ต่อจาก รีวิวที่แล้วhttps://ppantip.com/topic/39253040
Day 3 (ซาปา - ฟานซิปัน - โทปาส อีโคลอดจ์) เมื่อรถมาถึงช่วงตี 4 ผู้โดยสารบางคนเริ่มตื่นลงมาแปรงฟันข้างๆ รถ แต่เรายังขอนอนต่อเอาแรงอีกสักหน่อย จนถึง 6 โมงเช้า เสียงผู้ประกาศปลุกๆ ทุกคนบนรถ คงประมาณว่า เราได้มาถึงซาปาแล้ว ขอเชิญทุกท่านลงจากรถ อะไรประมาณนั้น ทุกคนลากกระเป๋าเดินลงเนินมาประมาณ 300 เมตร

จะพบกับ Sapa Lake แสงแดดยามเช้ากำลังมาเยือน ฟันไม่ได้แปรง หน้าไม่ได้ล้าง งานนี้หน้าสดๆ ควักกล้องมาถ่ายรูปกัน ความประทับใจแรกที่ Sapa ราวกับอยู่แถวๆ ยุโรป  ...


ลากกระเป๋าผ่าน Lake มาสักพัก คงเป็นเวลา 6.30 - 7 โมง เจอร้านกาแฟตรงหน้า Lake เจ้าของร้านกำลังเปิดทำความสะอาดกัน เราส่งสัญญาณมือ เปิดร้านละยัง มี Coffee ไหม นางพยักหน้า ตอบรับ เราทั้งหมด 8 คนเดินตรงเข้าร้าน สั่งอาหาร + กาแฟ ยกเว้นเมนูกาแฟสด เพราะไม่มีไฟ เครื่องชงกาแฟยังทำงานไม่ได้ ราคากาแฟ อาหาร เป็นราคาปกติทั่วไป ไม่มีชาร์จ 

ขอเข้าห้องน้ำทำธุระ กัน ณ จุดนี้ ห้องน้ำก้อไม่มีไฟ ต้องอาศัยไฟฉายจากโทรศัพท์ ด้วยภาษาที่ต่างกันเลยไม่ได้คำตอบว่า เป็นนโยบายการจ่ายไฟ หรือว่า เพราะกระแสไฟฟ้าขัดข้อง จึงใช้ไฟฟ้าไม่ได้  พอเกือบจะ 8 โมง ไฟก้อมา พวกเราก้อเช็คบิลพอดี.. เดินไป Topas Ecolodge Sapa Office อยู่ไม่ไกลกันมากนัก เดิน 2-3 นาทีก้อถึง ฝากกระเป๋า แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเราจะไป Topas รอบ 13.15 น. (Sapa - Topas Ecolodge 7.30 am /1.15 pm ) แล้วรถตู้ที่จะมารับไป Cable Car Fansipan ก้อมาถึง แต่ต้องรอตั๋ว Cable Car เสียเวลาไปอีกครึ่งชั่วโมง (ถ้าเดินทางโดยรถขึ้น Cable Car Station ซื้อตั๋วเองดีกว่า --แต่-- ถ้านั่งรถไฟจาก Sun Plaza มา ซื้อแบบ Package จาก Agency จะได้ราคาถูกลงนิดหน่อย และไม่ต้องย้อนขึ้นไปซื้อตั๋ว Cable Car ชั้นบน ประหยัดเวลาด้วย) นั่งขึ้นเขามา 15 กิโล ประมาณ 20 นาที ก้อถึงด้านหน้า Sun Plaza เดินเข้ามาจะจุดถ่ายรูป มีร้านอาหาร ร้านขายของ  เข้ามาภายใน Station จะเป็นชั้นบนสุด เราต้องเดินลงบันไดเลือนไปอีก 2 Step เพื่อต่อแถวขึ้น Cable Car


1 Cable car จะจุคนได้เกือบ 30 คน เป็นเคเบิลที่ยาวที่สุดในอินโดจีน ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง วันนี้ท้องฟ้าสดใส เห็นวิวรอบข้าง สวยมาก ในเคเบิลทั้งหมดเป็นคนไทย มากัน 2 กรุ๊ป สนุกสนานเฮฮากันมาก สิงห์เหนือ กับเสือใต้ ปะทะกันที่ซาปา...555 
พอถึงอาคารด้านบน  เดินผ่านอาคารออกมาจะมีบันได 1 step ขึ้นไปยังจุดถ่ายรูป  จากนั้นมีบันไดขึ้นไปอีกประมาณ 30 ขั้น จะเป็น Step ที่ 2  มีวัดจีนตั้งอยู่ ต่อไปอีก 30 ขั้น(โดยประมาณ) จะเป็น Step ที่ 3  ที่นี้จะมีตู้ขายตั๋ว Tram ขึ้นไปยังจุดสูงที่สุดของฟานซิปัน แต่ถ้าใครไม่ขึ้น Tram ก้อสามารถเดินไต่บันไดไปเรื่อยๆ มีแยกซ้าย ไปไหว้องค์พระพุทธรูปและแยกขวาไปไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิม บันไดซี่แคบ ค่อนข้างชันอยู่เอาการ ใช้ความระมัดระวังในการเดิน  เราขึ้น Tram ไปด้านบน แล้วยังต่อไต่บันไดไปอีก 20-30 ขึ้นเพื่อไปจุดสูงสุดจริงๆ ณ จุดนี้ มีฝั่งซ้าย ขวา ให้เลือกแยกกันถ่ายรูป แดดค่อนข้างแรงมาก ถ้าไม่มีเมฆและฝน ถ่ายรูปสักพัก เดินลงบันได้อีกฝั่งมา จะมีร้านกาแฟ นั่งพักชมวิวและซื้อตั๋ว Tram ขาลง ได้ที่นี้ 

สรุป การขึ้น ฟานซิปัน 
ช่วงที่ 1 ซาปา ไป Cable Car Station เดินทางได้ 2 วิธี 1. นั่งรถ 15 กม. 15 นาที ขึ้นเขาไป Cable Car Station ราคาแล้วแต่จะตกลงกับรถ (กรุ๊ปเราเหมารถตู้ ไป-กลับ 8 คน ราคา 18 US)  วิธีที่ 2  นั่งรถไฟจาก Sun Plaza ขึ้นไป ใช้เวลา 5 นาที ราคาไปกลับ 100,000 ดง
ช่วงที่ 2 ขึ้น Cable Car  ตั๋ว 1 ใบใช้ไปและกลับ 700,000 ดง ** ห้ามหาย ต้องซื้อใหม่เท่านั้น** Station ด้านบน มีจุดถ่ายรูป ตรง Step ที่ 1 หรือ 2 ได้
ช่วงที่ 3 จุดสูงสุด ไปได้ 2 วิธี 1. สามารถเดินไต่บันไดมาเรื่อยๆ ใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ไม่เสียเงิน  หรือ วิธี 2 ยอมเสียเงินขึ้น Tram ขาขึ้น 70,000 ดง ขาลง 100,000 ดง ต้องซื้อเป็นขา ไม่มีตั๋วรวม
(Ms. Houng ให้ราคา 37  US มาในตาราง รวม 3 part ที่เป็นรถไฟ )

ขอกลับมาต่อวันหลังนะคะ