ผมสูง 183 น้ำหนักที่พอใจคือ 72 - 73 กก. ที่นี้ ใส่กางเกงเอว 32 นิ้ว

ที่นี้พอ อายุ เข้าปลาย 34 แตะ 35 ไม่รู้ยังไง กินก็เหมือนเดิม ออกกำลังในฟิตเนสเหมือนเดิม
คือ พฤติกรรมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่อยู่ดี ๆ น้ำหนักขึ้นมาเป็น 80 - 81 กก.
แล้วส่วนที่อ้วนคือ พุง รอบเอว กางเกงนี่ติดตะขอรูดซิบไม่ได้กันแล้ว สติแตกมาก เครียดมาก
คือใส่นาฬิกาข้อมือยังหลวมอยู่ แต่กางเกงคับ นึกออกป่ะครับ คือ ห้าโลมากองอยู่รอบเอว แขนขาไม่ได้ใหญ่ตาม
มันตลก เหมือนเอาตะเกียบเสียบลูกแตงโม

ผมก็เปลี่ยนวิธีออกกำลัง ไปเข้า YOGA เพิ่ม จากเดิมที่เล่นคลาสยกน้ำหนัก ต่อยมวย และ ปั่นจักรยาน
คือเล่นยิม จนคนรอบข้างก็ยังวิจารย์ว่า เล่นขนาดนี้ ทำไมอ้วนขึ้น ...ก็มีคนบอกว่า เค้าเรียก "พุงดื้อ"

สุดท้ายก็สติแตกจริง ๆ โทรหาคลีนิคแถวสยาม นัดวันนั้น ตัดสินใจ ดูดวันนั้นเลย ไปคลินิคห้าโมงเย็น เข้าห้องดูดหกโมงครึ่ง

ไปคนเดียวด้วย เจ๋งป่ะหล่ะ ......พอดีคอนโดอยู่ใกล้สยาม เลยไม่กลัว ว่าจะกลับห้องไม่ได้

เอาจริง มานั่งอ่านทีหลังนะ ว่ามันเป็นผ่าตัด ต้องเตรียมตัว ต้องอดอาหาร 6 ชม. บลา ๆ ผมไม่รู้อ่ะ เซลก็เชียร์แหลก

ต่อราคาจนได้ 30,000 บาท ถ้วน ดูดให้เฉพาะพุงใต้สะดือ  ก็เรียกว่าพุงด้านหน้าช่วงล่าง พื้นที่ก็ประมาณ กางฝ่ามือที่พุงซ้าย - ขวา

ใช้เครื่องที่เรียกว่า Vaser Body Tite ที่มี หัวแบบปล่อยคลื่นวิทยุกระชับ บ้าบอไรเนี่ย เข็มก็ใหญ่โตยาวเท่าแขน

ตอนนอนดูหมอเตรียมของนี่แบบ ใจสั่น เวงงง ไม่น่าเลยกรู มือไม้เย็นไปหมด ยาชานี่ฉีดหมดไปเป็นขวด ๆ

ตอนหมอทำก็แบบ เจ็บบางจังหวะ แต่เตรียมใจไว้แล้วว่ามันคือการทำให้ร่างกายบาดเจ็บเป็นแผลกว้างภายใน
เสร็จเกือบสองทุ่ม แทกซี่กลับห้อง

พอถึงห้องก็ ทรมานนนนน สิครับ อีน้ำเกลือที่อัดเข้าใป มันก็ต้องไหล ผมนี่กลับห้องพอเอาโกเต๊กออก ผมยืนบนผ้าเช็ดเท้าสีขาว
น้ำเกลือผสมเลือดนี่ไหลทะลักพรวดออกมา เหมือนคนน้ำครั่งแตกในละครทีวี วิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน เพราะมันเลอะผ้าเช็ดเท้าสีขาว
นั่งชักโครกรีดน้ำเกลือ โอ้ยยย คุณ หาเรื่องใส่ตัวที่สุดในชีวิต อยู่คนเดียวด้วย สุดว้าเหว่ แต่ไม่มีความเจ็บอะไรนะ ไม่ปวด ยาแก้ปวดอะไร
ไม่ได้กินเลย

สภาพแผลกะพุงที่ทำ เหมือนโดนนักเลงปากซอยรุมยำมา บอบช้ำสาหัสมาก

24 ชม.ผ่านไป น้ำเลือดน้ำเกลือก็หยุดไหล ก็ใช้พลาสเตอร์กันน้ำแปะแผล สองรูซ้ายขวา เวลาอาบน้ำ พอตัวแห้งก็เปลี่ยนเป็นผ้าก๊อซโปร่ง ๆ

เอาที่รัดพุงมารัด ไม่ได้ซื้อแบบแพงนะ ซื้อแบบ 600 บาท ที่ใข้สำหรับคนผ่าตัด ไม่ใช่พวกบอดี้สูท สี่ห้าพันไรงี้ (งบหมด)

เจ็ดวันแผลหายสนิทละ โดนน้ำได้ แต่เป็นเจ็ดวันที่ผ่านไปด้วยความเสียดาย ....... ต้องปลอบตัวเองว่า ฟาดเคราะห์ประจำปี
เหมือนโดนรถชน แล้วโดนขโมยตังค์ไปสามหมื่นอ่ะคุณ ไม่รวมค่าอุปกรณ์ทำแผล ห้าหกร้อย กะผ้ารัดพุง

คืออยากลงรูป แต่อาย

สรุป ไม่ได้ผลอะไรสำหรับผม ตอนดูด ผมก็ดูนะ หมอ ฉีดน้ำเกลือเข้าไป 1 ลิตร แล้วที่ออกมาก็ลิตรกว่า เห็นเป็นไขมันลอยอยู่แต่ยังไม่
ลอยตะกอนดีนัก ไม่เห็นถ่ายรูปให้เหมือนในโฆษณาเลยอ่ะ

พุงบวมเหมือนเดิมครับ ต้องออกกำลังกายเหมือนเดิม ควบคุมอาหารเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้อ้วนขึ้น น้ำหนักไม่มีลง สรีระ ที่บอกว่าการดูดแบบนี้
เป็นการแก้ไขสรีระเฉพาะจุด  คือ ผมก็ยังพุงกลมเหมือนเดิมเด้ะ ๆ เหมือนไม่ได้ทำอะไรมา แถมมีของแถม เป็นแผลเป็นกลม ๆ ที่พุงซ้าย - ขวา ให้ดู
เป็นอนุสรณ์ อ้อ แล้วผ่านมา 3 เดือนแล้ว ผิวบริเวณที่ดูดมันมีสภาพไม่เรียบ ส่องกระจกแล้วเห็นเป็นแถบ ว่าแตกต่างจากผิวรอบ ๆ ด้วย ไม่สวยเลย

ใครจะดูก็คิดดี ๆ ละกัน

สำหรับผม มันก็คือขายความหวัง เป็น commercial ไม่มีอะไรดีไปกว่าการออกกำลังและกินอย่างถูกต้อง

ย้อนประวัติศาสตร์การลดความอ้วนกันสิ เข็มขัดสั่นเส้นละหมื่น ตอนเด็ก ๆ จำได้ป่ะ สบู่ฟอกแล้วผอมจำได้ป่ะ
ชุดแม่เหล็กชุดเป็นหมื่น จำได้ป่ะ เนี่ย ก็หากินกะความหวังและความขี้เกียจของคน มีมานานแสนนาน ก็ยังทำได้อยู่
เรื่อย ๆ เนอะ


ส่วนอาหารเสริม ยาลด โน่นนี่ในเฟสบุค ในเนต อิสตาแกม ไม่ได้กินเงินผมหรอก เอายาเบื่อมาใส่ซองขายเปล่าก็ไม่รู้

บรั๊ยยยย