เราเป็นคน จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นคนหนึ่งที่ จัดว่า อวบระยะสุดท้าย อายุ 40ปี สูง 170 น้ำหนัก 78  บอกเลยว่า อึดอัดมาก เพราะยิ่งน้ำหนักขึ้น สะโพก ต้นขา ก็ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ที่เค้าเรียกว่า อ้วนลงก้นลงแข็งลงขา  มันคือเราชัดๆเลย...กางเกงก็จำเป็นต้องเปลี่ยนไซด์.. และที่สำคัญ ขาด้านในเดินเบียดกันจนถลอก และ เริ่มปวดเข่า เพราะน้ำหนักเยอะ ออกกำลังก็แล้ว ควบคุมอาหารก็แล้ว ทานยาลดความอ้วนก็แล้ว ไม่เคยชนะใจตัวเองได้เลย เมื่อถึงจุดที่ตัดสินใจ แน่นอนแล้วว่า ดูดไขมันสะโพกและต้นขา..เป็นทางทีเป็นทางที่เราจะเลือก เราก็เริ่มหาข้อมูล และเริ่มเดินทางปรึกษา คลีนิค ที่เราสนใจ จากรีวิวต่างๆ ใน FB และ Line@  จนรวบรวมข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ดังนี้ 

1. ราคาที่บอกว่า จุดละ 4,990 หรือ 5,999 เค้านับเป็นจุดที่เจาะสอดเครื่องมือเข้าไปดู ซึ่ง ขาหนึ่ง เฉลี่ย ประมาณ 5-6 จุด ขาหนึ่งก็ประมาณ 30,000 บาท  2 ขาก็ประมาณ 60,000 บาท

2.ราคาที่บอกว่าเหมา 19,000 หรือ 29,000 ส่วนใหญ่ จะจำกัด น้ำหนักน้ำหนักคนทำไม่เกิน 65 หรือ จำกัด ขนาดไซด์ส่วนที่ทำเช่น รอบขา กี่เซน เป็น ไซด์ M / L /XL ซึ่งของเรา คลินิค คุณหมอลูก.... ที่ กทม. ตีราคาไซด์เรา 79,000 😱(เดี๋ยวมาต่อเดี๋ยวมาต่อ)

3.บางคลีนิคใช้ Line@ ของคลีนิคที่มีชื่อเสียง แต่นัดไปคลีนิคอื่น และเงื่อนไขไม่ตรงโฆษณากำกวม

4.คลีนิคส่วนใหญ่เป็นการทำแบบ ทำแล้วกลับได้ แนะนำการดูแลแผลเอง(เป็นปัญหากับคนต่างจังหวัดมาก) ถ้าเป็นโรงพยาบาลถึงจะมีแอดมิด (ราคาสูง)

5.การดูดไขมันที่นิยมมี 2  แบบ คือ Bodytite  ดูดพร้อมกระชับ(บ้าง)แพงกว่า และ Vaser ดูดแล้วค่อยกระชับทีหลัง ดูดได้ปริมาณเยอะกว่าและถูกกว่า

สุดท้ายเลือกได้คือ

คลีนิคแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ดูดแบบ Vaser ตั้งแต่ หัวเข่าบน สะโพก เจาะทั้งหมด ขาข้างละ 5 จุด ในราคา 35,000 บาท แถมกระชับ RF 1 ถ้ามีรอยแผลเป็นจากการเจะ หมอดูแลให้ฟรี

คำแนะนำของหมอก่อนลงมือทำ แต่เป็นคำแนะนำในการดูแลหลังทำ
1.  หลังทำบริเวณที่ดูดออกไปจะเป็นไตไม่มากก็น้อย แต่เป็นทุกคน  และจะหายไปเอง แต่ใช้เวลาหรือ ถ้านวดก็จะหายไวขึ้น
(คำว่าเป็นไตที่แรกเข้าใจว่า เป็นก้อนๆ เหมือนหมอดูดไขมันไม่หมด ฤ เปล่าหว่า แต่ก็ยังไม่ถาม) 

2. ช่วงแรกอย่าเดินเยอะ เพราะขาอาจจะบวมได้ ไม่ต้องกังวลเพราะจะค่อยๆดีขึ้น

3. ใน 1-2 วันแรก อาจจมีน้ำเกลือซึมออกจากแผล เพราะ น้ำเกลือผสมยาชาถูกใส่เข้าไปในขา และดูดออก แต่ยังจะไม่หมด 100%
ดังนั้นให้รูดน้ำเกลือออก (มีวิธีสอน ซึ่งไม่ยาก ) แต่ห้ามทำเกิน 5 นาที 

4.ช่วงเดือนแรกไม่ต้องชั่งน้ำหนักเพราะ น้ำหนักไม่ลดแน่นอน เพราะยังบวมอยู่ ในบางคนสัดส่วนลดลง แต่น้ำหนักไม่ลดก็มี

"""" เป็นอันเข้าใจ และ นัดวันทำ ได้คิว 25 สิงหาคม 2562 ====และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง

ณ.  ห้องดูดไขมัน ผู้ช่วยคุณหมอก็มาให้เปลี่ยนกางเกง แล้ว เช็ด บริเวณที่จะดูดด้วยอะไรเยอะแยะไปหมด

แล้วคุณหมอก็มาวาดขาว่าจะ ดูดตรงไหน แนวไหนบ้าง

พอวาดเสร็จ คุณหมอก็เริ่มลงมือเลยคะ โดยมีผู้ช่วยหมอบอกให้เรานอนเล่นมือถือได้เลย ที่แรกฟังก็ งง จริงเหรอ เค้าก็หยิมมือถือส่งให้เราจริงๆ แล้วก็เริ่มเจาะแขนใส่น้ำเกลือ แล้วคุณหมอก็เริ่ม ฉีดยาชา ในจุดที่ จะเริ่มดูด บอกเลยว่า รู้สึกแค่เข็ม ยาชาเท่านั้นที่เจ็บจี๊ดหนึ่ง หลังจากนั้น ไม่รู้สึกเจ็บอีกเลย แล้วรู้ว่าหมอ น่าจะทำอะไร แล้วก็ได้ยินเสียงดูด แล้วก็เห็นไขมันที่วิ่งตามสาย บอกเลยผิดคาดมากๆ ไม่เจ็บเลยสำหรับเรา พอ ทำเสร็จทั้ง 2 ข้างหมอก็ให้ลงมายืนข้างเตียงดูว่า ขาเท่ากันไหม ของเรา ไม่เท่า หมอก็ให้ขึ้นเตียงไปดูดอีกข้างออกอีกหน่อยจน มันเท่ากัน  (คือ หลังดูดทันที มันยังไม่บวม จะดูออกว่า พอดีไหม พอใจไหมคะ)

สรุป คุณหมอใส่น้ำเกลือไป 6 ขวด  ดูดไขมันออกไปได้ 5,300 ซีซี กระปุ๊กนี้ กระปุ๊กสุดท้าย อันอื่นลื่มถ่ายรูปคะ  หมอใช้เวลา 4 ชั่วโมงนิดๆ ในการทำ หลังจากนั้น น้องผู้ช่วยก็ เอาผ้า ก๊อต ผ้าอนามัย แพมเพิ้ส มาโป๊ แผล เพราะ น้ำเกลือ ผสมกับเลือดจางๆ ยังวึมอยู่เรื่อยๆ...

นี่ภาพก่อนและหลังทำ ทันที เป็นที่น่าพอใจ แล้วตืนเต้น แต่ขายังชาอยู่

(หมายเหตุ  รูปขอหมอมา แต่เราเอาสีดำป้าย ชื่อคลีนิคออกนะคะ แต่เป็นรูปเราเอง)

ไว้มาเล่าต่อ หลังจากกลับมาพักที่บ้านนะคะ