เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ดอีอีซี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้เห็นชอบผลการเจรจาภายใต้กรอบเอกสารเชิญชวนเอกชนลงทุน (RFP) และออกหนังสือนัดบริษัทผู้ว่าจ้างกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) มาลงนามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) 

โดยที่ประชุมกำชับให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งส่งมอบที่ดินให้เร็วที่สุด ซึ่งที่ดินของ ร.ฟ.ท.จะส่งมอบได้ 72% ภายใน 1 ปีหลังลานาม แต่อีก 28% มีปัญหามากที่สุด จะส่งมอบได้ในอีก 18 เดือน เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เช่น 

- กระทรวงพลังงาน ต้องเร่งรัดการรื้อย้ายท่อก๊าซยาว 12 ก.ม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 16 จุด 

- กระทรวงมหาดไทย ต้องเร่งรัดย้ายท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 จุด ย้ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงยาว 14 ก.ม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง กำลังไฟ 500,000 โวลต์ 39 จุด ย้ายท่อประปาขนาดใหญ่ยาว 2 ก.ม. 

- กระทรวงคมนาคม โดย ร.ฟ.ท.ใช้สิทธิ์เร่งรัดให้ย้ายท่อน้ำมันของบริษัทเอกชน ระยะทาง 44 ก.ม. รวมทั้งเร่งรัด พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน พ.ศ. ... เพื่อทำให้การส่งมอบพื้นที่โครงการเป็นไปตามแผนงานและก่อสร้างเสร็จตามเป้าหมาย

สำหรับอุปสรรคความยากลำบากในการรื้อย้าย ที่เรียกว่าเป็นงานหินนั้น ทาง TNN ได้ลงพื้นที่รายงานมาให้ชมกัน 2 ตอนแล้ว (ไม่แน่ใจว่ายังมีตอนต่อไปอีกหรือไม่)   

เปิดจุดเสี่ยง 3.5 กม.คืนพื้นที่ "ยาก" ถ่วงสร้างไฮสปีด 3 สนามบิน



รื้อย้าย "ท่อน้ำมัน-ท่อก๊าซ" โจทย์ "หิน" ส่งมอบพื้นที่ไฮสปีด