[CR] 🇫🇷 Caprice - คาปรีซ สุดยอดห้องอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงที่ดีที่สุดในเกาะฮ่องกง by ตามล่า Fine Dining

☺️ ไหนๆก็ไหนๆเเล้ว ช่วงนี้เราขอลงรูปห้องอาหารชั้นนำ สลับกันกับอาหารบ้านๆบ้างดีกว่า จะได้ไม่ซ้ำและไม่เบื่อกันเนอะ โดยเราเพิ่งหนีม็อบฮ่องกงไปทานกันมาเมื่อ 1 อาทิตย์ก่อนนี้เอง 🤣 แถมรูปที่ได้ยังสวย ถูกใจเราสุดๆ นั่นก็คือ ...


ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining

รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ อิอิ

🇫🇷 Caprice - คาปรีซ

⭐️⭐️⭐️ 3 Michelin Star - 3 ดาวมิชลิน

🏵 คาปรีซ สุดยอดห้องอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงที่ดีที่สุดในเกาะฮ่องกง และเป็นหนึ่งในห้องอาหารฝรั่งเศสเพียงไม่กี่แห่งในเอเชียที่ถูกยกย่องว่ามีศักยภาพเทียบเท่ากันกับห้องอาหารระดับสามดาวมิชลินในกรุงปารีส ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 4 ของโรงแรมห้าดาวอย่าง Four Seasons Hotel Hong Kong โดยลูกค้าสามารถเลือกมาทานเซ็ตเมนูราคาเป็นมิตรในช่วงกลางวันหรือสุดยอดเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านในยามค่ำคืน

🛎 การบริการที่นี่อยู่ในเกณฑ์ดีเลิศสมกับมาตรฐานห้องอาหารฝรั่งระดับ 3 ดาวมิชลิน เริ่มจากด้านหน้าร้านจะมีพนักงานคอยเปิดประตูต้อนรับลูกค้าที่จองล่วงหน้าเอาไว้เท่านั้น ภายมีขนาดกว้างขวางใหญ่โต ตกแต่งแบบ Chinoiserie มีการผสมผสานการตกแต่งอย่างหรูหราในแบบยูโรเปียนเเละแบบจีนเข้ากันอย่างลงตัว เดินเข้าไปจะพบกับทางเดินยาวเพื่อเข้าสู่ห้องทานอาหารหลัก มีเเชนเดอเลียร์คริสตัลขนาดยักษ์นำเข้าจากประเทศเชียเกียจำนวน 3 โคมห้อยลงมาจากเพดานเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง เก้าอี้ทุกตัวทำจากหนัง ตรงกลางเป็นครัวแบบเปิด มีเพียงม่านทำจากคริสตัล Swarovski นับพันชิ้นกั้นบางๆอยู่บริเวณเหนือเตาอบโดยลูกค้าสามารถมองเห็นทีมเชฟปรุงอาหารให้ดูกันได้ตลอดเวลา แต่ความสุดยอดที่แท้จริงของห้องอาหารนี้คือกระจกใสบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นวิวของอ่าวฮ่องกงสุดอลังการ หากใครแวะมาทานอาหารที่นี่อย่าลืมจองที่นั่งริมหน้าต่างเพื่อชมวิวสุดโรแมนติคกันด้วย❣️

👨🏻‍🍳 อาหารที่ถูกควบคุมโดย Chef de Cuisine คือ Guillaume Galliot เชฟผู้เคยมีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟที่โรงแรมที่หรูที่สุดในสิงคโปร์อย่าง The Raffles Hotel และเคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตหัวหน้าเชฟที่ The Tasting Room ห้องอาหารฝรั่งเศสชื่อดังระดับ 2 Michelin Star ในเมืองมาเก๊า ลูกค้าสามารถเลือกทานเป็น set menu 2 แบบของทางร้าน หรือจะเลือกสั่งเมนู a la carte ตามใจชอบก็ได้ สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ที่ทางร้านแนะนำและภูมิใจนำเสนอมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 จาน ประกอบไปด้วย Appetizer 2 อย่างคือ Alaskan King Crab หรือปูคิงแครบอลาสก้าทานคู่กับออสเชียตาร์คาเวียร์ อีกอย่างคือ Land and Sea Tartare ซึ่งเป็นทาทาร์ที่ใช้เนื้อวัวออสเตรเลียนวากิวผสมกันกับหอยนางรมเจลาโด้ทานกับคริสตัลคาเวียร์ที่ใส่มาแบบไม่อั้น ถัดมาคือ Soup ที่เป็นจานซิกเนเจอร์ที่เขฟคิดค้นเมื่ออยู่ที่ร้าน The Tasting Room คือ My Hot and Cold Onion Soup โดยเสิร์ฟซุปหัวหอมในแบบร้อนและเย็นในถ้วยเดียวกัน สำหรับ Main course มีสุดยอดเมนูซิกเนเจอร์ที่ทำให้เราต้องร้องว้าวทั้งคู่คือ Guilvinec Turbot ปลาเทอโบทานกับมะม่วงสุกเผาและซอสไข่หอยเม่น กับ Racan Pigeon from Maison Bellorr สุดยอดเมนูที่สร้างชื่อให้กับห้องอาหารคาปรีซจนได้รับรางวัลสามดาวมิชลิน ปิดท้ายด้วย Dessert รสเลิศอย่าง Banana Chocolate Millefeuille โดยเราเองก็ไม่พลาดที่จะสั่งมาชิมดูทั้งหมดทุกเมนูที่ว่ามา

♥️ อาหารที่เราได้ทานในวันนี้มีรสชาติดีเลิศชนิดที่ว่าสามารถนำไปเทียบได้กับห้องอาหาร 3 ดาวมิชลินชั้นนำหลายๆแห่งในยุโรป ทุกจานมีเทคนิคการปรุงที่ซับซ้อน มี wow factor สูงมาก ราคาอาจจะสูงสักหน่อยแต่เทียบไม่ได้เลยกับประสบการณ์และความทรงจำดีๆที่ได้มาแบบไม่รู้ลืม

📃 เมนูวันนี้ (ราคายังไม่รวมค่าบริการ 10%)

- Complimentary Bread and Butter

Brioche, baguette, chestnut sourdough and chili bread

- Amuse-Bouche

Tomato tart with tomato jelly and tomato sauce
Balik salmon with cauliflower cream and cavair
Peta bread filled with mousse of curry and chicken flavor
Tomato with tomato jelly with kiwi, fresh almond, burrata cheese

- Crabe Royal d’Alaska (S) (790 HKD)
Gelée de Crustacés et Hauître Gillardeau, Cavair Osciètre Prestige de « La Maison Kaviari »

Alaskan King Crab and Gillardeau Oyster, Crustacean Jelly, Osciètre Prestige Caviar From « La Maison Kaviari »

- Tartare Terre et Mer (S) (760 HKD)
Bœf Wagyu Australien et l’Huître Gillardeau, Cavair Kristal

Land and Sea Tartare
Australian Wagyu Beef and Gillardeau Oyster, Kristal Cavair

- Ma Soupe à l’Oignon (S) (310 HKD)
Contemporaine en Chaud - Froid

My Hot and Cold Onion Soup

- Turbot du Guilvinec (S) (710 HKD)
Mangue Fraîche, Sauce aux Oursins d’Hokkaido

Guilvinec Turbot, Roasted Fresh Mango and Hokkaido Sea Urchin Sauce

- Pigeon da Racan de la Maison Bellorr (S) (740 HKD)
Cuit dans une Cabosse de Cacao, Salsifi et Pomme Soufflée, Jus au Cocao

Racan Pigeon from Maison Bellorr, Cooked in Cocoa Pod, Salsify and Puffed Potatoes, Cocoa Jus

- Pre-Dessert

Lemon cream with almond biscuit and coconut mousse

- Millefeuille Chocolat Banane, Sorbet Cocao (S) (220 HKD)

Banana Chocolate Millefeuille, Cocoa Sorbet

- Soufflé Amande, Glace Vanille (220 HKD)

Almond Soufflé, Vanilla Ice Cream

- Petit Fours

Coconut and pineapple tarts
Cherry profiteroles with pistachio and tarragon cream
Apricot tart with almond
Lemon chocolate
Raspberry and pistachio chocolate
Lemon maleleine

👍 ห้องอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงที่ดีที่สุดในฮ่องกง บรรยากาศดีเลิศ ราคาสูงตามมาตรฐานห้องอาหารระดับ 3 ดาวมิชลิน

รสชาติ : 17/20
ราคา : 13/20
ความคุ้มค่า : 15/20
บรรยากาศ : 19/20
บริการ : 19/20

ความประทับใจโดยรวม : 17/20

🍽 Amuse-Bouche
Tomato tart with tomato jelly and tomato sauce
Balik salmon with cauliflower cream and cavair
Peta bread filled with mousse of curry and chicken flavor

เริ่มต้นด้วยอมูสบูชที่บอกเลยว่าอร่อยทุกอย่าง ให้ทานจากซ้ายไปขวาคือทาร์ตมะเขือเทศ แป้งบางกรอบ ด้านบนเป็นเจลลี่มะเขือเทศ มีน้ำซอสมะเขือเทศรสเปรี้ยวอยู่ข้างใน ทั้งอร่อยและช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้อย่างดี (17/20) ต่อมาตรงกลางคือบาลิกแซลมอน เป็นปลาแซลมอนที่รมควันด้วยความร้อนต่ำอย่างช้าๆ ทานกับครีมกะหล่ำดอกทอปด้านบนด้วยไข่ปลาคาเวียร์ แซลมอนนุ่ม ละมุนมากๆ ตัดเนื้อสัมผัสกับแผ่นกรอบด้านข้างเเละรสของคาเวียร์ อร่อยสุดๆ (17/20) สุดท้ายคือขนมปังกรอบพีต้า ข้างในสอดไส้แกงไก่สไตล์อินเดีย อันนี้ขึ้นอยู่กับคนทานว่าชอบอาหารอินเดียหรือไม่ เเต่มํสข้างในเนื้อเนียนมาก กลิ่นแกงออกชัดเจน มีกลิ่นไก่ลอยเด่นตามมาเเต่ไม่มีชิ้นหรือเนื้อไก่โผล่มาให้เห็นเลย ซับซ้อนมากๆ (15/20)

🍅 Amuse-Bouche

Tomato with tomato jelly with kiwi, fresh almond, burrata cheese

สำหรับอมูสบูชจานใหญ่ของคืนนี้เป็นมะเขือเทศที่ได้มาจากสวนที่บ้านของคุณเเม่เชฟเองในลุ่มแม่น้ำลัวร์ ประเทศฝรั่งเศส ด้านล่างเป็นแผ่นเจลลี่มะเขือเทศ ข้างบนเป็นมะเขือเทศหั่นแว่น มีผลกีวี่ อัลมอนต์ และตรงกลางสีขาวคือครีมชีสบูราต้า (15/20)

ตัวมะเขือเทศมีรสเปรี้ยว แต่กลมกล่อมมากกว่ามะเขือเทศที่เคยทาน ครีมชีสบูราต้าเนียนละมุนเข้ากันกับมะเขือเทศ ผลกีวี่และอัลมอนต์ทำให้เกิดรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เเตกต่างให้กับจาน โดยรวมถือว่าอร่อย และช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (15/20)

🦀 Crabe Royal d’Alaska (S) (790 HKD)
Gelée de Crustacés et Hauître Gillardeau, Cavair Osciètre Prestige de « La Maison Kaviari »

Alaskan King Crab and Gillardeau Oyster, Crustacean Jelly, Osciètre Prestige Caviar From « La Maison Kaviari »

อาหารเรียกน้ำย่อยจานแรกเป็นหนึ่งจานซิกเนเจอร์ประจำร้าน คือ “สลัดปูคิงแครบอลาสก้า” ราคาจานละ 3,500 บาทรวมค่าบริการ ด้านล่างเป็นเจลลี่ทำจากเปลือกกุ้งและเปลือกปู ด้านบนเป็นสลัดเนื้อปูผสมกับผักชีและใบอ่อนผักชี มีเนื้อหอยนางรมจีลาโดทานตัดเนื้อสัมผัสกัน ทีเด็ดคือคาเวียร์คุณภาพสูงระดับโลกอย่างออสเชียตราคาเวียร์ที่ใส่มาแบบไม่อั้มด้านบน ประดับด้วยทองคำเปลวทานได้ช่วยให้จานนี้สวยงามสมบูรณ์เป็นที่สุด (16/20)

🦀 Crabe Royal d’Alaska (S) (790 HKD)
Gelée de Crustacés et Hauître Gillardeau, Cavair Osciètre Prestige de « La Maison Kaviari »

Alaskan King Crab and Gillardeau Oyster, Crustacean Jelly, Osciètre Prestige Caviar From « La Maison Kaviari »

สลัดเนื้อปูผสมกับผักชีทำให้มีสีเขียว มีรสหวานนุ่มธรรมชาติอันเป็นจุดเด่นของปูยักษ์อลาสก้า เจลลี่ด้านล่างช่วยเพิ่มกลิ่นหอมของสัตว์กลุ่มครัสเตเชียนให้กับจาน หอยนางรมจีลาโดเคี้ยวหนึบตัดเนื้อสัมผัสกับกับเนื้อปูได้อย่างดี ทีเด็ดคือคาเวียร์ออสเชียตร้าที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในไข่ปลาคาเวียร์คุณภาพดีที่สุดในโลก อร่อยเลิศสมกับราคาจริงๆ (16/20)

🥩 Tartare Terre et Mer (S) (760 HKD)
Bœf Wagyu Australien et l’Huître Gillardeau, Cavair Kristal

Land and Sea Tartare
Australian Wagyu Beef and Gillardeau Oyster, Kristal Cavair

จานถัดมาเป็นจานซิกเนเจอร์เด็ดที่ทุกคนห้ามพลาดหากได้มาทานอาหารที่นี่ โดยเราขอยกให้เป็นหนึ่งในจานทาทาร์ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยทานมาคือ “ทาทาร์ดินเเละทะเล” โดยสาเหตุที่จานนี้ทีชื่อว่าดินและทะเลอันเนื่องมาจากวัตถุดิบหลักของทาทาร์จานนี้ทำมาจากเนื้อวัวออสเตรเลียนวากิวผสมกับหอยนางรมจีราโด สับจนนุ่มละเอียด พร้อมใส่ซอสบาบีคิวลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มมิติทางรสชาติ ทอปด้านบนด้วยคริสตัลคาเวียร์ปริมาณมากและทองคำเปลวทานได้ดูสวยงามเป็นอย่างมาก ที่กล่าวมาทั้งหมดขายในราคาจานละ 3,300 บาทรวมค่าบริการ 

เนื้อวัวออสเตรเลียนวากิวเนื้อสัมผัสนุ่ม ละมุนถึงขีดสุด ด้วยความที่เราต้องทานเนื้อสดๆ เชฟจึงใส่หอยนางรมจีลาโดรสไปเพื่อให้มีเนื้อสัมผัสบางส่วนเคี้ยวหนึบขึ้นมาเล็กน้อยและชูกลิ่นที่เเตกต่างเพิ่มมิติทั้งทางรสชาติและเนื้อสัมผัสให้กับจานเป็นอย่างมาก ซอสบาบีคิวที่ใส่มาช่วยให้จานนี้ทานได้ง่ายไม่เลี่ยนจนเกินไป สุดท้ายคือทีเด็ดอย่างคริสตัลคาเวียร์นำเข้าจากประเทศจีนที่มีราเค็มอูมามิเข้ากันกับเนื้อวัวได้เป็นอย่างดีที่สุด จานนี้คือหนึ่งในจานที่ดีที่สุดในมื้อนี้เเละเป็นจานทาทาร์รสเด็ดแบบหาใครเทียบชั้นได้ยาก คออาหารฝรั่งเศสห้ามพลาดเด็ดขาด (19/20)

ติดตามกันต่อในคอมเม้นนะคะ

ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining

รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
ชื่อสินค้า:   🇫🇷 Caprice - คาปรีซ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่