ช่วงนี้ได้ยินชื่อแบรด พิตต์ บ่อย
เพราะหนังของพี่แกกำลังเข้าฉายอยู่ในโรงถึง 2 เรื่อง
ทั้งหนังถวิลหาอดีตยุคปลาย 60 ที่มีฉากหน้าเป็นหนังฆาตรกรรมตลกร้ายอย่าง
Once upon a time in Hollywood
กับหนังไซไฟสอดไส้ที่หน้าหนังลุ้นระทึกเว่อร์อย่าง Ad Astra
ซึ่งพี่แบรดก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกทั้งสองเรื่อง
ดูเหมือนยิ่งแก่จะยิ่งเก๋าขึ้นเรื่อยๆ แฮะ
.
พูดถึงแบรด พิตต์
ก็ชวนให้นึกถึงหนังโฆษณาญี่ปุ่นตัวนึง เป็นโฆษณาเก่ามากของ softbank
ที่พี่แบรดเคยไปเล่นให้เมื่อปี 2008 โน่น ซึ่งกำกับโดยผู้กำกับขวัญใจเด็กแนวอย่างเวส
แอนเดอร์สัน (ใครบอกก็ไม่รู้ว่าขวัญใจเด็กแนว นี่จำเค้ามาพูดอีกที)
เจ้าพ่อหนังสมมาตรที่หลายคนน่าจะชอบกัน อย่างเรื่อง คู่กิ๊กซ่าสารพัดแสบ
คุณจิ้งจอกจอมแสบ ทริปประสานใจ กัปตันบวมกับทีมป่วนสมุทร ฯลฯ
.
พอเรียกชื่อไทย หลายคนคงจะอึ้งไปเลยว่าหนังเวส แอนเดอร์สัน หรือวะนั่น 555
.

กลับมาที่โฆษณาของ Wes Anderson x softbank x Brad Pitt อีกที
ความเจ๋งของโฆษณาชิ้นนี้คือวิธีถ่ายลองเทค 30 วินาทีแบบรวดเดียวจบ
มันคืองานที่ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อคารวะผลงานคลาสสิกอย่าง Les Vacances de
M.Hulot ของผู้กำกับและนักแสดงรุ่นเก๋าชาวฝรั่งเศสที่โลกรู้จักดี
(แต่เราไม่เคยดูหนังเค้าเลย) อย่าง Jacques Tati (อ่านว่า ฌากส์ ตาติ นะ
ไม่ใช่แจคเควส นี่อ่านแจคเควสมาตั้งนาน)
.
ลิ้งค์โฆษณา
https://www.youtube.com/watch?v=g0u0oEUcasU
.
อ้อ บางคนอาจสงสัยตอนจบว่าโอโตซัง (หมาสีขาว มาสคอตของ SoftBank) ออกมาพูดอะไร โอโตซังบอกว่า “เฮ้ย แบรด ไปทำงานได้แล้วโว้ย!”
.

ก็เอามาฝากเพราะอยากเขียนถึงพี่แบรดตามกระแสบ้าง
ส่วนหนังของพี่แกที่กำลังเข้าฉายอยู่ทั้งสองเรื่องตอนนี้ จะบอกว่าไปดูเถอะ
หนังดีทั้งคู่
.
เราพูดว่าหนังดี แต่สนุกไหมนี่อีกเรื่อง
ก็มันไม่ใช่หนังสำหรับทุกคนน่ะ
.

สำหรับเรื่องแรกกับผู้กำกับเควนติน ลองทำการบ้านก่อนดูไปหน่อยก็ดี
คือไม่ต้องละเอียดมากก็ได้
แต่อย่างน้อยก็ควรจะรู้ไว้ก่อนไปดูหน่อยว่าเหตุฆาตรกรรมชารอน เทต ช่วงปี
1969 มันมีที่มาที่ไปอย่างไร แมนสันแฟมิลี่เป็นใคร
ช่วงปีนั้นมีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างในฮอลลีวูด คร่าวๆ ก็ยังดี
แล้วคุณจะดูหนังเรื่องนี้สนุกขึ้นมาก (แต่ก็คงไม่มากเท่าคนเมกันอยู่ดี)
.

ส่วน Ad Astra แม้หน้าหนังจะดูเร้าใจลุ้นระทึกขนาดไหน
แต่เอาเข้าจริงมันคือหนังไซไฟอวกาศที่สอดไส้ปรัชญาไว้ภายใน
ซึ่งตัวหนังจริงๆ มันน่าจะชวนง่วงมากสำหรับบางคน
ใครที่คาดหวังความบันเทิงแบบ Gravity หรือ Interstella อะไรเทือกนี้
ขอบอกว่าคุณน่าจะผิดหวัง แต่ถ้าอยากรู้ว่าหนังไซไฟอวกาศดีๆ
แบบที่ชาวโลกเค้าว่ากันมันดียังไงก็ไปดูเถอะ
คือหนังบางเรื่องมันก็สนุกขึ้นตามช่วงอายุนะ ดูตอนนี้คุณอาจจะไม่สนุก
แต่อีก 10 ปีข้างหน้ากลับมาดูอีก คุณจะเห็นความแตกต่าง
.

คือความแก่นี่มันก็ดีนะ ทำให้ดูหนังได้ลึกขึ้น
คุณจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองชัดขึ้น
แบบเดียวกับปรัชญาที่ว่าด้วยการค้นพบตัวตนใน Ad Astra นั่นแล
.
แต่ถ้าคุณกลัวว่าจะต้องไปนอนตากแอร์ งั้นเราขอแนะนำคุณแบบนี้
.
รู้จัก 2001: space odyssey ของคูบริกไหม นั่นแหละ คือถ้าคุณชอบ 2001 ละก็ ไซไฟปรัชญาใน Ad Astra คือหนังสำหรับคุณ
.
และถ้าคุณเป็นคนที่ผ่าน 2001 มาได้แบบไม่หลับเลยสักงีบ
โลกนี้ก็ไม่มีหนังเรื่องไหนทำอะไรคุณได้อีกแล้วละ
.
เราขอฝากเพจด้วยได้ไหม
https://www.facebook.com/jarernlajae/