ตอนแรกผมรอดูหนังเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ เพราะว่าภาพข่าวต่างๆ ที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าเป็นหนังที่เราจะเห็นบทบาทที่แตกต่างออกไปของ Nicole Kidman เพราะเธอเล่นรับบทตำรวจสาวที่ทั้งแก่ทั้งโทรม และยังเป็นบทบาทที่ไม่เคยเห็น Nicole เล่นแนว Crime Thriller ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าผมไม่รู้เลยว่าหนังเข้าฉายเมื่อไหร่ มาได้ดูอีกทีก็เมื่อเร็วๆ นี้ตอนที่ผมนั่งเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศกับแม่ แล้วเห็นหนังเรื่องนี้อยู่ในลิสท์
เรื่องราวของเอริน เบลล์ (นิโคล คิดแมน) ตำรวจที่สมัยสาวๆ ได้แฝงตัวไปเป็นสายอยู่ในแก๊งปล้นธนาคาร แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นจนเกิดโศกนาฏกรรมตามมา ทำให้เธอยังคงโกรธและแค้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อหัวหน้าแก๊งปล้นได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในหลายปีต่อมา เธอจึงหาทางสืบให้ถึงตัวโดยผ่านสมาชิกของแก๊งที่เหลืออยู่
หนังแบ่งเรื่องราวเป็น 3 องก์ องก์แรกคือเรื่องของ เอริน ณ ปัจจุบัน ที่ตามสืบสาวเรื่องราวแก๊งค้ายาที่ตัวเองเคยแฝงตัวเข้าไป องก์ที่สองจะเป็นเรื่องราวปัญหาครอบครัวของ เอริน และลูกสาววัยรุ่นใจแตกของเธอ และองก์ที่สามคือ เรื่องราวในอดีตตอนที่ เอริน แฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊ง ซึ่งทั้ง 3 องก์ จะตัดสลับไปมาโดยไม่ได้เรียงร้อยเรื่องราว คนดูอาจจะต้องใช้ความตั้งใจในการติดตามเรื่องราวของหนังพอสมควร
จริงๆ ส่วนตัวผมว่าประเด็นเรื่องราวของหนังมันค่อนข้างน่าสนใจนะ เพราะหนังพยายามทำให้เรื่องราวมันลึกลับสมกับที่เป็นหนังสืบสวน แต่ด้วยการที่หนังมันตัดสลับกันถี่มาก และแต่ละการเชื่อมต่อมันก็ค่อนข้างทำให้คนดูสับสน จนกลายเป็นความน่าเบื่อที่เข้ามาแทนที่ความน่าตื่นเต้น เพราะตัวหนังเองยาวประมาณ 2 ชั่วโมง แต่หนังตัดสลับไปมาตลอดทั้งเรื่อง แต่กลับไม่ได้มีจุคพีค และจุดที่ทุกอย่างมันจะกลับมาขมวดรวมกันได้เลยแม่แต่ช่วงเดียว
ตัวละครหลักของเรื่องคือ เอริน แน่นอนว่า Nicole Kidman ต้องเป็นตัวเด่นที่สุด อันนี้ไม่เถียง และเธอก็ทำได้อย่างยอดเยี่ย ถ้าไม่ได้เธอ หนังเรื่องนี้เกมส์แน่นอน แต่กับตัวละครอื่นที่ควรจะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังสมบูรณ์ขึ้น กลับไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย นักแสดงที่มารับบทก็ไม่ใช่ไก่กา ทั้ง Sebastian Stan และ Toby Kebbell แต่กลายเป็นไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถือว่าเป็นหนังที่ไม่ต้องนับสองคนนี้เป็นนักแสดงร่วมในเรื่องยังได้
ตัวบทของหนังเองเรียกว่ามันสสามารถทำให้หนังดีมากกว่านี้ได้ แต่ก็งงเหมือนกันว่า ทำไมพอตัดต่อออกมาจนเป็นหนังเรื่องนี้แล้ว มันถึงดูไม่มีอะไรที่จะดึงดูดให้น่าจดจำเลย ทั้งๆ ที่ถ้าทำให้มันเจ๋งๆ เรื่องนี้อาจส่งให้ Nicole Kidman ได้รางวัลอะไรสักรางวัลติดมือด้วยซ้ำ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] Destroyer - หนังที่ดูเหมือนจะดึงดูด แต่กลับไม่ดึงดูด
ตอนแรกผมรอดูหนังเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ เพราะว่าภาพข่าวต่างๆ ที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าเป็นหนังที่เราจะเห็นบทบาทที่แตกต่างออกไปของ Nicole Kidman เพราะเธอเล่นรับบทตำรวจสาวที่ทั้งแก่ทั้งโทรม และยังเป็นบทบาทที่ไม่เคยเห็น Nicole เล่นแนว Crime Thriller ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าผมไม่รู้เลยว่าหนังเข้าฉายเมื่อไหร่ มาได้ดูอีกทีก็เมื่อเร็วๆ นี้ตอนที่ผมนั่งเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศกับแม่ แล้วเห็นหนังเรื่องนี้อยู่ในลิสท์
เรื่องราวของเอริน เบลล์ (นิโคล คิดแมน) ตำรวจที่สมัยสาวๆ ได้แฝงตัวไปเป็นสายอยู่ในแก๊งปล้นธนาคาร แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นจนเกิดโศกนาฏกรรมตามมา ทำให้เธอยังคงโกรธและแค้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อหัวหน้าแก๊งปล้นได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในหลายปีต่อมา เธอจึงหาทางสืบให้ถึงตัวโดยผ่านสมาชิกของแก๊งที่เหลืออยู่
หนังแบ่งเรื่องราวเป็น 3 องก์ องก์แรกคือเรื่องของ เอริน ณ ปัจจุบัน ที่ตามสืบสาวเรื่องราวแก๊งค้ายาที่ตัวเองเคยแฝงตัวเข้าไป องก์ที่สองจะเป็นเรื่องราวปัญหาครอบครัวของ เอริน และลูกสาววัยรุ่นใจแตกของเธอ และองก์ที่สามคือ เรื่องราวในอดีตตอนที่ เอริน แฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊ง ซึ่งทั้ง 3 องก์ จะตัดสลับไปมาโดยไม่ได้เรียงร้อยเรื่องราว คนดูอาจจะต้องใช้ความตั้งใจในการติดตามเรื่องราวของหนังพอสมควร
จริงๆ ส่วนตัวผมว่าประเด็นเรื่องราวของหนังมันค่อนข้างน่าสนใจนะ เพราะหนังพยายามทำให้เรื่องราวมันลึกลับสมกับที่เป็นหนังสืบสวน แต่ด้วยการที่หนังมันตัดสลับกันถี่มาก และแต่ละการเชื่อมต่อมันก็ค่อนข้างทำให้คนดูสับสน จนกลายเป็นความน่าเบื่อที่เข้ามาแทนที่ความน่าตื่นเต้น เพราะตัวหนังเองยาวประมาณ 2 ชั่วโมง แต่หนังตัดสลับไปมาตลอดทั้งเรื่อง แต่กลับไม่ได้มีจุคพีค และจุดที่ทุกอย่างมันจะกลับมาขมวดรวมกันได้เลยแม่แต่ช่วงเดียว
ตัวละครหลักของเรื่องคือ เอริน แน่นอนว่า Nicole Kidman ต้องเป็นตัวเด่นที่สุด อันนี้ไม่เถียง และเธอก็ทำได้อย่างยอดเยี่ย ถ้าไม่ได้เธอ หนังเรื่องนี้เกมส์แน่นอน แต่กับตัวละครอื่นที่ควรจะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังสมบูรณ์ขึ้น กลับไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย นักแสดงที่มารับบทก็ไม่ใช่ไก่กา ทั้ง Sebastian Stan และ Toby Kebbell แต่กลายเป็นไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถือว่าเป็นหนังที่ไม่ต้องนับสองคนนี้เป็นนักแสดงร่วมในเรื่องยังได้
ตัวบทของหนังเองเรียกว่ามันสสามารถทำให้หนังดีมากกว่านี้ได้ แต่ก็งงเหมือนกันว่า ทำไมพอตัดต่อออกมาจนเป็นหนังเรื่องนี้แล้ว มันถึงดูไม่มีอะไรที่จะดึงดูดให้น่าจดจำเลย ทั้งๆ ที่ถ้าทำให้มันเจ๋งๆ เรื่องนี้อาจส่งให้ Nicole Kidman ได้รางวัลอะไรสักรางวัลติดมือด้วยซ้ำ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้