...
คุณตุ๊เป็นผู้หญิงที่แปลก
เวลาฝนตก คุณตุ๊ต้องพกร่มถึงสองคัน
ทั้งสองคันใช้ประโยชน์ต่างกัน
คันหนึ่งเอาไว้กางกันเปียก
ส่วนอีกคันเอาไว้พยุงตัว
นักเรียนทุกคนรู้ว่า "ร่ม" เป็นหนึ่งในไอเท็มประจำกายคุณตุ๊ มิใช่เพราะคุณตุ๊กลัวฝนตกแบบคนอังกฤษ แต่เพราะคุณตุ๊ต้องใช้ร่มเป็นไม้เท้าค้ำยันตัวเวลาเคลื่อนที่
คุณตุ๊ไปไหน ร่มต้องไปด้วย
คุณตุ๊พกร่มไว้ตลอดเวลายิ่งกว่าบัตรประชาชน ภาพคุณตุ๊เดินกะย่องกะแย่งพลางใช้ร่มยันพื้นล้วนเป็นภาพที่พบเห็นได้ไม่ยากในรั้วโรงเรียน
ตั้งแต่เคารพธงชาติจรดเลิกเรียน ไม่มีใครเคยเห็นคุณตุ๊เดินไปมาโดยไม่ใช้ร่มเลยสักครั้ง
ว่ากันว่า เรือนร่างอันมโหฬารเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณตุ๊ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้คล่องแบบคนปกติ คุณตุ๊จึงต้องพึ่งร่มพยุงกายช่วยในการเคลื่อนที่
มีความเป็นไปได้ว่า ลำพังลำแข้งของคุณตุ๊คู่เดียว มิอาจแบกรับแรงที่กดเนื่องด้วยน้ำหนักตัวและเด็กแฝดห้าในอุดมคติไหว ถ้าไม่มี
ร่ม คุณตุ๊น่าจะ
ล้มอย่างแน่นอน
นักเรียนคนหนึ่งคิดเคยสงสัยว่า ทำไมคุณตุ๊ถึงไม่ยอมเปลี่ยนจากร่มไปใช้ไม้เท้าจริงๆสักที เพราะดูแล้วไม้เท้าน่าจะสะดวกกว่ามาก
บางที เราก็คิดเล่นๆว่า หากวันหนึ่งคุณตุ๊กำลังเดินกลับบ้าน แล้วระหว่างทางเกิดมีโจรวิ่งราวพุ่งมาฉกร่มคู่ใจไป
คุณตุ๊คงหงายหลังล้มตึงทันทีที่ร่มหาย และล้มอยู่ที่ริมถนนอย่างนั้นนานนับชั่วโมง จนกว่าจะมีพลเมืองดีสักคนสังเกตว่า แกไม่ได้กำลังนอนเล่นอยู่...
"ตุ๊พกร่ม หนึ่งคันไว้ ให้เชยชม
ตุ๊มีร่ม เดินสู้ลม ตุ๊อยู่ได้
ตุ๊ไร้ร่ม ล้มลงหลุม ลุกแทบตาย
ตุ๊ติดหล่ม ลุกไม่ได้ ช่วยตุ๊ที!"
...
โลกของคุณตุ๊หยุดหมุนไปตั้งแต่ปี ค.ศ.1998
ไม่รู้ทำไม ทุกคาบเรียน คุณตุ๊ชอบสอนเราราวกลับว่านี่ไม่ใช่ปี 2018 แต่เป็นปี 1998
ยุคที่อินเตอร์เน็ตยังไปไม่ทั่งถึง ยุคที่เด็กนักเรียนเกินครึ่งห้องใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น
คุณตุ๊ไม่ทราบว่า Microsoft Powerpoint 2016 สามารถทำแอนิเมชั่นสไลด์โชว์แบบอลังการได้
ดังนั้น เมื่อเราทำสไลด์ไปพรีเซนต์คุณตุ๊ จึงไม่แปลกคุณตุ๊จะหาว่าเราให้ผู้ปกครองทำให้ ทั้งที่พ่อกับแม่เราใช้ Powerpoint ไม่เป็น...
คุณตุ๊ไม่เล่นเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม
คุณตุ๊ไม่รู้จัก บอร์ดี้แสลม เดอะทอยส์ หรือ ยังโอม
วงดนตรีที่ทันสมัยที่สุดเพียงวงเดียวในโลกของคุณตุ๊คือวง
นูโว
และคุณตุ๊ยังเชื่อว่าเด็กไทยทุกวันนี้ยังคงกรี๊ดกร๊าดกับ ก้อง นูโว เหมือนกับที่ป้าของเราเคยปีนกำแพงโรงเรียนไปดูคอนเสิร์ตเมื่อกว่าสามสิบปีก่อน
อันที่จริง โลกของคุณตุ๊อาจจะหยุดหมุนก่อนปี 1998 ด้วยซ้ำ
คุณตุ๊เป็นมนุษย์คอนเซอร์เวทีฟ
ชอบอนุรักนิยม และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง
ดูเก่าขลังและทรงคุณค่าดี
บางที เราก็อยากเขียนจดหมายไปหาพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เพื่อดำเนินเรื่องเอาคุณตุ๊ไปจัดแสดงอยู่เหมือนกัน
คุณตุ๊มีลูกชาย
เราไม่เคยรู้ชื่อลูกชายคุณตุ๊
รู้แต่ว่าเขาเป็นวิศวกรโยธา
คุณตุ๊ก็เหมือนกับครูคนอื่นๆที่เป็นแม่คน ชอบพูดเรื่องลูกตัวเองในคาบเรียน
แต่จะต่างนิดหน่อย ตรงที่ ครูทั่วไปจะสอนหนังสือก่อนและเล่าเรื่องลูกชายตัวเองในห้านาทีสุดท้ายก่อนหมดคาบ
ส่วนคุณตุ๊ จะเล่าเรื่องลูกชายตัวเองก่อน และสอนหนังสือในห้านาทีสุดท้ายก่อนหมดคาบ
คุณตุ๊แทบไม่สอนอะไรเลย
ส่วนไอ้ที่สอนก็สอนไม่รู้เรื่อง
" ลูกครูเป็นวิศวกรโยธา" เป็นคำทักทายและคำอำลาในภาษาของคุณตุ๊
อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาเพียงอย่างเดียวที่เราได้เรียนเกือบตลอดทั้งคาบ
คุณตุ๊เป็นผู้เล่าเรื่องที่ดูภาคภูมิมาก ทุกครั้งที่เข้าเรียน นักเรียนทุกคนทำนายได้ในทันทีว่า เรากำลังจะได้ยินเรื่องราวความสำเร็จของไอ้หนุ่มวิศกรโยธาที่ทำให้แม่ภูมิใจ
ซึ่งแน่นอน ไม่มีข้อสอบปลายภาควิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีข้อไหน ถามถึงอาชีพของลูกชายคุณตุ๊
บางทีเราก็ดีใจ ที่คุณตุ๊ไม่ได้อยู่ข้างบ้านเรา
ไม่อย่างงั้น คุณตุ๊คงเล่าเรื่องลูกชายบ่อยมากพอที่จะทำให้แม่ดันเราให้เป็นวิศวกรโยธาเหมือนลูกเพื่อนบ้าน
หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง เราจะแอบย่องเข้าไปในบ้านคุณตุ๊กลางดึก และโขมยร่มทั้งบ้านมาฝังดิน เมื่อตื่นขึ้นมา คุณตุ๊จะหาร่มไม่เจอ และไม่สามารถลุกออกจากเตียงมาเม๊าท์มอยให้แม่เราฟังได้อีก...
...ตลอดกาล
...
เราล่วงรู้ความลับของคุณตุ๊โดยบังเอิญ
ครั้งหนึ่ง เราไปส่งรายงานที่ห้องพักครูการงาน (รายงานฉบับนั้น คุณตุ๊ตีกลับมาให้เราเขียนคำนำใหม่ เพราะคุณตุ๊ไม่เชื่อว่า เราเขียนคำนำเอง - สงสัยเราจะมีสกิลนักเขียนมากไปหน่อย)
ตอนนั้น คุณตุ๊ไม่ได้อยู่ในห้อง เราจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปสำรวจโต๊ะทำงานคุณตุ๊
โต๊ะของคุณตุ๊รกมาก ไม่แปลกใจเลยที่นักเรียนจะชอบบ่นว่าคุณตุ๊มักชอบทำงานนักเรียนหาย
โต๊ะของคุณตุ๊ปูทับด้วยแผ่นกระจกใส
ภายใต้แผ่นกระจกใส เราพบภายถ่ายอยู่หลายใบ ในตอนแรกเราไม่รู้ว่าบุคคลในภาพเป็นใครบ้าง
เราพิเคราะห์ดูทีละภาพ
ภาพแรกเป็นภาพขาวดำของเด็กทารกวัยแบเบาะ หน้าตาดูละม้ายคล้ายนักการเมืองยืมนาฬิกาเพื่อน
ภาพต่อมาเป็นภาพเด็กหญิงตัวน้อยยืนถือปิ่นโต เป็นภาพขาวดำเช่นกัน
ภาพต่อมาเริ่มมีสี แต่ดูเก่าครึ บุคคลในภาพเป็นกลุ่มแก๊งค์เด็กสาวร่างผอมบางในชุดนักเรียนกำลังยิ้มร่า
ภาพต่อมาเป็นภาพของหญิงในชุดข้าราชการ หุ่นดี เอวคอด หน้าตาสะสวยมีเค้าจีน เราคุ้นๆว่า ใบหน้าแบบนี้เป็นใบหน้าแบบเดียวกับหนึ่งในสมาชิกรูปใบก่อน
ภาพต่อมาเป็นภาพงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวกำลังรดน้ำสังข์ เจ้าบ่าวเป็นคนร่างท้วม ส่วนเจ้าสาวนั้นสวยสง่าพอดู
ภาพต่อมาเป็นภาพสามีภรรยาจากภาพก่อนกำลังอุ้มลูกตัวน้อย คนเป็นสามีดูผอมลง ส่วนภรรยาดูอวบขึ้น
ภาพต่อมาเป็นภาพสามีภรรยาคู่เดิมกับลูกวัยประถม คนเป็นสามีผอมลงจนแทบจำไม่ได้ ในขณะที่ภรรยาเริ่มจะดูมีขนาดตัวโป่งพองขึ้น
ภาพต่อมาเป็นภาพสามีภรรยาคู่เดิมกับลูกวัยมัธยม สามีผอมมาก ภรรยาเข้าข่ายอ้วน...
เรากรอกสายตาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปหยุดที่ภาพสุดท้าย
ภาพสามีภรรยาคู่เดิมงานรับปริญญา ลูกชายยิ้มหล่อ สวมชุดครุยสีแดงแปร๊ด ใบประกาศในมือเขียนว่า
"คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยลัยบางมด"
เราพินิจมองหน้าคนเป็นแม่ ก่อนจะเกือบกรีดร้องออกมาเสียงดัง
นั่นมันคุณตุ๊!!!
ผู้หญิงที่อยู่ในภาพทุกภาพคือคุณตุ๊!
ภาพถ่ายเหล่านี้คือ Timeline ชีวิตทั้งหมดของคุณตุ๊ตั้งแต่เป็นทารกจรดยันลูกรับปริญญา!
เราขยี้ตาตัวเองใหม่ ไม่น่าเชื่อว่าในวัยสาว คุณตุ๊จะสวยและเอวบางมาก และก็ไม่น่าเชื่อเช่นกันว่า ปัจจุบันผู้หญิงผอมคนนั้น อ้วนตุ๊ต๊ะเสียจนไม่เหลือเค้าเดิม
คงจริงอย่างที่พระท่านว่า
สังขารเป็นสิ่งไม่ยั่งยืน
ตอนนั้น เราอยากจะขอครูชีวะฯให้เปลี่ยนชิ้นงาน จากที่ให้ทำแผนภาพวิวัฒนาการของวาฬเดินดิน (Walking Whale) เป็นวิวัฒนาการของคุณตุ๊แทน
เพราะคุณตุ๊ดูจะมีวิวัฒนาการที่น่าสนใจกว่าวาฬมาก
วาฬใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างทางกายภาพเป็นหลายล้านปี ในขณะที่คุณตุ๊ใช้เพียงครึ่งศตวรรษ!
(บรรพบุรษของวาฬเป็นสัตว์บกสี่ขาที่ชื่อว่า Ambulocetus หรือที่รู้จักกันในชื่อ walking Whale น่าแปลกที่มันวิวัฒนาการร่างกายจากสัตว์บกกลับมาเป็นสัตว์น้ำ
...ถ้าใครสนใจ เดี๋ยว ม.4 ก็ได้เรียนเองแหละ)
พอลองสังเกตดูดีๆ ก็พบว่า ความตุ๊ต๊ะของคุณตุ๊นั้น แปรผันตรงกับอายุ
ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ คุณตุ๊ก็จะตัวใหญ่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
เขียนเป็นความสัมพันธ์ได้ว่า :
Mass (Kg.) Time (Year)
หากสมมุติฐานของเราถูกจริง เมื่อเวลาผ่านไปหกสิบห้าล้านปี คุณตุ๊จะนำพาหายนะครั้งใหญ่มาสู่โลก ไม่ใช่เพียงเพราะคุณตุ๊จะทะลุจากเมืองไทยไปประเทศเปรู แต่ทั้งเมืองไทย ประเทศเปรู และสสารทุกอย่างบนโลกจะไม่เหลืออีกต่อไป
ในวันนั้น คุณตุ๊จะมีมวลมหาศาลและถูกบีบอัดสู่จุดศูนย์กลางตัวเองจนมีขนาดเล็กกว่านิวเคลียสและกลายสภาพเป็นหลุมดำ ดูดร่มคู่ใจกับโลกทั้งใบหายวับไปในห้วงมิต
(เล่าเรื่องขำขัน) - ว่าด้วยครูวิชาการงานฯของเรา
เหอะๆ ไม่น่าถาม ไม่ว่าเด็กรุ่นไหนก็ต้องมีเรียนการงานทั้งนั้นแหละ
เราเรียนการงาน
ถามว่าชอบไหม?
ถ้าตอบแบบผิดศีลข้อสี่คงตอบว่าชอบ
เมื่อปีก่อน เราเคยเรียนกับครูการงานท่านหนึ่ง เป็นผู้หญิงวัยห้าสิบ บุคคลิกเหมือนคุณป้าระแวกบ้าน
เราเรียกครูท่านนี้ว่า คุณตุ๊
'ตุ๊' มิใช่ชื่อเล่นของครูท่านนี้ แต่เพราะเรือนร่างอันตุ๊ต๊ะ นักเรียนจึงนิยมเรียกว่า 'ครูตุ๊' ก่อนจะเพี้ยนเป็น 'คุณตุ๊' ในที่สุด
คุณตุ๊อ้วน
ไม่ใช่อ้วนธรรมดา อ้วนมาก
อ้วนที่สุดในห้องพักครูการงานอาชีพและเทคโนโลยี
หากคุณตุ๊ก่อคดีชนแล้วหนี ตำรวจจะสามารถระบุตัวคนร้ายได้ทันที หลังพยานให้ปากคำว่า คนขับเป็นคุณป้าท้องแก่ที่มีเด็กแฝดห้าอยู่ในท้อง
เราเดาว่า คุณตุ๊น่าจะมีน้ำหนักเป็นสองเท่าของอายุ
หากคุณตุ๊สิบคนกระโดดพร้อมกัน พื้นที่ตรงนั้นน่าจะยุบเป็นหลุมขนาดใหญ่
หากคุณตุ๊ร้อยคนกระโดดพร้อมกัน พื้นที่ตรงนั้นจะเกิดเป็นอุโมงค์ยักษ์
ทะลุจากโรงเรียนไปถึงทวีปอเมริกาใต้ แล้วประเทศไทยก็จะจมอยู่ใต้บาดาล เนื่องจากน้ำทะเลจากชายฝั่งเปรูทะลักข้ามซีกโลกผ่านอุโมงค์ของคุณตุ๊เข้ามา
ดีเหมือนกัน
ประเทศลาวจะได้มีทะเลใช้สักที
น่าเสียดายที่คุณตุ๊ไม่สามารถอยู่เห็นภาพทะเลที่ชายฝั่งลาวได้ เพราะคุณตุ๊น่าจะมีความถ่วงจำเพาะมากกว่าน้ำ และจมหายไปในมหาสมุทรอันดำมืดแล้ว
...
คุณตุ๊เป็นผู้หญิงที่แปลก
เวลาฝนตก คุณตุ๊ต้องพกร่มถึงสองคัน
ทั้งสองคันใช้ประโยชน์ต่างกัน
คันหนึ่งเอาไว้กางกันเปียก
ส่วนอีกคันเอาไว้พยุงตัว
นักเรียนทุกคนรู้ว่า "ร่ม" เป็นหนึ่งในไอเท็มประจำกายคุณตุ๊ มิใช่เพราะคุณตุ๊กลัวฝนตกแบบคนอังกฤษ แต่เพราะคุณตุ๊ต้องใช้ร่มเป็นไม้เท้าค้ำยันตัวเวลาเคลื่อนที่
คุณตุ๊ไปไหน ร่มต้องไปด้วย
คุณตุ๊พกร่มไว้ตลอดเวลายิ่งกว่าบัตรประชาชน ภาพคุณตุ๊เดินกะย่องกะแย่งพลางใช้ร่มยันพื้นล้วนเป็นภาพที่พบเห็นได้ไม่ยากในรั้วโรงเรียน
ตั้งแต่เคารพธงชาติจรดเลิกเรียน ไม่มีใครเคยเห็นคุณตุ๊เดินไปมาโดยไม่ใช้ร่มเลยสักครั้ง
ว่ากันว่า เรือนร่างอันมโหฬารเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณตุ๊ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้คล่องแบบคนปกติ คุณตุ๊จึงต้องพึ่งร่มพยุงกายช่วยในการเคลื่อนที่
มีความเป็นไปได้ว่า ลำพังลำแข้งของคุณตุ๊คู่เดียว มิอาจแบกรับแรงที่กดเนื่องด้วยน้ำหนักตัวและเด็กแฝดห้าในอุดมคติไหว ถ้าไม่มีร่ม คุณตุ๊น่าจะล้มอย่างแน่นอน
นักเรียนคนหนึ่งคิดเคยสงสัยว่า ทำไมคุณตุ๊ถึงไม่ยอมเปลี่ยนจากร่มไปใช้ไม้เท้าจริงๆสักที เพราะดูแล้วไม้เท้าน่าจะสะดวกกว่ามาก
บางที เราก็คิดเล่นๆว่า หากวันหนึ่งคุณตุ๊กำลังเดินกลับบ้าน แล้วระหว่างทางเกิดมีโจรวิ่งราวพุ่งมาฉกร่มคู่ใจไป
คุณตุ๊คงหงายหลังล้มตึงทันทีที่ร่มหาย และล้มอยู่ที่ริมถนนอย่างนั้นนานนับชั่วโมง จนกว่าจะมีพลเมืองดีสักคนสังเกตว่า แกไม่ได้กำลังนอนเล่นอยู่...
"ตุ๊พกร่ม หนึ่งคันไว้ ให้เชยชม
ตุ๊มีร่ม เดินสู้ลม ตุ๊อยู่ได้
ตุ๊ไร้ร่ม ล้มลงหลุม ลุกแทบตาย
ตุ๊ติดหล่ม ลุกไม่ได้ ช่วยตุ๊ที!"
...
โลกของคุณตุ๊หยุดหมุนไปตั้งแต่ปี ค.ศ.1998
ไม่รู้ทำไม ทุกคาบเรียน คุณตุ๊ชอบสอนเราราวกลับว่านี่ไม่ใช่ปี 2018 แต่เป็นปี 1998
ยุคที่อินเตอร์เน็ตยังไปไม่ทั่งถึง ยุคที่เด็กนักเรียนเกินครึ่งห้องใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น
คุณตุ๊ไม่ทราบว่า Microsoft Powerpoint 2016 สามารถทำแอนิเมชั่นสไลด์โชว์แบบอลังการได้
ดังนั้น เมื่อเราทำสไลด์ไปพรีเซนต์คุณตุ๊ จึงไม่แปลกคุณตุ๊จะหาว่าเราให้ผู้ปกครองทำให้ ทั้งที่พ่อกับแม่เราใช้ Powerpoint ไม่เป็น...
คุณตุ๊ไม่เล่นเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม
คุณตุ๊ไม่รู้จัก บอร์ดี้แสลม เดอะทอยส์ หรือ ยังโอม
วงดนตรีที่ทันสมัยที่สุดเพียงวงเดียวในโลกของคุณตุ๊คือวงนูโว
และคุณตุ๊ยังเชื่อว่าเด็กไทยทุกวันนี้ยังคงกรี๊ดกร๊าดกับ ก้อง นูโว เหมือนกับที่ป้าของเราเคยปีนกำแพงโรงเรียนไปดูคอนเสิร์ตเมื่อกว่าสามสิบปีก่อน
อันที่จริง โลกของคุณตุ๊อาจจะหยุดหมุนก่อนปี 1998 ด้วยซ้ำ
คุณตุ๊เป็นมนุษย์คอนเซอร์เวทีฟ
ชอบอนุรักนิยม และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง
ดูเก่าขลังและทรงคุณค่าดี
บางที เราก็อยากเขียนจดหมายไปหาพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เพื่อดำเนินเรื่องเอาคุณตุ๊ไปจัดแสดงอยู่เหมือนกัน
คุณตุ๊มีลูกชาย
เราไม่เคยรู้ชื่อลูกชายคุณตุ๊
รู้แต่ว่าเขาเป็นวิศวกรโยธา
คุณตุ๊ก็เหมือนกับครูคนอื่นๆที่เป็นแม่คน ชอบพูดเรื่องลูกตัวเองในคาบเรียน
แต่จะต่างนิดหน่อย ตรงที่ ครูทั่วไปจะสอนหนังสือก่อนและเล่าเรื่องลูกชายตัวเองในห้านาทีสุดท้ายก่อนหมดคาบ
ส่วนคุณตุ๊ จะเล่าเรื่องลูกชายตัวเองก่อน และสอนหนังสือในห้านาทีสุดท้ายก่อนหมดคาบ
คุณตุ๊แทบไม่สอนอะไรเลย
ส่วนไอ้ที่สอนก็สอนไม่รู้เรื่อง
" ลูกครูเป็นวิศวกรโยธา" เป็นคำทักทายและคำอำลาในภาษาของคุณตุ๊
อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาเพียงอย่างเดียวที่เราได้เรียนเกือบตลอดทั้งคาบ
คุณตุ๊เป็นผู้เล่าเรื่องที่ดูภาคภูมิมาก ทุกครั้งที่เข้าเรียน นักเรียนทุกคนทำนายได้ในทันทีว่า เรากำลังจะได้ยินเรื่องราวความสำเร็จของไอ้หนุ่มวิศกรโยธาที่ทำให้แม่ภูมิใจ
ซึ่งแน่นอน ไม่มีข้อสอบปลายภาควิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีข้อไหน ถามถึงอาชีพของลูกชายคุณตุ๊
บางทีเราก็ดีใจ ที่คุณตุ๊ไม่ได้อยู่ข้างบ้านเรา
ไม่อย่างงั้น คุณตุ๊คงเล่าเรื่องลูกชายบ่อยมากพอที่จะทำให้แม่ดันเราให้เป็นวิศวกรโยธาเหมือนลูกเพื่อนบ้าน
หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง เราจะแอบย่องเข้าไปในบ้านคุณตุ๊กลางดึก และโขมยร่มทั้งบ้านมาฝังดิน เมื่อตื่นขึ้นมา คุณตุ๊จะหาร่มไม่เจอ และไม่สามารถลุกออกจากเตียงมาเม๊าท์มอยให้แม่เราฟังได้อีก...
...ตลอดกาล
...
เราล่วงรู้ความลับของคุณตุ๊โดยบังเอิญ
ครั้งหนึ่ง เราไปส่งรายงานที่ห้องพักครูการงาน (รายงานฉบับนั้น คุณตุ๊ตีกลับมาให้เราเขียนคำนำใหม่ เพราะคุณตุ๊ไม่เชื่อว่า เราเขียนคำนำเอง - สงสัยเราจะมีสกิลนักเขียนมากไปหน่อย)
ตอนนั้น คุณตุ๊ไม่ได้อยู่ในห้อง เราจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปสำรวจโต๊ะทำงานคุณตุ๊
โต๊ะของคุณตุ๊รกมาก ไม่แปลกใจเลยที่นักเรียนจะชอบบ่นว่าคุณตุ๊มักชอบทำงานนักเรียนหาย
โต๊ะของคุณตุ๊ปูทับด้วยแผ่นกระจกใส
ภายใต้แผ่นกระจกใส เราพบภายถ่ายอยู่หลายใบ ในตอนแรกเราไม่รู้ว่าบุคคลในภาพเป็นใครบ้าง
เราพิเคราะห์ดูทีละภาพ
ภาพแรกเป็นภาพขาวดำของเด็กทารกวัยแบเบาะ หน้าตาดูละม้ายคล้ายนักการเมืองยืมนาฬิกาเพื่อน
ภาพต่อมาเป็นภาพเด็กหญิงตัวน้อยยืนถือปิ่นโต เป็นภาพขาวดำเช่นกัน
ภาพต่อมาเริ่มมีสี แต่ดูเก่าครึ บุคคลในภาพเป็นกลุ่มแก๊งค์เด็กสาวร่างผอมบางในชุดนักเรียนกำลังยิ้มร่า
ภาพต่อมาเป็นภาพของหญิงในชุดข้าราชการ หุ่นดี เอวคอด หน้าตาสะสวยมีเค้าจีน เราคุ้นๆว่า ใบหน้าแบบนี้เป็นใบหน้าแบบเดียวกับหนึ่งในสมาชิกรูปใบก่อน
ภาพต่อมาเป็นภาพงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวกำลังรดน้ำสังข์ เจ้าบ่าวเป็นคนร่างท้วม ส่วนเจ้าสาวนั้นสวยสง่าพอดู
ภาพต่อมาเป็นภาพสามีภรรยาจากภาพก่อนกำลังอุ้มลูกตัวน้อย คนเป็นสามีดูผอมลง ส่วนภรรยาดูอวบขึ้น
ภาพต่อมาเป็นภาพสามีภรรยาคู่เดิมกับลูกวัยประถม คนเป็นสามีผอมลงจนแทบจำไม่ได้ ในขณะที่ภรรยาเริ่มจะดูมีขนาดตัวโป่งพองขึ้น
ภาพต่อมาเป็นภาพสามีภรรยาคู่เดิมกับลูกวัยมัธยม สามีผอมมาก ภรรยาเข้าข่ายอ้วน...
ภาพสามีภรรยาคู่เดิมงานรับปริญญา ลูกชายยิ้มหล่อ สวมชุดครุยสีแดงแปร๊ด ใบประกาศในมือเขียนว่า "คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยลัยบางมด"
เราพินิจมองหน้าคนเป็นแม่ ก่อนจะเกือบกรีดร้องออกมาเสียงดัง
นั่นมันคุณตุ๊!!!
ผู้หญิงที่อยู่ในภาพทุกภาพคือคุณตุ๊!
ภาพถ่ายเหล่านี้คือ Timeline ชีวิตทั้งหมดของคุณตุ๊ตั้งแต่เป็นทารกจรดยันลูกรับปริญญา!
เราขยี้ตาตัวเองใหม่ ไม่น่าเชื่อว่าในวัยสาว คุณตุ๊จะสวยและเอวบางมาก และก็ไม่น่าเชื่อเช่นกันว่า ปัจจุบันผู้หญิงผอมคนนั้น อ้วนตุ๊ต๊ะเสียจนไม่เหลือเค้าเดิม
คงจริงอย่างที่พระท่านว่า
สังขารเป็นสิ่งไม่ยั่งยืน
ตอนนั้น เราอยากจะขอครูชีวะฯให้เปลี่ยนชิ้นงาน จากที่ให้ทำแผนภาพวิวัฒนาการของวาฬเดินดิน (Walking Whale) เป็นวิวัฒนาการของคุณตุ๊แทน
เพราะคุณตุ๊ดูจะมีวิวัฒนาการที่น่าสนใจกว่าวาฬมาก
วาฬใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างทางกายภาพเป็นหลายล้านปี ในขณะที่คุณตุ๊ใช้เพียงครึ่งศตวรรษ!
(บรรพบุรษของวาฬเป็นสัตว์บกสี่ขาที่ชื่อว่า Ambulocetus หรือที่รู้จักกันในชื่อ walking Whale น่าแปลกที่มันวิวัฒนาการร่างกายจากสัตว์บกกลับมาเป็นสัตว์น้ำ
...ถ้าใครสนใจ เดี๋ยว ม.4 ก็ได้เรียนเองแหละ)
พอลองสังเกตดูดีๆ ก็พบว่า ความตุ๊ต๊ะของคุณตุ๊นั้น แปรผันตรงกับอายุ
ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ คุณตุ๊ก็จะตัวใหญ่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
เขียนเป็นความสัมพันธ์ได้ว่า : Mass (Kg.) Time (Year)
หากสมมุติฐานของเราถูกจริง เมื่อเวลาผ่านไปหกสิบห้าล้านปี คุณตุ๊จะนำพาหายนะครั้งใหญ่มาสู่โลก ไม่ใช่เพียงเพราะคุณตุ๊จะทะลุจากเมืองไทยไปประเทศเปรู แต่ทั้งเมืองไทย ประเทศเปรู และสสารทุกอย่างบนโลกจะไม่เหลืออีกต่อไป
ในวันนั้น คุณตุ๊จะมีมวลมหาศาลและถูกบีบอัดสู่จุดศูนย์กลางตัวเองจนมีขนาดเล็กกว่านิวเคลียสและกลายสภาพเป็นหลุมดำ ดูดร่มคู่ใจกับโลกทั้งใบหายวับไปในห้วงมิต
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B3 )