พอดีเราอยากมาแชร์ความทรมานของการปวดสะโพกจากโรค piriformis syndrome และวิธีรักษา เล่าที่มาก่อน เราเคยผ่าตัดกระดูกสันหลังคด(Scoliosis)ตอนวัยรุ่น หลังผ่าก็ตรงดี สูงขึ้นอีก3-4เซนต์ เวลาผ่านมานานจนเข้าวัยกลางคน หลังของเรา จากตอนวัยรุ่นมันเหมือนค่อยๆกลับมาคดอีกตรงปลายๆที่ไม่ได้มีเหล็กดามล๊อคอยู่ ได้ไงไม่รู้ แล้วเราก็เตี้ยลง
กลับไปถามหมอที่ผ่า หมอก็ช่วยไม่ได้ละ
คือหลังๆเรามีอาการนั่งนานๆแล้วปวดสะโพกกับหลังส่วนล่าง ชาลงขา เดินก็ปวด ถือของหนักก็ปวด ยืนก็ปวด มันเริ่มเป็นตอนเราท้องลูกที่มีน้ำหนักเยอะ และบวกกะนั่งนาน และอายุเยอะขึ้น
เราเป็นโรคนี้มานาแต่เป็นหนักๆมาเกือบปี ตอนแรกก็ไม่รู้เป็นอะไร ไปหาหมอกระดูกมาสองคน หมอเวชศาสตร์กีฬาอีกสองคน ตรวจแล้วพบว่าไม่ใช่หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท(คนที่เป็นหมอนรองเขาจะเจ็บตลอดเวลา นอนทำท่าบิดไปมาอย่างเราไม่ได้เลย) ของเราหมอบอกว่าเป็นอาการจากกล้ามเนื้อ แต่ของเราเป็นหลายส่วน ทั้งด้านหน้าด้านหลังและข้อต่อสะโพก เพราะเรากระดูกคดและขาสั้นยาวไม่เท่ากัน ต่างกันเซนต์นึงซึ่งก็มีผลให้กล้ามเนื้อข้างที่ไม่สมดุลทำงานหนักกว่า หมอแนะให้เสริมส้นข้างนึงซึ่งเราก็แอบขี้เกียจเพราะเปลี่ยนรองเท้าบ่อยไง ทีนี้มันก็ปวดๆหายๆหลายจุด
แต่อาการที่ทำให้รุนแรงจนบางทีชาจนเดินไม่ได้คือ piriformis syndrome หรือกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ที่รู้เพราะนักกายภาพบอก แล้วพอทำท่ายืดแก้แบบนักกายภาพแนะนำ แป๊บนึงก็กลับมาเดินได้อีกก็เลยรู้ที่มาละ(แต่ความปวดไม่หายนะ) มีปวดตลอด มากรึน้อยสลับกัน มากๆเข้าก็ชา ปวดลึกๆข้างในจนต้องนอนอย่างเดียวเดี๋ยวนั้น คือบ่อยมากที่เดินๆอยู่แล้วเดินต่อไม่ได้เลย เรานั่งรถนานแทบไม่ได้ นั่งรถติดแป๊บเดียวคือปวดมาก ปวดแบบจะตาย ขับรถไม่ต้องพูดเราเลิกขับไปแล้ว ไปทำงานเดินขึ้นบันไดหน่อยก็ปวด ยืนทำกับข้าว15นาทีก็ปวดจนไม่ไหว ถือของช้อปปิ้งหน่อยก็ปวด เราเลยต้องนอนอยู่บ้านซะส่วนมาก ชีวิตจิตตกจนแทบเป็นโรคซึมเศร้า ก็ไม่เข้าใจว่าการปวดกล้ามเนื้อทำไมทำลายชีวิตจิตใจได้ถึงขนาดนี้
หลังๆเราเห็นคนเป็นโรคปวดสะโพกเยอะ เราเลยขอแนะนำการรักษาที่คิดว่าได้ผลนะ เพราะเราคิดว่าเราทำมาแทบทุกอย่างเหมือนกัน เรานวดแผนไทยบ่อย แต่จุดที่ปวดpiriformisมันลึก หมอนวดส่วนมากกดไม่ถึง (แต่หมอนวดช่วยยืดเหยียดให้ก็ช่วยบรรเทาได้บ้าง ดีกว่าไม่ทำไรเลย) แต่สิ่งที่ได้ผลจริงๆคือ
1.ฝังเข็มแบบ Dry needle ทำเกือบทุกอาทิตย์ (ฝังไฟฟ้าแบบจีนก็พอได้สำหรับกล้ามเนื้อรอบๆ แต่สำหรับจุดที่ลึกสุดมันไม่ค่อยช่วย มันตื้นไป) ทีนี้พอมันลึก เวลาฝังก็จะโดนมั่งไม่โดนมั่งขึ้นกะฝีมือหมออะนะ ทำเสร็จระบมไปสองวันแต่สบายสะโพกอย่างบอกไม่ถูก แล้วไม่กี่วันก็กลับมาเป็นใหม่ก็ไปฝังใหม่
ตอนเราท้องปวดมากแต่เรากินยาไม่ได้ หมอก็ฝังแบบdryให้นี่แหละช่วยได้มากเลย
2.เลเซอร์ ตัวที่น่าจะดีสุดในปัจจุบันในไทยคือ Hilterapia Laser มันจะแรงกว่าตัวอื่น แต่มีไม่กี่ที่ ขอไม่บอกนะว่าที่ไหนมีไปหากันเอาเองแค่นี้ก็แย่งจนเราไม่ได้หาละ😅ดังนั้นการจองคิวจึงแสนยากเย็น เลเซอร์ตัวอ่อนกว่าลงมาก็พอช่วยได้ ราคาก็ย่อมเยากว่า ยิงปุ๊ปหายปวดทันที เลเซอร์คือดีงาม ตอนทำไม่เจ็บปวดรึรู้สึกไรเลย แต่หายได้ไม่กี่วันก็อาจเป็นใหม่ได้อีกนะ
3.อัลตราซาวด์ ถ้ากล้ามเนื้อขดเป็นก้อนๆใหญ่ๆ ช่วยได้ให้นิ่มลง แต่ไม่ค่อยลดความปวดที่อยู่ลึกๆ เราทำบ่อยจนเราซื้อเครื่องอัลตราซาวด์พกพา(สั่งในเน็ตจากนอก) มาใช้ที่บ้านละ คุ้มกว่า แต่รู้สึกได้ว่ามันไม่แรงเท่าที่รพ นะ
4.ยืดเหยียด และบริหาร มีท่าบริหารตามยูทูปมากมาย เราชอบท่าเอาขาข้างนึงงอพับบนเก้าอี้ขาอีกข้างอยู่พื้นแล้วก้ม เราว่ามันแก้ได้ดี ท่าอื่นๆก็ได้อยู่ ลองเลือกท่าที่ชอบดู ทำทุกวัน หรือทุกเวลาที่ปวด
5.การนั่ง สังเกตว่าตอนที่นั่งแล้วเจ็บปวดสุดคือนั่งแล้วเข่าอยู่สูงกว่าสะโพก พวกนั่งรถสปอร์ตเตี้ยๆหรือที่เบียดๆไรงี้ นั่งเครื่องบินeconomy งี้ ดังนั้นพยายามนั่งให้สะโพกต่ำลงมา ปรับเก้าอี้หรือเอาอะไรเสริมก้นตอนนั่งเก้าอี้ ก็พอช่วยได้ดีเลย เก้าอี้ทำงานก็เปลี่ยนเป็น ergonomic chair ซะ แต่ต้องทำไปลุกไปนะ เก้าอี้ดียังไงนั่งติดๆกันก็ปวดอยู่ดี
6.เข็มขัดประคองสะโพก เราใส่รัดไว้แทบตลอดเวลายกเว้นนอน ถึงแม้จะน่ารำคาญ อันนี้ก็ช่วยเยอะเหมือนกัน หาใส่ให้พอดีไซส์ แนะนำของมิซูโน่เราซื้อตามร้านขายอุปกรณ์สุขภาพที่ญี่ปุ่น มีขนาดกว้างประมาณคืบนึงไม่เทอะทะ รัดตรงสะโพกบน เหมาะกะใส่ไปข้างนอกซ่อนไว้คนไม่ค่อยเห็น แต่ถ้าปวดมากให้ใช้แบบชิ้นใหญ่ที่มีโครงเหล็ก ควรให้หมอปรับตำแหน่งเหล็กดามให้เว้าพอดีกะหลังเราด้วย
7.ยา ส่วนตัวเรากิน Norgesic เอาไม่อยู่ Arcoxia ก็ง่วงไป แถมทั้งคู่ยังทำลายตับกินนานไม่ได้ เราเลยกิน Myonal วันละสามเม็ดหมอบอกกินนานได้ นี่กินๆหยุดๆมาจะปีละ ก็คิดว่าเดี๋ยวจะต้องไปตรวจค่าตับด้วยว่าโอไหม วันไหนถ้าปวดจนรู้สึกชาเส้นก็จะกินควบคู่ celebrex และถ้าปวดแบบจะตายไม่ไหวแล้วก็จะกิน Ultracet ซึ่งแรงและดีมาก หายปวดทันใจแต่ผลข้างเคียงคือทรมานจะอ้วก แล้วยาตัวนี้ก็หาซื้อไม่ได้ง่ายๆต้องให้แพทย์จ่าย
8.การสร้างกล้ามเนื้อเป็นสิ่งสำคัญ แต่ตอนเจ็บมากๆ หมอให้พักให้หายก่อน กิจกรรมบางอย่างเช่นวิ่ง เราต้องหยุดไปเลย หมอบอกการวิ่งทำลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการบาดเจ็บ เต้นซุมบ้าที่เราโปรดนี่ต้องเลิกด้วย เพราะกระแทกโดนสะโพกโดนตรง พออาการดีขึ้นหมอให้บริหารเสริมกล้ามเนื้อ บอดี้เวทไรงี้ /ทำท่าพับขาแบบหอย /หรือท่าบริหารก้นสะโพกทั้งหลายตามเน็ต ท่า bridge ไรงี้ทำได้เลย /เดินในน้ำ เตะขาในน้ำก็ควรทำบ่อยๆ /ถ้าอยากวิ่งให้ใช้เครื่อง elliptical แทน
อาหารในการสร้างกล้ามเนื้อก็สำคัญ ก็ต้องกินอกไก่บ่อยๆหน่อย พักผ่อนตามเวลาก็สำคัญ ของเรานอนดึกมาก อาหารก็ชั่วกินแต่ขนม เลยเป็นปัญหากล้ามเนื้อไม่ค่อยขึ้น พอไม่มีกล้ามเนื้อมาช่วยซัพพอร์ตมันก็ยิ่งปวดไง อ้อ ที่สำคัญ ยิ่งอ้วนยิ่งปวดนะ ลดอ้วนได้ภาระกล้ามเนื้อก็เบาลง ช่วงไหนฟิต ผอมๆนี่ปวดน้อยลงเยอะอะ
9.ติดเทปประคองกล้ามเนื้อก้น ก็ช่วยอยู่นะ เดินเบาขึ้น เราให้นักกายภาพติดให้ เสียครั้งละ200 แต่อาบน้ำได้สามวันก็เริ่มหลุด
10.ฉีดยา มีสองแบบ
-ฉีดที่กระดูกข้อต่อ สำหรับคนที่ปวดแถวกระดูกข้อต่อ ไม่ใช่กล้ามเนื้อ(หมอวินิจฉัยว่าเราอาจเป็นสองโรคร่วมกันคือทั้งกล้ามเนื้อและอักเสบรอบข้อต่อกระดูก เพียงแต่อาการpiriformis syndrome สำหรับเรามันทรมานรุนแรงสุดตอนนั้น) อันนี้เรื่องใหญ่ต้องใช้mriหรืออะไรสักอย่างเพื่อเป็นวิถีนำร่องให้ฉีดยาได้ตรงจุด ดังนั้นเข็มนึงหลายหมื่นอยู่
-ฉีดสเตียรอยด์เข้ากล้ามเนื้อ หมอบอกคนนึงฉีดได้ไม่เกิน3ครั้ง เพราะเนื้อจะฝ่อ ส่วนตัวเคยฉีดที่ข้อมือแล้ว ก็เจ็บๆแสบๆแต่ฉีดเสร็จแล้วหายปวดเลย ราคาไม่เท่าไหร่
การรักษา1-9 ทั้งหมดนี้ ควรทำร่วมกัน ทำอย่างใดอย่างนึงมักไม่หาย และต้องทำรัวๆต่อเนื่องด้วย เช่น ไปกายภาพหาหมอ2-3ครั้งต่อวีคจนหาย ไม่ใช่ทำทีนึง พอดีขึ้นแล้วหยุด ไม่ได้ ต้องย้ำๆๆ คือต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก เราจ่ายค่าเลเซอร์ทีละพันแปด ฝังเข็มอีกสองพัน นวดกายภาพอีกพันกว่า อัลตราซาวด์ไม่แพงเท่าไหร่ ไม่กี่ร้อยแต่พอรวมๆกันก็เยอะอะ เดือนนึงก็ประมาณสองหมื่นได้ แถมไม่ใช่ทุกที่ที่รักษาได้ แต่ละที่ที่ดีคือคิวยาวเหยียด
เรารอคิวจนหมอบอกเราว่า ไม่ต้องรอหมอนะ โรคนี้ต้องย้ำๆ ดังนั้นหมอเขียนใบส่งตัวให้ เจอที่ไหนหมอไหนคลีนิกไหนช่วยได้ให้ไปเลย ถ้าเลเซอร์ตัวใหม่ซึ่งแรงกว่าไม่มี ตัวเก่าก็พอถูไถ แต่แค่หาที่ๆมีเลเซอร์เราว่าก็ยากแล้วล่ะ
อ้อ สำหรับคนที่ยังไม่มีโอกาสไปหาหมอ วิธีที่เราว่าเวิร์คและง่ายสุดคือใช้ลูกบอลเล็กนวด(ลองไปดูในคลิปนะที่เขาให้นั่งทับtrigger point บนลูกกอล์ฟรึลูกเทนนิสอะ)กับ roller foam แบบแหลมลึกๆ เอามานั่งทับจุดนะ มันจะเจ็บจี๊ดๆ เสร็จแล้วก็ประคบด้วยถุงร้อนซะ ช่วยคลายได้เยอะเลย
ลองดูนะคะ เดี๋ยวนี้คลิปดีๆในยูทูปช่วยคนเจ็บป่วยได้มากเลย บางคนแค่บริหารตามก็หายแล้ว
ปัจจุบันเรายังไม่หายขาดนะคะ แต่รู้วิธีจะจัดการกับมันเวลาเป็นหนักๆแล้ว ก็ดีขึ้น หวังว่าที่แชร์คงมีประโยชน์สำหรับคนปวดสะโพกนะคะ
ปวดสะโพกเรื้อรังร้าวลงขาและวิธีรักษา
กลับไปถามหมอที่ผ่า หมอก็ช่วยไม่ได้ละ
คือหลังๆเรามีอาการนั่งนานๆแล้วปวดสะโพกกับหลังส่วนล่าง ชาลงขา เดินก็ปวด ถือของหนักก็ปวด ยืนก็ปวด มันเริ่มเป็นตอนเราท้องลูกที่มีน้ำหนักเยอะ และบวกกะนั่งนาน และอายุเยอะขึ้น
เราเป็นโรคนี้มานาแต่เป็นหนักๆมาเกือบปี ตอนแรกก็ไม่รู้เป็นอะไร ไปหาหมอกระดูกมาสองคน หมอเวชศาสตร์กีฬาอีกสองคน ตรวจแล้วพบว่าไม่ใช่หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท(คนที่เป็นหมอนรองเขาจะเจ็บตลอดเวลา นอนทำท่าบิดไปมาอย่างเราไม่ได้เลย) ของเราหมอบอกว่าเป็นอาการจากกล้ามเนื้อ แต่ของเราเป็นหลายส่วน ทั้งด้านหน้าด้านหลังและข้อต่อสะโพก เพราะเรากระดูกคดและขาสั้นยาวไม่เท่ากัน ต่างกันเซนต์นึงซึ่งก็มีผลให้กล้ามเนื้อข้างที่ไม่สมดุลทำงานหนักกว่า หมอแนะให้เสริมส้นข้างนึงซึ่งเราก็แอบขี้เกียจเพราะเปลี่ยนรองเท้าบ่อยไง ทีนี้มันก็ปวดๆหายๆหลายจุด
แต่อาการที่ทำให้รุนแรงจนบางทีชาจนเดินไม่ได้คือ piriformis syndrome หรือกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ที่รู้เพราะนักกายภาพบอก แล้วพอทำท่ายืดแก้แบบนักกายภาพแนะนำ แป๊บนึงก็กลับมาเดินได้อีกก็เลยรู้ที่มาละ(แต่ความปวดไม่หายนะ) มีปวดตลอด มากรึน้อยสลับกัน มากๆเข้าก็ชา ปวดลึกๆข้างในจนต้องนอนอย่างเดียวเดี๋ยวนั้น คือบ่อยมากที่เดินๆอยู่แล้วเดินต่อไม่ได้เลย เรานั่งรถนานแทบไม่ได้ นั่งรถติดแป๊บเดียวคือปวดมาก ปวดแบบจะตาย ขับรถไม่ต้องพูดเราเลิกขับไปแล้ว ไปทำงานเดินขึ้นบันไดหน่อยก็ปวด ยืนทำกับข้าว15นาทีก็ปวดจนไม่ไหว ถือของช้อปปิ้งหน่อยก็ปวด เราเลยต้องนอนอยู่บ้านซะส่วนมาก ชีวิตจิตตกจนแทบเป็นโรคซึมเศร้า ก็ไม่เข้าใจว่าการปวดกล้ามเนื้อทำไมทำลายชีวิตจิตใจได้ถึงขนาดนี้
หลังๆเราเห็นคนเป็นโรคปวดสะโพกเยอะ เราเลยขอแนะนำการรักษาที่คิดว่าได้ผลนะ เพราะเราคิดว่าเราทำมาแทบทุกอย่างเหมือนกัน เรานวดแผนไทยบ่อย แต่จุดที่ปวดpiriformisมันลึก หมอนวดส่วนมากกดไม่ถึง (แต่หมอนวดช่วยยืดเหยียดให้ก็ช่วยบรรเทาได้บ้าง ดีกว่าไม่ทำไรเลย) แต่สิ่งที่ได้ผลจริงๆคือ
1.ฝังเข็มแบบ Dry needle ทำเกือบทุกอาทิตย์ (ฝังไฟฟ้าแบบจีนก็พอได้สำหรับกล้ามเนื้อรอบๆ แต่สำหรับจุดที่ลึกสุดมันไม่ค่อยช่วย มันตื้นไป) ทีนี้พอมันลึก เวลาฝังก็จะโดนมั่งไม่โดนมั่งขึ้นกะฝีมือหมออะนะ ทำเสร็จระบมไปสองวันแต่สบายสะโพกอย่างบอกไม่ถูก แล้วไม่กี่วันก็กลับมาเป็นใหม่ก็ไปฝังใหม่
ตอนเราท้องปวดมากแต่เรากินยาไม่ได้ หมอก็ฝังแบบdryให้นี่แหละช่วยได้มากเลย
2.เลเซอร์ ตัวที่น่าจะดีสุดในปัจจุบันในไทยคือ Hilterapia Laser มันจะแรงกว่าตัวอื่น แต่มีไม่กี่ที่ ขอไม่บอกนะว่าที่ไหนมีไปหากันเอาเองแค่นี้ก็แย่งจนเราไม่ได้หาละ😅ดังนั้นการจองคิวจึงแสนยากเย็น เลเซอร์ตัวอ่อนกว่าลงมาก็พอช่วยได้ ราคาก็ย่อมเยากว่า ยิงปุ๊ปหายปวดทันที เลเซอร์คือดีงาม ตอนทำไม่เจ็บปวดรึรู้สึกไรเลย แต่หายได้ไม่กี่วันก็อาจเป็นใหม่ได้อีกนะ
3.อัลตราซาวด์ ถ้ากล้ามเนื้อขดเป็นก้อนๆใหญ่ๆ ช่วยได้ให้นิ่มลง แต่ไม่ค่อยลดความปวดที่อยู่ลึกๆ เราทำบ่อยจนเราซื้อเครื่องอัลตราซาวด์พกพา(สั่งในเน็ตจากนอก) มาใช้ที่บ้านละ คุ้มกว่า แต่รู้สึกได้ว่ามันไม่แรงเท่าที่รพ นะ
4.ยืดเหยียด และบริหาร มีท่าบริหารตามยูทูปมากมาย เราชอบท่าเอาขาข้างนึงงอพับบนเก้าอี้ขาอีกข้างอยู่พื้นแล้วก้ม เราว่ามันแก้ได้ดี ท่าอื่นๆก็ได้อยู่ ลองเลือกท่าที่ชอบดู ทำทุกวัน หรือทุกเวลาที่ปวด
5.การนั่ง สังเกตว่าตอนที่นั่งแล้วเจ็บปวดสุดคือนั่งแล้วเข่าอยู่สูงกว่าสะโพก พวกนั่งรถสปอร์ตเตี้ยๆหรือที่เบียดๆไรงี้ นั่งเครื่องบินeconomy งี้ ดังนั้นพยายามนั่งให้สะโพกต่ำลงมา ปรับเก้าอี้หรือเอาอะไรเสริมก้นตอนนั่งเก้าอี้ ก็พอช่วยได้ดีเลย เก้าอี้ทำงานก็เปลี่ยนเป็น ergonomic chair ซะ แต่ต้องทำไปลุกไปนะ เก้าอี้ดียังไงนั่งติดๆกันก็ปวดอยู่ดี
6.เข็มขัดประคองสะโพก เราใส่รัดไว้แทบตลอดเวลายกเว้นนอน ถึงแม้จะน่ารำคาญ อันนี้ก็ช่วยเยอะเหมือนกัน หาใส่ให้พอดีไซส์ แนะนำของมิซูโน่เราซื้อตามร้านขายอุปกรณ์สุขภาพที่ญี่ปุ่น มีขนาดกว้างประมาณคืบนึงไม่เทอะทะ รัดตรงสะโพกบน เหมาะกะใส่ไปข้างนอกซ่อนไว้คนไม่ค่อยเห็น แต่ถ้าปวดมากให้ใช้แบบชิ้นใหญ่ที่มีโครงเหล็ก ควรให้หมอปรับตำแหน่งเหล็กดามให้เว้าพอดีกะหลังเราด้วย
7.ยา ส่วนตัวเรากิน Norgesic เอาไม่อยู่ Arcoxia ก็ง่วงไป แถมทั้งคู่ยังทำลายตับกินนานไม่ได้ เราเลยกิน Myonal วันละสามเม็ดหมอบอกกินนานได้ นี่กินๆหยุดๆมาจะปีละ ก็คิดว่าเดี๋ยวจะต้องไปตรวจค่าตับด้วยว่าโอไหม วันไหนถ้าปวดจนรู้สึกชาเส้นก็จะกินควบคู่ celebrex และถ้าปวดแบบจะตายไม่ไหวแล้วก็จะกิน Ultracet ซึ่งแรงและดีมาก หายปวดทันใจแต่ผลข้างเคียงคือทรมานจะอ้วก แล้วยาตัวนี้ก็หาซื้อไม่ได้ง่ายๆต้องให้แพทย์จ่าย
8.การสร้างกล้ามเนื้อเป็นสิ่งสำคัญ แต่ตอนเจ็บมากๆ หมอให้พักให้หายก่อน กิจกรรมบางอย่างเช่นวิ่ง เราต้องหยุดไปเลย หมอบอกการวิ่งทำลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการบาดเจ็บ เต้นซุมบ้าที่เราโปรดนี่ต้องเลิกด้วย เพราะกระแทกโดนสะโพกโดนตรง พออาการดีขึ้นหมอให้บริหารเสริมกล้ามเนื้อ บอดี้เวทไรงี้ /ทำท่าพับขาแบบหอย /หรือท่าบริหารก้นสะโพกทั้งหลายตามเน็ต ท่า bridge ไรงี้ทำได้เลย /เดินในน้ำ เตะขาในน้ำก็ควรทำบ่อยๆ /ถ้าอยากวิ่งให้ใช้เครื่อง elliptical แทน
อาหารในการสร้างกล้ามเนื้อก็สำคัญ ก็ต้องกินอกไก่บ่อยๆหน่อย พักผ่อนตามเวลาก็สำคัญ ของเรานอนดึกมาก อาหารก็ชั่วกินแต่ขนม เลยเป็นปัญหากล้ามเนื้อไม่ค่อยขึ้น พอไม่มีกล้ามเนื้อมาช่วยซัพพอร์ตมันก็ยิ่งปวดไง อ้อ ที่สำคัญ ยิ่งอ้วนยิ่งปวดนะ ลดอ้วนได้ภาระกล้ามเนื้อก็เบาลง ช่วงไหนฟิต ผอมๆนี่ปวดน้อยลงเยอะอะ
9.ติดเทปประคองกล้ามเนื้อก้น ก็ช่วยอยู่นะ เดินเบาขึ้น เราให้นักกายภาพติดให้ เสียครั้งละ200 แต่อาบน้ำได้สามวันก็เริ่มหลุด
10.ฉีดยา มีสองแบบ
-ฉีดที่กระดูกข้อต่อ สำหรับคนที่ปวดแถวกระดูกข้อต่อ ไม่ใช่กล้ามเนื้อ(หมอวินิจฉัยว่าเราอาจเป็นสองโรคร่วมกันคือทั้งกล้ามเนื้อและอักเสบรอบข้อต่อกระดูก เพียงแต่อาการpiriformis syndrome สำหรับเรามันทรมานรุนแรงสุดตอนนั้น) อันนี้เรื่องใหญ่ต้องใช้mriหรืออะไรสักอย่างเพื่อเป็นวิถีนำร่องให้ฉีดยาได้ตรงจุด ดังนั้นเข็มนึงหลายหมื่นอยู่
-ฉีดสเตียรอยด์เข้ากล้ามเนื้อ หมอบอกคนนึงฉีดได้ไม่เกิน3ครั้ง เพราะเนื้อจะฝ่อ ส่วนตัวเคยฉีดที่ข้อมือแล้ว ก็เจ็บๆแสบๆแต่ฉีดเสร็จแล้วหายปวดเลย ราคาไม่เท่าไหร่
การรักษา1-9 ทั้งหมดนี้ ควรทำร่วมกัน ทำอย่างใดอย่างนึงมักไม่หาย และต้องทำรัวๆต่อเนื่องด้วย เช่น ไปกายภาพหาหมอ2-3ครั้งต่อวีคจนหาย ไม่ใช่ทำทีนึง พอดีขึ้นแล้วหยุด ไม่ได้ ต้องย้ำๆๆ คือต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก เราจ่ายค่าเลเซอร์ทีละพันแปด ฝังเข็มอีกสองพัน นวดกายภาพอีกพันกว่า อัลตราซาวด์ไม่แพงเท่าไหร่ ไม่กี่ร้อยแต่พอรวมๆกันก็เยอะอะ เดือนนึงก็ประมาณสองหมื่นได้ แถมไม่ใช่ทุกที่ที่รักษาได้ แต่ละที่ที่ดีคือคิวยาวเหยียด
เรารอคิวจนหมอบอกเราว่า ไม่ต้องรอหมอนะ โรคนี้ต้องย้ำๆ ดังนั้นหมอเขียนใบส่งตัวให้ เจอที่ไหนหมอไหนคลีนิกไหนช่วยได้ให้ไปเลย ถ้าเลเซอร์ตัวใหม่ซึ่งแรงกว่าไม่มี ตัวเก่าก็พอถูไถ แต่แค่หาที่ๆมีเลเซอร์เราว่าก็ยากแล้วล่ะ
อ้อ สำหรับคนที่ยังไม่มีโอกาสไปหาหมอ วิธีที่เราว่าเวิร์คและง่ายสุดคือใช้ลูกบอลเล็กนวด(ลองไปดูในคลิปนะที่เขาให้นั่งทับtrigger point บนลูกกอล์ฟรึลูกเทนนิสอะ)กับ roller foam แบบแหลมลึกๆ เอามานั่งทับจุดนะ มันจะเจ็บจี๊ดๆ เสร็จแล้วก็ประคบด้วยถุงร้อนซะ ช่วยคลายได้เยอะเลย
ลองดูนะคะ เดี๋ยวนี้คลิปดีๆในยูทูปช่วยคนเจ็บป่วยได้มากเลย บางคนแค่บริหารตามก็หายแล้ว
ปัจจุบันเรายังไม่หายขาดนะคะ แต่รู้วิธีจะจัดการกับมันเวลาเป็นหนักๆแล้ว ก็ดีขึ้น หวังว่าที่แชร์คงมีประโยชน์สำหรับคนปวดสะโพกนะคะ