บัตรเครดิตกสิกรไทย ยกเลิกมา 4 ปี มีใบเรียกเก็บหนี้มาสองครั้ง

กระทู้สนทนา
เรื่องมันยาว เกี่ยวกับบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย บันทึกไว้กันลืม
ข้อความนี้มิได้มีเจตนาเพื่อดิสเครดิตธนาคารกสิกรไทยแต่อย่างใดแต่เป็นการบันทึกไว้เพื่อเป็นหลักฐานที่จะไม่ยอมรับการเรียกเก็บเงินชำระหนี้
อันเนื่องมาจากบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยนั้นได้ถูกยกเลิกโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2559
บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยนี้ได้เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อเกือบๆสามสิบปีก่อน น่าจะ พ.ศ.2535 เป็นบัตรเครดิตที่ได้มาภายหลังจากการทำประกันชีวิตไว้กับ 
บ เมืองไทยประกันชีวิต เรียกว่า บัตรเครดิตเมืองไทยสมายล์คลับ วงเงิน 20,000 บาท ซึ่งก็นับว่ามาพอสมควรในยุคนั้นซึ่งบัตรเครดิตยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
การถือบัตรในช่วงนั้นก็ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง มีดอกเบี้ยบ้างแต่ก็มิได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดเพราะไม่มีหนี้สินติดค้าง 
ทางธนาคารกสิกรไทยได้แจ้งมาเพื่อเพิ่มลงเงิน จาก 20,000 บาท เป็น 50,000 บาทในภายหลัง และจากนั้นก็แจ้งมาว่าจะเพิ่มวงเงินเพิ่มให้อีก แต่ผมก็ปฏิเสธไปว่าไม่ต้องเพิ่มวงเงิน เพราะไม่ค่อยได้ใช้ ถึงจะใช้ก็ไม่_ด้มากมายนัก ไม่จำเป็นต้องเพิ่มก็ได้ วงเงินจึงคงท่ีเรื่อยมาที่ 50,000 บาท และก็ไม่เคยใช้บัตรเครดิตจนเกินวงเงินเลยสักคราว 

วันเวลาผ่านไป จนถึง พ.ศ.2558 ธนาคารส่งเอกสารแจ้งมาว่า บัตรเครดิตเมืองไทยสมายล์คลับได้ถูกยกเลิกเพื่อ upgrade เป็นบัตรอีกประเภทหนึ่ง หากต้องการใช้บัตรเครดิตใบนี้ต่อไปให้ส่งเอกสารแสดงที่มารายได้ สถานะทางการเงิน และ อื่นๆ แต่เนื่องจากบัตรเครดิตใบนี้ไม่ค่อยได้ใช้และไม่มีความจำเป็นต้องใช้ จึงไม่ได้ส่งไป เมื่อเป็นเช่นนั้น บัตรเครดิตจึงถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2559 
วันเวลาผ่านไปอีกปีกว่าๆ ประมาณ เดือนพฤษภาคม 2560 ธนาคารได้ส่งใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินเป็นเงิน 10,172.53 บาท ซึ่งมีการใช้จ่ายเป็นสกุลเงิน $USD จำนวน 286.80 $USD เมื่อได้รับใบแจ้งหนี้แล้วจึงได้โทรศัพท์ไปที่หมายเลย 02-888 8888 จนท รับสายแจ้งว่า ให้ส่งเอกสารปฏิเสธการชำระหนี้ ผมก็เลยไปติดต่อที่ธนาคารกสิกรไทยใกล้ๆบ้านเพื่อเขียนเอกสารดังกล่าว ในเอกสารนั้นยังได้เขียนเพิ่มเติมด้วยว่า บัตรเครดิตใบนี้ยกเลิกไปเมื่อสองปีก่อนแล้ว และปัจจุบันก็ไม่มีบัตรเพราะได้ทำลายทิ้งไปตั้งแต่เมื่อทราบว่าบัตรยกเลิกแล้ว การบันทึกเอกสารนี้เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2560 เวลา 11.18 น เจ้าหน้าที่ธนาคารที่ดูแลจัดการเอกสารให้ชื่อ นายรุ่งอนันต์ ซึ่งผมได้เขียนบันทึกไว้ในใบแจ้งหนี้นั้นแล้ว ด้วยความเชื่อมั่นว่า เมื่อบัตรเครดิตถูกยกเลิกไปแล้ว เขียนเอกสารแล้วคงน่าจะจบเรื่อง แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

วันเวลาผ่านไปอีกสองปี ได้รับใบแจ้งหนี้อีกครั้ง เมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายน เป็นจำนวนเงิน 9,380.58 บาท จากการใช้จ่ายเป็นเงินสกุล $USD เหมือนครั้งแรก แต่ด้วยความเชื่อมั่นว่าธนาคารกสิกรไทยคงจะมีระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดีพอสมควร น่าจะไม่เป็นปัญหา หรือหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นแต่จากเอกสารที่ส่งให้ทางธนาคารไว้แล้วนั้นทางธนาคารน่าจะจัดการได้ 

แต่ไม่ใช่อย่างนั้น การทวงถามการชำระยังมีมาต่อเนื่องทุกเดือนเป็นเอกสาร และ ข้อความ sms มาที่โทรศัพท์มือถือ หลายครั้ง ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นระบบอัตโนมัตติ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจจึงได้โทรศัพท์ไปที่ หมายเลข 02-888 8888 อีกครั้ง จนท รับสาย ให้ข้อมูลว่า บัตรถูกยกเลิกไปแล้ว และให้ผมทำเอกสารปฏิเสธการชำระหนี้ที่สาขาของธนาคารกสิกรไทย ผมจึงถามกลับไปว่า ในเมื่อผมไม่มีบัตร ไม่ได้ถือบัตร
ไม่ได้เป็นลูกค้า เป็นเจ้าหนี้ หรือลูกหนี้ธนาคาร แต่อย่างใด ผมจึงไม่ควรต้องรับผิดชอบใดๆต่อภาระหนี้สินที่ธนาคารเรียกเก็บมานี้พร้อมดอกเบี้ย จนท แจ้งว่า เป็นระเบียบปฏิบัติของทางธนาคาร ผมจึงแย้งว่า ก็ในเมื่อไม่ใช่ลูกค้า ไม่ใช่เจ้าหนี้ หรือลูกหนี้ธนาคาร มีแต่เพียงธนาคารมีข้อมูลส่วนบุคคลของผมฝ่ายเดียวเท่านั้น ดังนั้นผมจึงขอปฏิเสธการปฏิบัติตามระเบียบของธนาคารแต่ให้ธนาคารปฏิบัติตามระเบียบและเงื่อนไขท่ีผมกำหนดไว้ดังนี้

1 ส่งเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรโดยผู้มีอำนาจของธนาคารเพื่อยืนยันว่า
1.1 ธนาคารยกเลิกบัตรเครดิตของผมโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า (เอกสารแจ้ง upgrade และเปลี่ยนแปลงบัตรเมื่อ ปี 2558 ไม่ได้รับ แต่ได้รับเมื่อ วันที่ 9 กันยายน 2562 ซึ่งธนาคารส่งสำเนามาให้)
1.2 ธนาคารยืนยันว่านับตั้งแต่มีการยกเลิกบัตรเครดิต
โดยการดำเนินการของธนาคารนั้นผมไม่ต้องรับผิดชอบใดๆและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งที่เป็นเจ้าหนี้ ลูกหนี้ หรืออื่นๆ
1.3 ธนาคารต้องไม่ใช้ข้อมูลใดๆของผมเพื่อธุรกรรมใดๆ

2 เอกสารทั้งหมดดังกล่าวต้องส่งให้ผมทางไปรษณีย์ ens เท่านั้นก่อนวันที่ 10 กันยายน 2562 เท่านั้น

3 หากผมไม่ได้รับเอกสารภายในวันดังกล่าว ผมจำดำเนินการตามลำดับดังนี้
3.1 แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ว่าธนาคารใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผม จนก่อให้เกิดธุรกรรมทางการเงินที่ทุจริต

4 หลังจากที่ลงบันทึกประจำวันแล้ว ธนาคารมีเวลาอีก 7 วันเพื่อดำเนินการส่งเอกสารดังกล่าว ให้ครบ
เมื่อแรกแจ้งเงื่อนไขนี้ไปนั้น จนท call center 02-888 8888 แจ้งว่า เอกสารทั้งหมดจะใช้เวลาดำเนินการภายในระยะเวลา 90 วันตามขั้นตอนของทางธนาคารแต่ผมแจ้งกลับไปว่า ผมไม่สนใจขั้นตอนและระเบียบปฏิบัติของธนาคาร เพราะผมไม่ได้เป็นลูกค้า เป็นเจ้าหนี้ หรือลูกหนี้ของธนาคาร แต่ธนาคารมีความบกพร่องที่ ให้ข้อมูลของผมที่ธนาคารครอบครองอยู่นั้นเกิดธุรกรรมทางการเงินจนเป็นหนี้สินเรียกเก็บมาที่ผม ดังนั้น ผมจึงยืนยันว่า ธนาคารต้องทำตามเงื่อนไขที่ผมตั้งไว้เท่านั้น ไม่มีการต่อรองใดๆ และผมจะไม่มีการโทรศัพท์ติดต่อกลับมาที่หมายเลข 02-888 8888 อีกต่อไป และไม่รับโทรศัพท์ที่ติดต่อมาจากธนาคารกสิกรไทยทุกกรณี สามารถติดต่อได้ทาง e-mail และไปรษณีย์แบบ ems เท่านั้น
หลังจากได้รับเอกสารจากธนาคารกสิกรไทย ลงนามโดยผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ แล้ว ได้ความโดยสรุปว่า 

1 บัตรเครดิตใบนี้ยืนยันว่าได้ถูกยกเลิกเมื่อ 31 มกราคม 2559 แล้ว
2 ปัจจุบันผมไม่มีภาระหนี้สินกับทางธนาคารแล้ว
3 การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารไม่เคยเปิดเผยแก่บุคคลที่สาม และมีระเบียบปฏิบัติที่เป็นสากล 
แต่ธนาคารมิได้มีการยืนยันว่า ผมจะไม้ต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นจากบัตรใบนี้ในอนาคต 
เมื่อธนาคารกสิกรไทยไม่สามารถยืนยันว่า บัตรเครดิตที่ถูกยกเลิกแล้วเมื่อ 31 มกราคม 2559 นั้นจะไม่สร้างภาระหนี้สิน (ซึ่งไม่เกี่ยวกับผมแต่แจ้งทวงถามการชำระหนี้มาที่ผม) ดังนั้นผมจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เปนานหลักฐานเบื้องต้นก่อน 
และได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันในกรณีที่มีธุรกรรมทางการเงินจนเป็นภาระหนี้สินโดยที่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และจะปฏิเสธภาระหนี้สินและระเบียบปฏิบัติของทางธนาคารกสิกรไทยที่อาจเกิดขึ้นจากบัตรเครดิตดังกล่าวนั้น

ป ล รายละเอียดเอกสารอยู่ที่ข้อความใต้รูป
#บัตรเครดิตกสิกรไทยจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่