Sapa (ซาปา) ดินแดนแห่งหุบเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งนาขั้นบันได จริงๆแล้ว จขกท ก็ไปฮานอยบ่อยมาก แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวซาปาเลย จนกระทั่งเดือนที่แล้วในที่สุดก็ได้ไปเที่ยวใช้เวลาจัดทริปไม่กี่วันโดยได้รับการช่วยเหลือและแนะนำจากเพื่อนเวียดนามอีกครั้ง วันนี้ก็เลยอยากจะมารีวิว วิธีการไปซาปา ควรไปด้วยวิธีไหน แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะได้ราคาถูกที่สุดอีกทั้งยังปลอดภัย ที่สำคัญควรจะไปหาจุดถ่ายรูปที่จุดไหนบ้าง
        มาเริ่มกันเลย ส่วนมากแล้วเราก็จะตั้งต้นกันที่ เมืองฮานอย เมืองหลวงที่ผมไปกี่ครั้งก็มักจะเจอเรื่อง Surprise ตลอดเลย 555 ส่วนตัวแล้วจากสนามบินผมก็มักจะชอบนั่ง Taxi เข้าเมือง คือมันสะดวกดีและมันเร็วแต่จะแพงหน่อย โดยปกติถ้าเกิน 400,000 ด่องจะถือว่าแพงสำหรับรถ 4 ที่นั่ง โดยทริปที่ผมไป ผมบินจากโฮจิมินห์ไปรอบเย็นไปถึง ฮานอยตอนค่ำ และนั่ง Taxi ต่อไปสถานีรถไฟเลย เพื่อต่อรถไฟตู้นอนไปเมือง Lao Cai
        การจะไป Lao Cai หรือไปถึง Sapa เลย โดยปกติสามารถไปด้วย 2 วิธีหลักๆคือ
        1. ไปด้วยรถทัวร์ ซึ่งก็มีหลายแบบหลายราคา (180,000-450,000 ด่อง) ถ้าเลือกจะไปทางรถแล้วแนะนำให้นั่งไปให้ถึง Sapa เลยใช้เวลาราวๆ 5 ชั่วโมง
        2.  ไปด้วยรถไฟ ก็มีหลายแบบหลายเจ้าอีกเหมือนกัน ใช้เวลาราวๆ 8 ชั่วโมงไปถึง Lao Cai แล้วต่อรถอีก 1 ชมเข้า Sapa
ต่อไปก็ต้องมาดูว่าทำอย่างไรให้ไปถึง Sapa ให้ได้เวลาเหมาะที่สุด นั้นคือควรออกจาก ฮานอย ตอนมืดไปถึง Sapa เช้า ผมไม่แนะนำให้เดินทางตอนเช้า (มันเสียวันเที่ยว) ถ้างั้นควรไปรถทัวร์หรือรถไฟดี ผมแนะนำให้ไปด้วยรถไฟแล้วไปต่อรถเข้า Sapa อีกทีมันได้พักผ่อนเต็มที่กว่า
แล้วทำอย่างไรถึงจะได้ตั๋วรถไฟในราคาถูก (ที่เราทำได้ด้วยตัวเอง) ผมต้องขออธิบายก่อนว่ารถไฟที่ไป Lao Cai จะมีรถไฟอยู่ 3 ขบวนหลักๆคือ SP1, SP3 และ SP7 โดยในแต่ละขบวนก็จะมีโบกี้ที่ลากไปด้วยซึ่งมีทั้งของรัฐเองและเอกชน ทำให้ราคาแต่ละตู้แบบแตกต่างกันเพราะมันของคนละเจ้ากัน
โดยของที่ดำเนินการโดยรัฐนั้นจะถูกกว่าเกือบครึ่งๆ แต่ก็แลกกับบริการที่แตกต่างไปตามราคา รูปข้างล่างคือ ตู้รถไฟที่ดำเนินการโดยเอกชน มีให้เลือกเยอะมาก ราคาก็มีตั้งแต่ 635,000 – 840,000 ด่อง สำหรับตู้นอน 4 คน จริงๆแล้วมีวิธีที่ได้ถูกกว่านี้อีกแต่มันต้องต่อรองผ่าน Agency ซึ่งถ้าเราไม่ใช่คนเวียดนามหรือรู้จักส่วนตัวกับ Agency จะทำได้ยากมาก (ตอนผม ซึ้อได้ราคา 550,000 ($24) นั่ง Chapa Express Train เผอิญเพื่อนเวียดนามรู้จักกับ Agency)



        กลับมาที่เราจะหาตั๋วอย่างไรให้มันถูกๆ ถ้าเราไม่มี connection เราสามารถเข้าไปจองรถไฟเองได้ผ่านทางเว็ปรถไฟของรัฐบาล http://dsvn.vn/#/ พอเข้าไปจะเจอหน้านี้ ก็เข้าไป เลือกออกจากไหนแล้วจะไปไหน เลือกวัน


        ในที่นี้ผมสมมติวันให้เป็น 13 ตุลา พอเข้าไปก็จะเห็นว่ามี เมนูให้เลือกว่าเราจะจองที่นั่งรถขบวนไหนและที่นั่งแบบไหน


        ผมสมมติว่าจะไปกับขบวน SP7 รถออก 22:30 ไปถึง Lao Cai 6:33 ในตอนเช้าวันถัดไป ขบวนนี้มี 7 ตู้ มีทั้งตู้ที่เป็นเก้าอี้นั่ง (Soft seat) ตู้นอน 2 เตียง 4 เตียง และ6 เตียง
        - เก้าอี้นั่ง (ตู้ที่ 7) ที่นั่งละ 155,000 ด่อง
        - ตู้นอน 2 คนเตียงละ 565,000 ด่อง
        - ตู้นอน 4 คนเตียงละ 400,000 ด่อง
        - ตู้นอน 6 คนเตียงละ 200,000 -> 220,000 -> 265,000 ด่อง ตามลำดับชั้น
        จากนั้นก็สามารถจองรถจากสถานีไป Sapa ได้เพิ่มอีกคนละ 45,000 ด่อง จะเห็นว่าราคาค่อนข้างต่างจากของเอกชนเยอะ ใครที่มีกันหลายคนจองตู้ 6 เตียงก็ถือว่าคุ้ม เสร็จแล้วก็กดเลือกไปเรื่อยๆจ่ายตังรับใบจอง แค่นี้ก็เรียบร้อย ส่วนขากลับฮานอย ผมลองกลับรถทัวร์แบบ 28 ที่นั่งรอบบ่าย 4 โมงครึ่ง 350,000 ด่อง ถนนทางหลวงโอเค แต่แอบนั่งจนเมื่อยอยู่เหมือนกัน 5 ชั่วโมงได้
สำหรับที่พัก ส่วนตัวผมชอบนอนลึกเข้าไปทางเผ่า H’Mong ผมเลือกนอนแถวๆ Lao Chai ตามในแผนที่ ข้อดีคือมีเวลาถ่ายรูปและเดิน trekking มากกว่าการนอนในเมือง แต่ข้อเสียคือของกินอาจจะหายากหน่อยและไม่ค่อยสะอาด จุดถ่ายรูปจริงๆแล้วถ้าใครอยากได้มุมสวยๆแปลกๆ ผมแนะนำให้เดินหาตามลึกเข้าไปตามหมู่บ้าน ตามบ้านชาวเขา หรือตามทางขึ้นน้ำตกก็สวย



        ทางขึ้นน้ำตก ระหว่าง Lao Chai กับ Ta Van เดินผ่าน Ha Meo Home stay ขึ้นเขาไป จุดนี้ก็สวยอยู่ นักท่องเที่ยวโซนยุโรปมักจะขึ้นไปเที่ยวน้ำตกกัน แต่ก็เดินขึ้นเหนื่อยเอาการ ส่วนที่ติดตัวเมือง Sapa ก็มีเผ่า Cat Cat ด้านล่างเป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่ก็มีที่สวยๆเยอะอยู่


        ตอนแรกผมนึกว่าไปเที่ยว 3 วันก็น่าจะพอแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆยอมรับว่ายังไม่พอ ขาดอีกเยอะเลย 555 รอบหน้าจะเข้าไปในถึงเผ่า Tay เผ่านี้ภาษาพูดจะคล้ายๆภาษาไทยบ้านเรา ก็ขอจบ รีวิววิธีการซื้อตั๋วการเดินทางเพียงเท่านี้ Sapa แล้วเจอกันใหม่นะ
        ปล. ถ้าใครอยากไปดูทุ่งนาสีเหลืองอร่ามพร้อมเกี่ยวควรไปช่วงเดือนกันยายน นะครัช