คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 34
ผมเข้าใจว่าคุณ Thaithinker ทำงานในประเทศที่นับถือศาสนามุสลิม
หรือต้องเดินทางไปร่วมงานบ่อยๆ ก็จะมีความ sensitive สูงเรื่องสิทธิเสรีภาพ
กลัวคนไทยจะเป็นเหมือนตะวันออกกลาง
ส่วนคนไทยส่วนหนึ่งก็มีความ sensitive เรื่องศาสนา กลัวว่าจะถูกเด็กทำให้อันตรธานไป ตรงนี้ผมก็เข้าใจ
เรื่องนี้ผมว่าผิดทั้งคู่
เด็กและครูอาจารย์ไม่เคารพศรัทธาผู้อื่น
ส่วน ดร.ก็ใช้อำนาจกดดันคุกคามจนเกินสิทธิหน้าที่ตนเองไป
หรือต้องเดินทางไปร่วมงานบ่อยๆ ก็จะมีความ sensitive สูงเรื่องสิทธิเสรีภาพ
กลัวคนไทยจะเป็นเหมือนตะวันออกกลาง
ส่วนคนไทยส่วนหนึ่งก็มีความ sensitive เรื่องศาสนา กลัวว่าจะถูกเด็กทำให้อันตรธานไป ตรงนี้ผมก็เข้าใจ
เรื่องนี้ผมว่าผิดทั้งคู่
เด็กและครูอาจารย์ไม่เคารพศรัทธาผู้อื่น
ส่วน ดร.ก็ใช้อำนาจกดดันคุกคามจนเกินสิทธิหน้าที่ตนเองไป
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ศาสนาพุทธ ผูกขาด VS จริยศาสตร์ พื้นฐานแห่งเสรีภาพ กับภาพวาด
คือคุณธรรมพื้นฐานของความเป็นมนุษย์
ที่มนุษย์คนหนึ่ง พึงเคารพ สิทธิ พื้นฐานของมนุษย์คนอื่น
กีต้าร์ร๊อก ต้องดีดหกสายเท่านั้น ดีดสามสายคือผิด คือมิจฉาทิฐิ
ต้มยำกุ้งต้องใส่กะทิ , ใส่นมคือผิด คือมิจฉาทิฐิ
บริจาคพระต้องใส่แต่ข้าว, ใส่เงินคือผิด คือมิจฉาทิฐิ
การระบายสีใบไม้ ต้องเขียวเท่านั้น แบบอื่นคือผิด คือมิจฉาทิฐิ
ไอ้พวกคิดแบบนี้
คือพวกต่ำชั้น
ไม่เข้าใจเจตจำนงเสรีความหมายของชีวิต
เหมือนพวกคลั่งศาสนาอาหรับ
นิกายหัวรุนแรง ต้องแบบนั้นเท่านั้น ถึงเป็นของแท้
ไม่เคารพอิสระของนิกายอื่น
ใครผิดจากตน ต้องฆ่า เกิดเป็นสงครามศาสนา
พวกตรงข้ามคือพวกไม่เข้าใจศาสนาบริสุทธิ์
เป็นพวกผิด ต้องบังคับให้พวกอื่นมาเชื่อเหมือนพวกตน
พวกที่คิดแบบนี้ จึงมีแฝงอยู่ในทุกศาสนา ทุกนิกาย
ถ้าเป็นพุทธ ก็กลายเป็นคลั่งพุทธสุดโต่ง
ถ้าเป็นคริสต์ก็กลายเป็นคริสต์สุดโต่ง
ถ้าเป็นอิสลามก็เป็นอิสลามสุดโต่ง
วันหนึ่งๆ เฝ้าแต่ทำตัวไปละเมิดคนอื่น
ละเมิดคนที่เชื่อไม่เหมือนพวกตน
ละเมิดคนที่ไม่ได้สมาทานปฏิบัติเหมือนพวกตน
ระดับเบาๆก็ใช้การพูดจาเสียดสี
ระดับหนัก ก็ใช้วิธีออกกฏกมายมาควบคุมคนอื่น
ระดับคลั่ง ก็ใช้การก่อการร้าย และความรุนแรง
คนแบบนั้น จะไม่มีวันเข้าใจ
ว่า ความซาบซึ้ง ความเชื่อ ศาสนา ความดื่มด่ำ การปรุงอาหาร เครื่องดื่ม กีฬา
ความรู้ ดนตรี คณิตศาสตร์ ศิลปะ ความรัก ความเมตตา มันคือความหมายของชีวิต
คนที่ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้
ย่อมไม่เข้าใจว่า
ทำไมผมจึงยืนกราน
ที่จะปกป้อง
สิทธิที่จะเชื่อ
สิทธิที่จะแสดงออก
อย่างบริสุทธิ์ใจ
เฉพาะเจาะจง
ของแต่ละปัจเจกบุคคล
ทำไม การเคารพเจตจำนงเสรี
ของปัจเจกชน
จึงเป็นสาระของมนุษย์
ที่มีอารยะ
.
.,.............
ถ้าคุณเป็นพุทธ
คุณควรรับทราบเรื่องคุณธรรมจริยธรรมพื้นฐานไว้ด้วย
ในทางคุณธรรมพื้นฐาน
มนุษย์คนหนึ่ง พึงควรให้ความเคารพ ในสิทธิ์ของมนุษย์คนอื่น
ในเสรีภาพ ที่จะมีชุดความเชื่อ ในแบบของตน
ในเสรีภาพ ที่จะมีวิธีแสดงความซาบซึ้งในแบบของตน
ตราบเท่าที่ความเชื่อ การแสดงออกนั้นๆ มิได้ไปละเมิดผู้อื่น
หากเรานับถือพุทธเถรวาท
แล้ว ยังไม่เข้าใจ จริยธรรมพื้นฐาน
มุ่งแต่ โทษะ เข้มโกรธผู้อื่น
ขัดหูขัดตา ขัดใจผู้อื่น
ที่นับถือพุทธตามประเพณี
ขัดหูขัดตา ขัดใจผู้อื่น
ที่แสดงออกโดยบริสุทธิ์ใจ
เราคงไม่สามารถตอบต่อ
นักปราชญ์ในนานาอารยะสังคม
ว่าทำไมผู้เคร่งในเถรวาท
จึงดูถูกเหยีดหยาม เสรีภาพในความเชื่อของคนอื่น
แค่จริยธรรมพื้นฐาน
คุณธรรมพื้นฐาน
ถ้าเราไม่เข้าใจ
ป่วยการที่จะไปศึกษาพระธรรม
อันเป็นของบริสุทธิ์ สะอาด
.