5 ใบ - บัตรเครดิต 1 ใบ, บัตรประชาชน 1 ใบ, ใบขับขี่ 1 ใบ, บัตร ATM 1 ใบ, บัตร BTS 1 ใบ เงินติดตัวอีก 2 พันต่อ week

"ของในกระเป๋าทำงาน" มี notebook 1 เครื่องพร้อมสายชาร์จ, บัตร MRT, Namecard, folder เอกสารเปล่า 1 อัน, หน้ากาก pm2.5 2 อัน เผื่อวันอากาศแย่ของตัวเอง 1 อัน ของแฟน 1 อัน, smalltalk iphone 1 อัน - น้ำหนักรวมทั้งหมดไม่น่าเกิน 4 กก และดีต่อไหล่และหลัง

"ของเก่า" นิยามของผมก็ไม่ใช่ของมือสอง ของคนอื่น แต่เป็นของที่คุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย เคยใช้ พอเราเห็นหรือได้สัมผัส เราก็จะมีความทรงจำเกี่ยวกับอดีต มีอย่างละ 1-2 ชิ้นต่อคน เพราะเวลาจัดห้องจะให้ชิ้นนั้นเป็นจุดเด่นของห้อง เช่น บ้านที่ตจว ห้องครัวจะมีความทรงจำของคุณแม่อยู่เป็นตู้กับข้าวเก่า ส่วนห้องนั่งเล่นจะมีความทรงจำของพี่ๆ อยู่เป็นวิทยุ เครื่องเก่าที่เคยเปิดฟังเพลงกันตอนเด็กๆ

"ของใช้สิ้นเปลือง" จะมีที่ใช้อยู่ และ backup อีกประมาณ 2 weeks

โชคดีที่มีแฟนที่มีวิถีชีวิตคล้ายๆกัน เสื้อผ้า รองเท้า อาจจะเยอะกว่าเรานิดหน่อย สรุปแล้วไม่รู้ว่า minimalist รึเปล่า แต่มีเท่าที่ใช้นะครับ
ความคิดเห็นที่ 48
แบบเราเรียกว่า Minimalist ไหมคะ

1. ไม่แต่งหน้าทำผม ไม่ใช้เครื่องสำอาง
2. ทั้งบ้านมี  ทีวีหลังเต่า  วิทยุ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า  พัดลม มือถือ ตู้เสื้อผ้า อย่างละ 1 ชิ้น - จบ
3. นอนที่นอนปิกนิก ห้องนอนมีแค่แอร์ 1 ตัว  - จบ  ( ไม่มีเตียงนอน ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ )
4. แก้วน้ำ จาน ช้อน มีแค่ 1 ชุด
5. ไม่มีรถยนต์  ใช้ขนส่งมวลชน จริงๆมีเงินซื้อรถ แต่เพราะรักษ์โลก และคิดว่าถ้าทุกคนซื้อรถ รถจะติดมาก  ไม่เป็นไร  เราเสียสละนั่งรถเมล์เอง ( ดูเป็นคนดีเนาะ 555+ )
6. บ้านไม่มีถังขยะ  จะได้กดดันตัวเอง ในการพยายามไม่ผลิตขยะ  ซื้อของไม่เอาถุงพลาสติกและหลอด  
7. เวลาจ้างใครมาทำงาน ไม่ต่อรองราคาค่าจ้าง เพราะชอบจ่ายเงินให้คนที่ทำงานดีๆ  รักในงานบริการ แพงไม่ว่า ขอทำงานดีและใจรักงาน
8. แต่ของที่มีเยอะและไม่เคยทิ้งเลย คือ หนังสือ
9. เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า มีอยู่จำนวนหนึ่ง  ไม่ถือว่าน้อยแบบมีแค่ชิ้นเดียวนะ 555+ แต่เคยถ่ายรูปให้เพื่อนดู  ถามเพื่อนว่าเราของเยอะไหม เพื่อนบอกปกติ ให้ผ่าน  555+

เพิ่งเอาข้าวของในบ้านทิ้งไป พอสมควร แต่ของยังมีอยู่บ้าง ส่วนมากเป็นของใช้จำเป็น  อะไรไม่จำเป็นทิ้งไป  ( ยกเว้น หนังสือ )

เป็น Minimalist แล้ว ชีวิตดี  ไม่รุงรัง  มองไปทางไหน บ้านโล่ง ของน้อย แล้วรู้สึกสงบ ได้ดีขึ้น 555+
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่