มีลูกเป็นโรคสมาธิสั้นค่ะส่งผลให้เป็นโรคซึมเศร้ารู้สึกตัวเองไม่มีค่าเพราะโดนตำหนิถูกทำโทษอยู่บ่อยและผลกระทบทางสัมคมทำให้น้องอยากตายจนต้องไปนอนโรงพยาบาลอยู่1 อาทิตย์และรักษาตัวตั้งแต่เดือนมกราคมปี2561 จนถึงปัจจุบันช่วงเริ่มกินยาใหม่ๆคุณหมอบอกน้องมีอาการอยากฆ่าตัวตายทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้นอารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ซึ่งเป็นผลกระทบจากการกินยาแรกๆและการปรับยาตลอดระยะเวลา1 ปีน้องได้รับกำลังใจจากครูใหญ่ที่คอยรับฟังเด็กและการดูแลของครูประจำชั้นที่เข้าใจคอยแก้ปัญหาในการเข้าสังคมช่วยเหลือน้องและน้องมีอาการดีขึ้นตามลำดับ
พอน้องขึ้นม.2 เปลี่ยนครูประจำชั้นใหม่น้องไม่มีปัญหาอะไรจนวันนึงด้วยความที่น้องชอบพูดมากชอบเล่าเรื่องให้ครูใหญ่ฟังน้องก็ไปคุยปกติถึงปัญหาว่าเพื่อนทำบางอย่างในห้องที่ไม่ดีเมื่อครูประจำชั้นรู้ครูประจำชั้นเลยด่าน้องเพราะอาจทำให้ครูใหญ่คิดว่าตัวครูอาจดูแลนักเรียนไม่ดีและบอกน้องอย่าทำอีกนะไม่ใช่แค่ด่าอย่างเดียวครูตะคอกและขู่น้องโดยบอกหรือให้ฉันไปบอกครูใหญ่มั้งลูกสาวมีพฤติกรรมอย่างไรน้องก็ร้องไห้หนักมากและในวันเดียวกันก็โดนเพื่อนด่าที่ไปบอกครูใหญ่
น้องที่เป็นสมาธิสั้นบางครั้งเค้าไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องแต่ด้วยการที่สมองส่วนหน้าผิดปกติจึงไม่สามารถควบคุมได้ไม่คิดผลที่ตามมาหุนหันพลันแล่นและด้วยความที่ห่วงเพื่อนน้องทำไปโดยไม่ตั้งใจผลที่ตามมาคือโดนเพื่อนด่าครูด่า
น้องจึงขึ้นไปบนชั้นคนเดียวหลังเลิกเรียนอยากพักสมองปวดหัวเครียดอยากอยู่คนเดียวเงียบๆรับลมเย็นให้สมองโล่งและรอรถมอเตอร์ไซค์มารับกลับบ้านหลังเลิกเรียนถึงเวลาน้องก็กลับลงไปแล้วกลับบ้านซึ่งรถจะมารับในเวลา4.20 ทุกวันก่อนที่น้องจะลงไปผู้ปกครองข้างล่างเห็นจึงได้แจ้งทางห้องปกครองเห็นเด็กอยู่ข้างบนคนเดียว
อีกวันน้องก็ไปเรียนปกติครูถามน้องในแถวน้องก็ไม่ตอบอะไรเงียบแล้วครูก็เรียกไปถามที่ห้องสมุดน้องก็ตอบตามความจริงว่าขึ้นไปนั่งเล่นเฉยๆครูไม่ได้ถามสักคำว่าน้องขึ้นไปทำไร(ครูคงคิดน้องอยากฆ่าตัวตาย) ครูก็กอดน้องแล้วถามน้องตั้งแต่ขึ้นม.2 มาน้องเคยมีความคิดอยากฆ่าตัวตายไหมน้องตอบเคยบางครั้งและครูถามมีอะไรที่มีคมไหมซึ่งน้องมีกรรไกรกับมีดน้องก็ให้ครูไป(เพราะน้องมีของนั่นจริงน้องบอกไม่อยากโกหกถ้าครูค้นเด๋วก็หาว่าหนูอยากตายถามมอเตอร์ไซค์ที่ไปรับส่งน้องไม่ได้ไปแวะซื้อซึ่งแปลว่าน้องมีอยู่แล้วก่อนมีเรื่อง) ครูถามว่าถ่ายรูปส่งให้แม่ดูได้ไหมน้องบอกได้เสร็จครูถ่ายรูปส่งให้ใครไม่รู้และคุยโทรศัพท์จากนั้นให้น้องขึ้นไปเรียนแล้วสักพักก็เรียกน้องลงมาไปห้องวิชาการแจ้งโรงเรียนเองน้องจะฆ่าตัวตายแล้วทางโรงเรียนโทรมาบอกแม่ให้น้องพักการเรียนและขอให้ลาออกเพราะเด็กนักเรียนมี3,000 กว่าคนครูดูแลไม่ทั่วถึงเลยบอกกับครูใหญ่ว่าขอคุยกับน้องก่อนซึ่งครูให้น้องพักการเรียนจนกว่าแม่จะกลับมาวันนั้นคือวันที่9 สิงหาแม่กำลังบินกลับต่างประเทศไปทำธุระกว่าจะกลับมาได้ก็วันที่25 สิงหาแล้วแม่รีบไปพบครูใหญ่วันที่26 สิงหาได้คำตอบเหมือนเดิม
ทั้งที่เราอธิบายไม่มีใครรับฟังน้องสักคนครูประจำชั้นก็ไม่ถามถึงสาเหตุน้องขึ้นไปทำไรแจ้งน้องอยากฆ่าตัวตายทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็เห็นอยู่น้องไม่ได้ปีนแค่ขึ้นไปยืนเฉยซึ่งรั่วก็สูงตัดสินกันเองและมีหนังสือยืนยันจากจิตแพทย์
ตั้งแต่เกิดเรื่องมาพยายามติดต่อครูประจำชั้นให้โทรกลับอยากทราบเรื่องครูก็ไม่โทรกลับ
สอบถามไปในข้อความครูอ่านไม่ตอบกลับ
ทุกวันนี้เลยส่งน้องไปเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวพร้อมจะสอบสอนลูกให้อย่ายอมแพ้
อยากฝากถึงผู้ปกครองและครู
เรื่องเด็กสมาธิสั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวมากอาการของโรคทำให้เกิดปัญหาทางด้านการเรียน
การทำงานอารมณ์พฤติกรรมและความสัมพันธ์กับผู้อื่นโรคนี้เกิดจากสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสมาธิการวางแผนการควบคุมตัวเองมีการทำงานแตกต่างไปตากปกติไม่เกี่ยวกับสติปัญญาของเด็กโรคนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองจิตแพทย์และครูซึ่งครูเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือเด็กเหล่านี้เพราะน้องใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนมากกว่าให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ออกมาได้เต็มที่การให้โอกาสและยอมรับเด็กว่าป่วยและควรมีทัศนคติที่ดีต่อเด็กไม่ตำหนิและเหน็บแนมเด็กด้วยการดูถูกคงไม่มีใครอยากทำตัวให้เป็นปัญหาไม่น่ารักหรืออยากเป็นเด็กสมาธิสั้นหรอกค่ะการมีเหตุผลและให้เด็กได้พูดถึงความรู้สึกและรับฟังเด็กบ้างว่าเค้าคิดอย่างไรไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินการเชื่อใจและให้กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆค่ะสอนลูกด้วยความอดทนและใจเย็น
เด็กพวกนี้จะทำเรื่องผิดพลาดบ่อยแต่เราก็ต้องรับฟังและสอนถึงวิธีการแก้ปัญหา
เด็กควรได้มีสังคมเหมือนเด็กปกติการหยุดเรียนไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาแต่การไปโรงเรียนจะช่วยเด็กให้รู้จักการเข้าสังคมการแก้ปัญหาค่ะ
โรคสมาธิสั้นใกล้ตัว มีใครมีปัญหากันมั้งค่ะ
พอน้องขึ้นม.2 เปลี่ยนครูประจำชั้นใหม่น้องไม่มีปัญหาอะไรจนวันนึงด้วยความที่น้องชอบพูดมากชอบเล่าเรื่องให้ครูใหญ่ฟังน้องก็ไปคุยปกติถึงปัญหาว่าเพื่อนทำบางอย่างในห้องที่ไม่ดีเมื่อครูประจำชั้นรู้ครูประจำชั้นเลยด่าน้องเพราะอาจทำให้ครูใหญ่คิดว่าตัวครูอาจดูแลนักเรียนไม่ดีและบอกน้องอย่าทำอีกนะไม่ใช่แค่ด่าอย่างเดียวครูตะคอกและขู่น้องโดยบอกหรือให้ฉันไปบอกครูใหญ่มั้งลูกสาวมีพฤติกรรมอย่างไรน้องก็ร้องไห้หนักมากและในวันเดียวกันก็โดนเพื่อนด่าที่ไปบอกครูใหญ่
น้องที่เป็นสมาธิสั้นบางครั้งเค้าไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องแต่ด้วยการที่สมองส่วนหน้าผิดปกติจึงไม่สามารถควบคุมได้ไม่คิดผลที่ตามมาหุนหันพลันแล่นและด้วยความที่ห่วงเพื่อนน้องทำไปโดยไม่ตั้งใจผลที่ตามมาคือโดนเพื่อนด่าครูด่า
น้องจึงขึ้นไปบนชั้นคนเดียวหลังเลิกเรียนอยากพักสมองปวดหัวเครียดอยากอยู่คนเดียวเงียบๆรับลมเย็นให้สมองโล่งและรอรถมอเตอร์ไซค์มารับกลับบ้านหลังเลิกเรียนถึงเวลาน้องก็กลับลงไปแล้วกลับบ้านซึ่งรถจะมารับในเวลา4.20 ทุกวันก่อนที่น้องจะลงไปผู้ปกครองข้างล่างเห็นจึงได้แจ้งทางห้องปกครองเห็นเด็กอยู่ข้างบนคนเดียว
อีกวันน้องก็ไปเรียนปกติครูถามน้องในแถวน้องก็ไม่ตอบอะไรเงียบแล้วครูก็เรียกไปถามที่ห้องสมุดน้องก็ตอบตามความจริงว่าขึ้นไปนั่งเล่นเฉยๆครูไม่ได้ถามสักคำว่าน้องขึ้นไปทำไร(ครูคงคิดน้องอยากฆ่าตัวตาย) ครูก็กอดน้องแล้วถามน้องตั้งแต่ขึ้นม.2 มาน้องเคยมีความคิดอยากฆ่าตัวตายไหมน้องตอบเคยบางครั้งและครูถามมีอะไรที่มีคมไหมซึ่งน้องมีกรรไกรกับมีดน้องก็ให้ครูไป(เพราะน้องมีของนั่นจริงน้องบอกไม่อยากโกหกถ้าครูค้นเด๋วก็หาว่าหนูอยากตายถามมอเตอร์ไซค์ที่ไปรับส่งน้องไม่ได้ไปแวะซื้อซึ่งแปลว่าน้องมีอยู่แล้วก่อนมีเรื่อง) ครูถามว่าถ่ายรูปส่งให้แม่ดูได้ไหมน้องบอกได้เสร็จครูถ่ายรูปส่งให้ใครไม่รู้และคุยโทรศัพท์จากนั้นให้น้องขึ้นไปเรียนแล้วสักพักก็เรียกน้องลงมาไปห้องวิชาการแจ้งโรงเรียนเองน้องจะฆ่าตัวตายแล้วทางโรงเรียนโทรมาบอกแม่ให้น้องพักการเรียนและขอให้ลาออกเพราะเด็กนักเรียนมี3,000 กว่าคนครูดูแลไม่ทั่วถึงเลยบอกกับครูใหญ่ว่าขอคุยกับน้องก่อนซึ่งครูให้น้องพักการเรียนจนกว่าแม่จะกลับมาวันนั้นคือวันที่9 สิงหาแม่กำลังบินกลับต่างประเทศไปทำธุระกว่าจะกลับมาได้ก็วันที่25 สิงหาแล้วแม่รีบไปพบครูใหญ่วันที่26 สิงหาได้คำตอบเหมือนเดิม
ทั้งที่เราอธิบายไม่มีใครรับฟังน้องสักคนครูประจำชั้นก็ไม่ถามถึงสาเหตุน้องขึ้นไปทำไรแจ้งน้องอยากฆ่าตัวตายทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็เห็นอยู่น้องไม่ได้ปีนแค่ขึ้นไปยืนเฉยซึ่งรั่วก็สูงตัดสินกันเองและมีหนังสือยืนยันจากจิตแพทย์
ตั้งแต่เกิดเรื่องมาพยายามติดต่อครูประจำชั้นให้โทรกลับอยากทราบเรื่องครูก็ไม่โทรกลับ
สอบถามไปในข้อความครูอ่านไม่ตอบกลับ
ทุกวันนี้เลยส่งน้องไปเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวพร้อมจะสอบสอนลูกให้อย่ายอมแพ้
อยากฝากถึงผู้ปกครองและครู
เรื่องเด็กสมาธิสั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวมากอาการของโรคทำให้เกิดปัญหาทางด้านการเรียน
การทำงานอารมณ์พฤติกรรมและความสัมพันธ์กับผู้อื่นโรคนี้เกิดจากสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสมาธิการวางแผนการควบคุมตัวเองมีการทำงานแตกต่างไปตากปกติไม่เกี่ยวกับสติปัญญาของเด็กโรคนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองจิตแพทย์และครูซึ่งครูเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือเด็กเหล่านี้เพราะน้องใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนมากกว่าให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ออกมาได้เต็มที่การให้โอกาสและยอมรับเด็กว่าป่วยและควรมีทัศนคติที่ดีต่อเด็กไม่ตำหนิและเหน็บแนมเด็กด้วยการดูถูกคงไม่มีใครอยากทำตัวให้เป็นปัญหาไม่น่ารักหรืออยากเป็นเด็กสมาธิสั้นหรอกค่ะการมีเหตุผลและให้เด็กได้พูดถึงความรู้สึกและรับฟังเด็กบ้างว่าเค้าคิดอย่างไรไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินการเชื่อใจและให้กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆค่ะสอนลูกด้วยความอดทนและใจเย็น
เด็กพวกนี้จะทำเรื่องผิดพลาดบ่อยแต่เราก็ต้องรับฟังและสอนถึงวิธีการแก้ปัญหา
เด็กควรได้มีสังคมเหมือนเด็กปกติการหยุดเรียนไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาแต่การไปโรงเรียนจะช่วยเด็กให้รู้จักการเข้าสังคมการแก้ปัญหาค่ะ