แชร์ประสบการณ์ใช้จักรยานไฟฟ้า 26,000 กม. ใน 1 ปี 5 เดือน


ภาคต่อจากกระทู้นี้ครับ https://ppantip.com/topic/37662162

ผมเริ่มใช้จักรยานไฟฟ้าคันนี้ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว
ใช้ส่งน้ำผักผลไม้อินทรีย์ปั่นทั้งกาก วิ่งวันละ 50 ถึง 140 กม. จันทร์-ศุกร์ 
บ้านผมอยู่สมุทรปราการ ต้องวิ่งเข้าไปรับน้ำที่ทองหล่อ(สุขุมวิท 55) เริ่มงานแต่เช้ามืด ไม่เกินเที่ยงก็เสร็จเข้าบ้าน
พื้นที่การส่งของผม คือบางเขตของกรุงเทพ(บางนา ประเวศ ลาดกระบัง) และทั่วสมุทรปราการ
เดือนแรกใช้แบต 36V 15A ใหม่ๆวิ่งได้ 50 กม. แบตถึงจะหมด(หากไม่ออกแรงปั่นเลย)
แต่พอใช้ๆไป ระยะทางที่ใช้ได้ เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนผ่านไป 1 เดือนเต็ม
แบตเก็บไฟลดลงครึ่งนึง ชาร์จเต็มแล้ววิ่งได้เพียง 25 กม.
พยายามติดต่อเคลมแบตจากผู้ขาย ตามอยู่หลายรอบมาก นานราว 1 เดือน ผู้ขายจึงให้แบตก้อนใหม่มา
ระหว่างรอแบตใหม่ จึงได้ออกกำลังกายค่อนข้างมาก ต้องออกแรงปั่นครึ่งนึง
แรงมอเตอร์ไฟฟ้าอีกครึ่งนึง เพราะแบตมีไฟไม่พอใช้กับระยะทางที่วิ่ง


จักรยานคันนี้เคยบรรทุกน้ำหนักสูงสุด 120 กิโลกรัม(สัมภาระรวมน้ำหนักตัวผม ไม่รวมน้ำหนักจักรยานเปล่า)
ขั้นต่ำ 70 โล กระเป๋าหลังติดไว้ตลอด แทบไม่เคยเอาออกเลย
ซี่ลวดล้อหลังเปลี่ยนเป็นซี่ลวดมอเตอร์ไซค์นานแล้ว ก่อนจะแปลงเป็นไฟฟ้า
เพราะเมื่อก่อนซี่ลวดขาดบ่อย ตั้งแต่เปลี่ยนมา ก็ไม่เคยซี่ลวดขาดอีกเลย
ผมเกรงว่าแบตใหม่จะใช้ได้ไม่นานเหมือนของเก่า(ไม่ไว้ใจคนขายเดิมแล้ว)
จึงหาซื้อแบตลูกใหม่ ไปเจอเจ้านึงในเฟสบุ๊ค ราคาต่อความจุไฟฟ้า ราคาถูกกว่าแบตก้อนเก่าอีก
ตอนนั้นจะสั่งแบตจากเว็บจีนเองก็ได้ แต่กลัวถูกจีนหลอก(เคยโดนคนขายจีนหลอกไปหลายรอบแล้วกับสินค้าชนิดอื่น)
รู้สึกไม่มีอะไรจะเสีย จึงสั่งแบตใหม่มา เป็นลิเธียมไอออนฟอสเฟต 48V 24A น้ำหนัก 9 กก.
ราคา 9000 บาท รวมที่ชาร์จ 6A รับประกัน 2-3 เดือน(จำไม่ค่อยได้)
แรงดันไฟสูงกว่าเดิม(ชาร์จเต็มแล้วมีแรงดันไฟ 56-57V) ความจุไฟฟ้าสูงกว่าแบตเก่าเท่าตัว


รูปแบตใหม่ที่กำลังประกอบจากคนขาย จะถูกใส่ในกล่องพลาสติกที่ปิดทึบอีกที 
ซึ่งผมคิดว่าทำให้การระบายความร้อนไม่ดี ก่อให้เกิดปัญหา(เดี๋ยวจะเล่าต่อ)

พอเปลี่ยนแบตใหม่ รู้สึกแรงกว่าเดิมมากจนไม่ปลอดภัย(กดคันเร่งแล้วล้อหมุนฟรีง่ายถ้าพื้นผิวค่อนข้างลื่น)
ผมจึงตั้งค่าจำกัดกระแสไฟฟ้าเข้ามอเตอร์ จากเดิม 15 แอมป์ ลดเหลือ 10 แอมป์
จำกัดกระแสของเบรคไฟฟ้าที่ชาร์จไฟกลับเข้าแบต(Regen Brake) ไม่งั้นเบรคที่ความเร็วสูงตอนถนนเปียกแล้วล้อไถล ล้มง่าย
ทำให้เวลาเร่งความเร็ว นุ่มนวลขึ้นเยอะ พอความเร็วตั้งแต่ 30 กม./ชม. จะเร่งอืดขึ้นมาก
ความเร็วสูงสุดราว 40 กม./ชม. ถ้ามีลมส่งแรงมากจะไหลไปที่ 47 กม./ชม. ถ้าลมต้านแรงมากเคยเหลือ 32
ถ้าออกแรงปั่นด้วยความเร็วเพิ่มขึ้นอีกนิด(ยังไม่เคยเกิน 50 ถ้าไม่ลงสะพาน)
มอเตอร์ทำงานเงียบ แทบไม่มีเสียง ความเร็วเกิน 25 จะไม่ได้ยินเสียงมอเตอร์(เสียงลมตีหน้าดังกลบหมด)
ที่ความเร็วสูงสุด กินไฟราว 500 วัตต์ ตอนกดคันเร่งเต็มที่จะกินไฟมากกว่านั้น(ดูจากมิเตอร์วัดแรงดันไฟที่ผมติดเพิ่ม ตอนกดคันเร่งสุด แรงดันไฟจะตกมากกว่าตอนที่วิ่งเร็วสุด)
เสียค่าไฟราว 0.05 บาท ต่อ 1 กิโลเมตร หรือ 100 กม. จ่าย 5 บาท
แบตใหม่ชาร์จเต็มแล้ว ถ้ากดคันเร่งเต็มที่ตลอดทาง เบรคเต็มที่ ไม่ออกแรงเลย วิ่งได้ราว 85 โลแบตหมด
ถ้าจำกัดความเร็วจะวิ่งได้เกิน 100 โลสบายๆ


พิกัด 13°42'54.5"N 100°44'36.4"E  ข้างสนามบินสุวรรณภูมิ
ทำความเร็วและระยะทางได้เพิ่มขึ้น จึงขยายพื้นที่การส่งได้กว้างขึ้น
ถึงอย่างไร ผมชอบวิ่งทางเงียบสงบเป็นธรรมชาติแบบนี้ มากกว่าวิ่งบนถนน
ทางปูนเลียบคลองนี้ตรงยาว 10 กิโลเมตร ขนานกับถนนกิ่งแก้ว

แบตใหม่ ใช้งานดีหลายเดือนแบบไม่มีปัญหา จนวันนึงแบตไม่จ่ายไฟ
ลองแกะดูข้างใน เจอขั้วนึงที่คนขายสปอตไว้ มันหลุดออก



ถามคนขาย เขาบอกให้บัดกรีได้เลย ผมเกรงว่าความร้อนจากหัวแร้งจะทำให้แบตเสียหายไหม คนขายบอกไม่เป็นไร
หัวแร้งของผมปรับได้ร้อนสุดที่ 500 องศา ต้องแช่ที่ขั้วแบตอยุ่นานกว่าจะบัดกรีติด
จากนั้นก็ใช้ได้ปกติอีกเป็นเดือน จนเจอปัญหาอีก ทีนี้แผ่นนิกเกิลที่เชื่อมขั้วแบตขาดออกจากกัน
คนที่ใช้ถนนกรุงเทพคงรู้ว่าหลายๆเส้น มีหลุมบ่อเยอะกระแทกกระเทือนขนาดไหน
เส้นทางที่ผุพังไม่เรียบเช่น ถนนทางรถไฟสายเก่า ถนนกิ่งแก้ว ผมใช้อยู่เป็นระยะ
ผมจึงไล่บัดกรีพอกทุกขั้วทุกเซลล์ หลังจากนั้นจึงใช้ได้ยาวๆ
แนะนำให้ใช้แบตแบบขั้วขันน็อตจะดีกว่า สำหรับยานพาหนะครับ


คลองสำโรง พิกัด 13°38'33.9"N 100°36'14.3"E ทางลัดเชื่อมระหว่างถนนเทพารักษ์และซอยวัดด่านสำโรง

จนถึงต้นเดือน มี.ค. ตัวชาร์จแบตเจ๊ง ถามคนขายแบตแล้วไม่มีของ
(ต้องรอสั่งจากจีน) จึงสั่งจากเจ้าอื่น เป็นแบบ 3A
ตัวชาร์จที่เจ๊ง ตอนหลังผมลองซ่อมแล้ว ได้เปลี่ยนเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์ 2 ตัว
ตัวต้านทานอีก 4 ตัวที่อยู่ใกล้ทรานซิสเตอร์ และตัว(อะไรจำไม่ได้)
ที่มี 3 ขาที่อยู่บนแผ่นวงจรควบคุม จึงกลับมาใช้ได้ปกติ
พอใช้แบตมาได้เกือบปี ระยะทางที่แบตทำได้ลดลงราว 15%
ประมาณว่าเมื่อก่อนเคยวิ่งได้ 80 โล ก็เหลือ 60 โล
ผมว่าผิดปกติ เมื่อแบตหมด จึงวัดแรงดันไฟเซลล์แบตแต่ละเซลล์
เจอเซลล์นึงมีแรงดันไฟต่ำกว่าเซลล์อื่นๆเยอะ
วัดได้ 3.06V ส่วนเซลล์อื่นๆวัดได้ 3.22 - 3.25V
ผมได้แจ้งคนขายว่ามีเซลล์รุ่นนี้ใหม่ ผมจะขอซื้อมาเปลี่ยนเอง
คนขายใจดีบอกว่ามีสำรองอยู่อันนึง ส่งมาให้ผมฟรี พอเปลี่ยนแล้วแบตก็ใช้งานได้ระยะทางดีเหมือนเดิม
แต่ระยะทางที่แบตทำได้ลดลงราว 5% เมื่อเทียบกับแบตใหม่
เพราะว่าใช้มานานแล้ว(รอบการชาร์จน่าจะใช้มาราว 400-500 รอบ)
แบตบวมมากแทบทุกก้อน อาจจะเพราะอยู่ในกล่องทึบ ความร้อนสะสมด้วย ยิ่งหน้าร้อนยิ่งร้อนมาก


รูปนี้ถ่ายตอนแกะแบต เปลี่ยนก้อนใหม่ลงไปแทน(ก้อนตรงกลางรูปค่อนมาด้านล่าง) ก่อนจะบัดกรีสายไฟเชื่อมขั้วแบตใหม่

ปุ่มล็อคความเร็ว(Cruise Control) ใช้ได้ราวครึ่งปีเริ่มกดไม่ติด สวิชปุ่มกดเสีย
ผมจึงเอาสวิชเปิดปิดคอมจากเคสคอมเก่าสิบปีที่แล้ว มาดัดแปลงใส่แทน ใช้ได้ดี

ปลายปีก่อน ตกหลุมแรงมากหน้าคอนโด ideo mobi บางนา จนทำให้ขอบล้อมอเตอร์คด
ตอนนี้หลุมนี้ยังอยู่ พอพังมากๆ เขาจะเอายางมะตอยมาถม นานไปยางมะตอยจะหลุดไปเรื่อยๆเหมือนเดิม
จริงๆหลุมนี้เคยลงมาแล้วแต่เมื่อก่อนยังเป็นหลุมดักหมู(ยังไม่ลึก) วันนั้นกลายเป็นหลุมดัก....(ไม่มีวัวผสม)
ผมเอาคีมดัดขอบล้อให้กลับมาตรง แต่พอใช้นานไปจนเดือนที่แล้ว เกิดรอยร้าวขึ้นชัดเจน
จึงซื้อขอบล้อใหม่จากร้านที่ขายล้อมอเตอร์ ราคา 800 บาท ให้ร้านจักรยานแถวบ้านเปลี่ยนให้ ใช้ซี่ลวดของล้อเก่าได้


ปัญหาอื่นที่เจอบ่อย เป็นปัญหาที่เกิดกับจักรยานทั่วไปเช่น ยางรั่ว
ล้อมอเตอร์จะถอดยากกว่าล้อปกติมาก ดีที่ผมชำนาญการปะยางแบบไม่ต้องถอดล้อ
จึงไม่เคยต้องถอดล้อมอเตอร์ออกมาปะ/เปลี่ยนยางในในขณะที่ส่งน้ำ



นานๆจะโดนตะปูทิ่มทีนึง ทีแรกทิ่มมิดไปแล้ว ผมดึงออกมาให้ดูว่ายาวแค่ไหน
ใช้ยางในแบบมีน้ำยากันรั่วในตัวแล้ว(ซื้อจากดีแคทลอน)
เอาไม่อยู่(เอาอยู่แค่ครึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่โดนตำ) แผลใหญ่เกิน
ปัญหาหนักสุดที่เจอคือ ตะเกียบหน้าหัก เกือบขาด เจอเมื่อ 1-2 เดือนก่อน
ขี่ๆอยู่แล้วรู้สีกหน้ารถส่ายๆพิกล จึงจอดรถ ลงมาสำรวจดูก็เจอ
นานหลายเดือนก่อน(น่าจะราวต้นปี) เคยชนรถมอเตอร์ไซค์ย้อนศร(ล้อหน้าชนล้อหน้า) ทำให้ตะเกียบงอ
ล้อมอเตอร์ไม่เป็นไร ยังขี่ได้ปกติ องศารถเปลี่ยนไปบ้าง
นึกว่าเหล็กจะเหนียว แต่พอขี่ได้อีก 1 หมื่นโลก็เป็นแบบนี้นี่เอง ขาดตรงจุดที่งอ ประมาทไปซะแล้ว



วันนั้นจึงให้ร้านจักรยานแถวบ้านเปลี่ยนตะเกียบเป็นโช๊ค
ซึ่งโช๊คที่ใช้ได้กับจักรยานแม่บ้าน LA หายาก โชคดีที่ร้านมีเก็บไว้(เป็นของลูกค้าที่สั่งไว้แล้วไม่เอา)
ปัญหาตอนใส่โช๊คคือ ความอ้วนของมอเตอร์ติดขาโช๊ค จึงต้องถ่างขาโช๊คออกหน่อยถึงใส่ได้
แต่การถ่างทำให้โช๊คไม่สามารถยุบตัว อย่างไรก็ตาม โช๊คอันนี้ยังดูแข็งแรงกว่าตะเกียบธรรมดา



อีกสัปดาห์ต่อมา งานเข้าอีกแล้ว ทีนี้เป็นตะเกียบหลัง จุดที่รับน้ำหนักจากตะแกรงหลัง
ไม่รู้มันหักขาดตั้งแต่ตอนไหน มิน่าช่วงหลังมานี้รถส่ายๆคุมรถลำบากกว่าเดิม

ให้ช่างเหล็กแถวบ้าน เชื่อมโดยเอาเหล็กดามเสริมเข้าไปด้วย
กำลังหารถเสือภูเขาคันใหม่อยู่ คันนี้ใช้คุ้มแล้ว



ดุมมอเตอร์จากจีน ประกัน 1 ปี(โดยตัวแทนจำหน่ายในไทย) ทีแรกคำนวณไว้แล้วว่าถ้าครบ 1 ปีเจ๊งทันที
ก็ยังคุ้มค่าอยู่แม้ล้อมอเตอร์นี้ราคาหมื่นกว่าบาท เพราะผมใช้รถเยอะมาก
ที่ไม่เลือกดุมมอเตอร์จีนรุ่นถูกๆไม่กี่พัน กลัวจะเจ๊งเร็ว
เคยอยู่เลนซ้ายสุดลุยน้ำท่วมสูงปริ่มฟุตบาทหลายรอบแล้ว ไม่มีปัญหาเลย
มีครั้งเดียวที่ลุยน้ำท่วมสูงครึ่งล้อจักรยาน เช้ามืดวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา
ตรงถนนบางนาตราดจะเลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ คลื่นน้ำท่วมมิดดุมมอเตอร์ไปเรียบร้อย
เจอรถเก๋งจอดตาย 1 คันตรงนั้น เลยมาหน่อยลุยน้ำลึกแถวแยกลาซาลด้วย
ก่อนกลับบ้าน ลุยน้ำท่วมในหมู่บ้านเอเวอร์กรีนวิลล์ ตามรูปด้านล่าง
วันนั้นใช้งานได้ปกติตลอด แต่อีกวันนึงมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตลอดเวลาที่ล้อหมุน
แต่ยังใช้งานความเร็วความเร่งได้เท่าเดิม ดังอยู่ 1 สัปดาห์ไม่หาย
ผมจึงใช้สเปรย์หล่อลื่น WD-40 ฉีดอัดเข้าไปในดุม ฉีดเสร็จใหม่ๆก็ยังดังอยู่ วันต่อมาถึงหายดัง



ทางซ้าย 20470 เป็นระยะทางจากไมล์จักรยานตั้งแต่เริ่มใช้ล้อมอเตอร์ ถ่ายเมื่อวันที่ 19 ก.ค.
ตอนนั้นถ่านจะหมด ไมล์จับความเร็วไม่ได้แล้ว ขี่อีก 2-3 วัน ถึงจะได้เปลี่ยนถ่าน เลขระยะรีเซ็ท 0 ใหม่
ส่วนด้านขวา 5316 กม. ถ่ายวันนี้ รวมระยะทางราว 26,000 กม. รวมช่วงที่ไมล์ใช้ไม่ได้ด้วย



สรุปว่าถ้าไม่มีปัญหาแบต จะดีมากๆครับ มอเตอร์ไม่ต้องบำรุงรักษาอะไรเลย
แค่ฉีดน้ำมันหล่อลื่นไล่ความชื้นหลังลุยน้ำท่วม(ไม่รู้จะมีผลเสียอะไรมั้ย)
ถ้าใช้งานในเมืองที่รถติดมากๆ จะไม่คล่องตัวเท่าจักรยานธรรมดา เพราะน้ำหนักเยอะกว่ามาก
เคยขี่จักรยานไฟฟ้าตามเพื่อนนักปั่นที่ชำนาญมากในเมือง ตามไม่ทัน หายวับลับตาไปข้างหน้าเร็วมาก
ตอนนี้ก็หวังว่าจะมีแบตเตอรี่ชนิดใหม่ๆที่เบากว่า ทนกว่า เก็บ/จ่ายไฟได้ดีกว่า
ออกสู่ท้องตลาดเร็วๆครับ ถึงวันนั้นยานพาหนะไฟฟ้าเป็นที่นิยมแพร่หลายแน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่