สวัสดีค่ะ "พี่หยอดวัดยาง" จะมารีวิวการอยู่ไฟกันบ้างค่ะคราวนี้... 

ก่อนอื่นขอฝาก Page เล็กๆไว้ในอ้อมใจก่อนนะคะ
ติดตามบันทึกเรื่องราวของ "แม่คนนี้" ได้เพิ่มเติมที่ Facebook page : Journey of Kemtis การเดินทางของเข็มทิศ
https://www.facebook.com/journeyofkemtis/


🔥“อยู่ไฟ”🔥


เมื่อพูดถึงการอยู่ไฟ...น่าจะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยสำหรับแม่ๆ ที่เพิ่งคลอดเบบี๋กันอยู่แล้วใช่ไหมคะ...
ซึ่งการอยู่ไฟก็มีการทำกันมาช้านานตั้งแต่สมัยก่อน รุ่นคุณทวด คุณยาย คุณแม่ จนมาถึงรุ่นเราๆ ในปัจจุบัน วิธีการทำก็ประยุกต์ไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังคงมีวัตถุประสงค์ในการทำ (และความเชื่อ) ที่เหมือนเดิม นั่นก็คือเพื่อช่วยให้แผลจากการคลอดสมานเร็ว ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ช่วยปรับสมดุลของร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “อยู่ไฟ” ก็คงจะเป็นอะไรที่ต้องใช้ “ความร้อน” อย่างแน่นอน !
แต่เอาจริงๆ ในฐานะคุณแม่มือใหม่ยุค 4.0 สารภาพว่าไม่รู้เลยค่ะว่า การอยู่ไฟที่แท้จริงแล้วมันคืออะไร มีกรรมวิธีขั้นตอนอย่างไรบ้าง จนกระทั่งได้มาสัมผัสกับตัวเองนี่แหละค่ะ จากคำบอกของแม่เราเองที่ว่า... “คลอดแล้วต้องอยู่ไฟนะ !! แม่ติดต่อคนมาทำอยู่ไฟที่บ้านไว้ให้แล้ว !! ” เราก็เลยต้องขอลองของโบราณดูซักทีจะเป็นไร...

การจะอยู่ไฟเดี๋ยวนี้สะดวกมากมายค่ะ มีบริการ “อยู่ไฟดิลิเวอรี่” หลายเจ้าเยอะแยะไปหมด มาทำให้ถึงบ้านเลย

กระทู้นี้เลยอยากจะมาแบ่งปันเล่าประสบการณ์ “การอยู่ไฟ” ให้อ่านกันค่ะ

*** บอกก่อนว่านี่คือประสบการณ์ตรงของเราเองนะคะ อาจจะเหมือนหรือต่างจากการอยู่ไฟของแม่ๆ ท่านอื่น อย่ายึดเอาของเราเป็นบรรทัดฐานนะ ไม่มีถูก ไม่มีผิดค่ะ ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามความเหมาะสมและสไตล์การอยู่ไฟของแต่ละคนนะ ***


ก่อนหน้านี้ ได้ลอง search ดูค่ะ ว่าการอยู่ไฟเป็นอย่างไร?
ถ้าแบบ original โบราณเลย ก็คือการนอนบนกระดานไฟ หรือไม้กระดาน และมีเตาไฟ หรือกองไฟมาวางอยู่ด้านข้างหรือใต้แคร่ ลองมโนภาพตามแล้วเหมือนนอนบนเตาปิ้งเลย !! ซึ่งคงจะไม่เป็นการสะดวกที่จะมาทำแบบนี้ที่บ้านเราแน่ๆ เพราะฉะนั้นจะขอเรียกการอยู่ไฟที่ได้ลองทำในครั้งนี้ว่า “การอยู่ไฟแบบประยุกต์” นะคะ 
ประยุกต์ตามยุคสมัย
ประยุกต์ตามอุปกรณ์
ประยุกต์ตามสถานที่
ประยุกต์ตามระยะเวลา

สำหรับการอยู่ไฟในครั้งนี้ เราได้ทำกับ “พี่หนูเล็ก” จาก facebook page “อยู่ไฟหลังคลอด สมุนไพรบ้านคุณแม่” ค่ะ 
มาจากคำแนะนำของคนที่เคยใช้บริการมาแล้ว แนะนำผ่านมาทางแม่ของเราอีกทีนึงค่ะ เป็นความบังเอิญที่ประทับใจมากค่ะ

คอร์สอยู่ไฟมีให้เลือก ตั้งแต่ 5 วัน / 7 วัน / 9 วัน
เราเลือกที่จะเข้าคอร์สอยู่ไฟแบบ 5 วันค่ะ (5,500 บาท) เป็น 5 วันที่เพลินมากๆ พี่หนูเล็กอัธยาศัยดี ใจดี ชวนคุย และที่สำคัญได้ความรู้เกี่ยวกับการอยู่ไฟเยอะเลย เพราะพี่หนูเล็กทำอยู่ไฟมานานกว่า 20 ปีแล้วค่ะ

-------------------------------------------

▶️ เมื่อไหร่ถึงจะอยู่ไฟได้นะ ???
สำหรับแม่ๆ ที่คลอดธรรมชาติ สามารถอยู่ไฟได้ตั้งแต่ 5-7 วันหลังคลอดค่ะ ส่วนแม่ๆ ที่ผ่าคลอดนั้นอาจจะต้องรอประมาณ 30-45 วันหลังคลอด ให้แผลผ่าตัดแห้งดีก่อนถึงจะเป็นเวลาที่เหมาะในการอยู่ไฟค่ะ

▶️ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างก่อนอยู่ไฟ ???
- ผ้าถุง / ผ้าเช็ดตัว / หมวกคลุมผม
- น้ำดื่ม (อุณหภูมิห้อง)
- กางเกงชั้นใน แนะนำว่าควรใช้แบบใส่ครั้งเดียวทิ้งก็ดีค่ะ เพราะจะเลอะสีเหลืองของขมิ้น (ซักไม่ออก)
- เตรียมเคลียสถานที่ในบ้านไว้ซักหน่อย เพราะต้องมีพื้นที่สำหรับปูฟูกนอน และวางกระโจม
- พัดลมซักตัวไว้เปิดให้ลมโกรกๆ เพราะตอนทำอยู่ไฟไม่ควรเปิดแอร์
- กาละมัง ไว้เผื่อใส่น้ำก๊อกมาใช้ต้มในหม้อต้ม และใช้อาบตอนท้าย

ส่วนอุปกรณ์ในการอยู่ไฟต่างๆ นาๆ นั้นเราไม่ต้องเตรียมเลยค่ะ พี่เค้าเตรียมมาครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ฟูกนอน ผ้ายางรองนอน กระโจม หม้อต้ม เตา และสมุนไพรต่างๆ

▶️ ใช้เวลาในการอยู่ไฟนานไหม ???
ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ต่อการทำอยู่ไฟ 1 ครั้งค่ะ

เอาล่ะ...ทันนี้จะเล่าให้ฟังถึงขั้นตอนของ การอยู่ไฟ (แบบประยุกต์) กันค่ะ

-------------------------------------------  

ก่อนอื่นเลยก็จะต้อง set up สถานที่กันก่อนค่ะ ทั้งตั้งกระโจมสำหรับอบตัว และปูฟูกนอนสำหรับนอนนวดตัว ขัดตัว


เริ่มต้นที่การนวดตัวผ่อนคลายกันก่อนค่ะ ซึ่งการนวดนี้จะช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานดีขึ้น
จากนั้นก็จะเป็นการ “นาบหม้อเกลือ” ซึ่งก็คือการนำเอาเกลือเม็ดๆ ใส่ลงในหม้อเล็กๆ แล้วไปตั้งอุ่นบนเตาไฟฟ้า
จากนั้นนำมาห่อด้วยใบพลับพลึง นำมานาบๆ ถูๆ ส่วนต่างๆ บนตัวเราค่ะ เพื่อช่วยให้ร่างกายคืนสู่สภาวะปกติ แก้บวมน้ำ แก้ปวดเมื่อย และช่วยทำให้หน้าท้องยุบ (อันนี้อาจจะช่วยได้ไม่เท่าไหร่นะ)

▶️ ทำไมต้องห่อด้วยใบพลับพลึง ???
เพราะ พลับพลึงมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี
ใบพลับพลึงจะมีลักษณะเป็นใบเรียวยาว ปลายใบแหลม ความกว้างของใบอยู่ที่ประมาณ 10-15 ซม. วิธีการใช้คือนำใบพลับพลึงมาอังไฟ แล้วนำไปพันหรือประคบบริเวณที่ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือบริเวณที่กล้ามเนื้ออักเสบก็จะช่วยบรรเทาได้ค่ะ

ขั้นตอนการนาบหม้อเกลือนี้ ใช้เวลาค่อนข้างนานเลยค่ะ นาบๆถูๆ วนไปหลายรอบเลยล่ะ พลิกซ้าย พลิกขวาวนไป ก็จะร้อนๆ หน่อยนะคะ
แต่จะรู้สึกผ่อนคลายมากๆ เพราะว่าจะมีกลิ่นหอมๆ ของใบพลับพลึงที่โดนความร้อนให้เราได้หายใจเข้าไปตลอดๆ


หลังจากนาบหม้อเกลือเสร็จแล้ว ก็จะทาครีมสมุนไพรที่หน้าท้องเพื่อช่วยสลายไขมันค่ะ
จากนั้นก็ถึงการคลึงด้วยลูกประคบสมุนไพรสดเพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งลูกประคบนี้จะถูกต้มในหม้อไว้ตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นจะร้อนนิดนึงนะคะ
ประคบไปทั่วๆทั้งตัวค่ะ และก็จะมาเน้นที่บริเวณรอบๆเต้านม พร้อมด้วยการนวดเปิดท่อน้ำนมอีกหน่อย เพื่อช่วยกระตุ้นน้ำนมของแม่ๆ


ระหว่างที่ประคบอยู่นั้น ก็จะสลับเอาสมุนไพรที่ใส่ถุงกรองไปต้มในหม้อแทนเพื่อเตรียมไว้สำหรับอบตัว


เมื่อประคบสมุนไพรเสร็จแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนการนวดด้วยน้ำมันงาสกัดเย็นค่ะ พอนวดจนตัวมันแล้วก็ถึงเวลาเข้ากระโจมอบตัวค่ะ
ก่อนเข้ากระโจมแนะนำให้ทานน้ำซักหน่อย เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ใส่หมวกคลุมผมให้เรียบร้อย

เมื่อเข้ากระโจมก็ถอดผ้าถุงออกเลยค่ะ หม้อต้มสมุนไพรที่กำลังเดือดปุดๆ จะถูกยกเข้ามาวางในกระโจม ระวังขาจะไปโดนหม้อนะคะ
ร้อนมากกกกกกก เดี๋ยวจะเจ็บตัวเอาได้ โดยจะใช้เวลานั่งอบตัวในกระโจมประมาณ 30 นาทีค่ะ เหงื่อจะออกเยอะมากกกกกกกกก
เป็นการช่วยขับของเสียออกจากร่างกายผ่านรูขุมขน
ระหว่างที่นั่งอยู่นั้นให้ก้มหน้าลงไปหาหม้อต้มเพื่อ "รมตา" ทุกๆ 5 นาที เพื่อช่วยให้สายตาเราไม่ฟ่าฟางตอนอายุเยอะค่ะ

ตอนนั่งอยู่ในกระโจม บอกตรงๆว่าแอบอึดอัดมากๆ ค่ะ เพราะไอร้อนจากหม้อต้มสมุนไพรอัดแน่นเต็มกระโจมจริงๆ
แต่ยังดีที่เวลาไม่ไหวก็โผล่หน้าออกมาสูดอากาศข้างนอกได้ ช่างเป็น 30 นาทีที่น๊านนนนาน 555
แต่พอครบเวลาแล้วได้ออกมาด้านนอกเท่านั้นแหละ บอกเลยว่ารู้สึกสบาย สดชื่น ผ่อนคลายมากๆ ค่ะ สุดท้ายคือชอบ !!


ยัง...ยังไม่จบกรรมวิธีอยู่ไฟค่ะ !

หลังจากเข้ากระโจมเสร็จแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการขัดตัวค่ะ
โดยสมุนไพรที่ใช้ในการขัดตัวนี้ มีส่วนผสมของขมิ้น เกลือ และมะขามค่ะ จังหวะนี้แหละ เหลืองอ๋อยยยยทั้งตัวจ้าาาา ขัดทุกซอกทุกมุม ช่วยลดเรื่องจุดด่างดำต่างๆ ที่เกิดจากตอนตั้งครรภ์ค่ะ เช่น ใต้วงแขน คอ และข้อพับต่างๆ และยังช่วยทำให้ผิวเนียนด้วย


และก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย...ท้ายสุดค่ะ นั่นก็คือการอาบน้ำสมุนไพรนั่นเอง
น้ำสมุนไพรที่ใช้อาบก็คือน้ำที่ต้มสมุนไพรตอนเราเข้ากระโจมนั่นแหละค่ะ
น้ำจะต้มจนเข้มข้นเป็นสีเหลืองเลย เทใส่กาละมังผสมกับน้ำประปาให้อุ่นๆ แล้วตักอาบได้เลยค่ะ
และจบทุกขั้นตอนแล้วก็ไปอาบน้ำปกติอีกรอบเพื่อล้างความเหลืองออกไปหน่อย...

แต่อย่างไรก็ตาม ตัวที่เหลืองจากการขัดขมิ้นประกอบกับการอาบด้วยน้ำสมุนไพรสีเหลือง ก็จะทำให้ตัวเราเหลืองยกกำลังสองไปชั่วคราวค่ะ
มือ เท้า เล็บ เหลืองไปหลายวันเลย 5555 ส่วนเสื้อผ้า แนะนำว่าควรใส่เสื้อผ้าสีเข้มไปก่อนช่วงแรกนะคะ เพราะสีเหลืองจะยังตามติดไปถึงเสื้อผ้า เสื้อชั้นในด้วย หุหุ

-------------------------------------------

และทั้งหมดนี้ก็คือขั้นตอนการทำการอยู่ไฟแบบประยุกต์ กับอยู่ไฟดิลิเวอรี่ของ “พี่หนูเล็ก” ค่ะ
ทำวนไปแบบนี้ทุกวันตามจำนวนวันที่เราเลือกค่ะ จะ 5, 7 หรือ 9 วันก็แล้วแต่ความสะดวก

ส่วนตัวแล้ว...หลังจากได้อยู่ไฟ 5 วัน รู้สึกสบายตัวมากขึ้นค่ะ
เหมือนได้พักผ่อนจากการเลี้ยงลูกตลอดเวลา ได้ผ่อนคลายเหมือนไปทำสปา รวมๆ อาจจะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วชัดเจนมากนัก
แต่รู้สึกได้ว่าอาการปวดเมื้อยทุเลาลง อาการหนาวๆร้อนๆที่เคยมีก็ลดลง และรอยดำตามข้อพับก็จางลง ส่วนที่เหลือคงจะต้องรอดูตอนเข้าสู่วัยทองค่ะ 555

หวังว่าประสบการณ์อยู่ไฟครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับแม่ๆ มือใหม่ที่กำลังจะตัดสินใจว่าจะอยู่ไฟดีมั้ยนะคะ 

ส่วนถ้าใครสนใจอยากทำอยู่ไฟกับ “พี่หนูเล็ก” สามารถติดต่อได้ทาง facebook page “อยู่ไฟหลังคลอด สมุนไพรบ้านคุณแม่” https://www.facebook.com/yoofire/ นี้ค่ะ (จากที่ไปสืบๆ ราคาหลายๆเจ้ามาแล้ว ราคาของพี่หนูเล็กถือว่าคุ้มค่าและจับต้องได้ค่ะ)

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
ฝาก Page บันทึกเรื่องราวของ "แม่คนนี้" ได้เพิ่มเติมที่ Facebook page : Journey of Kemtis การเดินทางของเข็มทิศ ด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/journeyofkemtis/