ATTN ก็ไม่อ่านอยู่ดีแหล่ะมั๊ง เค้าไม่สนใจแฟนคลับเท่าไรอ่ะ
ช่วงนี้แฟนคลับลืมง่าย เรื่องดีๆ ใหม่ก็มาล่ะ เดี๋ยวก็ลืมกันมั๊ง
Disclaimer :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ว่ากันตรงๆ ..... เขียนเพื่อระบายอารมณ์เฉยๆ เอาจริงๆคือ ลดงบจน ถ้ามากกว่านี้คืองดเปย์แล้วแหล่ะ
ดังนั้น มันก็คงลดไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนอกจากเฮนวง
- ใครเกลียดผมเป็นทุนเดิมก็ข้ามไปก็ได้ ใครรักอฟซ.เป็นทุนเดิมก็ข้ามไป ใครรู้สึกว่าช่วงน้องๆ ดีจนเยียวยาได้หมดแล้วก็ข้ามไป
ใครไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆก็ข้ามไป
- หรือจะมุกมาตรฐานไล่ให้ไปทำเองก็ได้ แต่เอาจริงๆหน้างานผมพยายามหาวิธีคุยแล้วแต่การ์ดเยอะแยะไปหมด
และสต๊าฟก็ดูยุ่งเกินกว่าจะมาฟัง ... ตอนเกิดเรื่องมันก็เกินจุดนั้นไปแล้ว
- กระทู้นี้ ลบ เป็นส่วนมาก ... พาร์ทดีๆ มันก็มีคนเขียนแล้ว ส่วนใหญ่ก็คือเม็มเบอร์ ความเต็มที่ของเม็มเบอร์
ซึ่งก็คงจะไม่เขียนซ้ำ
- ที่เพิ่งเขียนเพราะก็อยากให้อารมณ์เย็นลงก่อน ทั้งแฟนคลับและตัวเอง แต่จริงๆทวิตทางแก้ไปตั้งแต่หน้างานแล้ว แต่อ่านไหม ก็ไม่
---------
งานนี้ผมไปถึงประมาณเก้าโมงนิดนึง (ไม่ได้คิดว่าจะไปแคมป์เพื่อเข้าไปเล่นงานวัดอยู่แล้ว และรู้ว่าต้องรับบัตรนานอยู่แล้ว)
ปัญหา 1 : "ใครจะซื้อบัตรเข้าร่วมกิจกรรมงานวัด ให้ประเมินเวลาให้ดีๆนะครับ เวลาน่าจะไม่พอ และเม็มเข้าตามเวลา"
- ความเป็นจริงการเปิดขายบัตรหน้างานสำหรับอีเวนท์ที่เจอเม็มอ่ะ ยังไงมันก็ล้น ยังไงมันก็ทะลัก ยิ่งมาเปิดเอาวันใกล้ๆ ยิ่งบริหารจัดการยาก ...
- แต่เรื่องนี้หลายคนก็คงไม่ได้มองเป็นปัญหาหรอก เพราะปัญหา 2-ปัญหาที่ x มันใหญ่กว่าหลายร้อยเท่า
- พาร์ทนี้จะว่าจริงๆก็เหมือนกับให้คนที่รับบัตรก่อนได้เข้าไปเล่นล่ะนะ อันนี้ก็คือว่าเป็นผลพลอยได้จากการไปรับก่อน
- ทางแก้ :ปัญหาข้อนี้จริงๆวงพี่ที่เค้ามาจัดงาน AKB Festival เค้าก็ทำตัวอย่างมาดีแล้ว โดยการเปิดขายเป็น "Enjoy Ticket" มันทำให้นับจำนวนได้ ระบุเวลาได้ ซึ่งจริงๆต้องทำการบ้านมาก่อนอยู่แล้ว ตรงนี้เห็นได้ชัดว่า ไม่ประมาณเวลา ไม่ประมาณคน แถมคืนเงินไม่ได้ และไม่ได้แคร์ยอดด้วยซ้ำ
ปัญหา 2 : การรับบัตรล่วงหน้า ในช่วงเวลางาน
- บ้านเรามีหน่วยงานที่รับออกบัตรอยู่หลายเจ้า
- การเลือกกระจายบัตรในช่วงก่อนเวลา คุณเลือกสถานที่ที่ รถไฟฟ้าเข้าไม่ถึง .. ในเวลาที่คนทำงานยังไม่เลิกงาน
- เผลอๆ ไม่ได้ Track ด้วยซ้ำว่ามีคนรับบัตรไปล่วงหน้าแล้วกี่คน
- ซึ่งผลจากการทำแบบนี้เอง มันทำให้เกิดปัญฆาที่ 3 ตามมา
-
ทางแก้: ถ้าขั้นตอนนี้คุณเปิดปิดตามเวลาเธียร์เตอร์แต่แรก (ไม่มักง่าย ที่แปลว่า มัก[ทำอะไรเอา]ง่าย[กับตัวเอง] เข้าว่า) วันงาน
คุณจะไม่เสียหายเยอะขนาดนี้ (บางคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากสายเปย์เป็นสายฟรีเป็นหลักอ่ะ ยอดจ่ายเดือนนึงห้าหลักนะ
เพราะคนที่มีกำลังเปย์อ่ะ เค้าติดเงื่อนไขไง เค้าต้องทำงาน ดังนั้นเวลางานเขาจะรับบัตรไม่ได้ ดังนั้นอนุมานเอาได้เลยว่า
คนมีกำลังเปย์แทบทั้งหมด ประสบพบกับปัญหาในข้อ 3-ปัญหาที่ x แน่นอน)
ปัญหา 3 : ข้อจำกัดจากการมีเครื่องพิมพ์บัตรจำนวนน้อย
- ตั๋วงานรอบนี้ไม่เหมือน Event Ticket แบบเธียร์เตอร์ ... มันมากกว่านั้นเยอะ
- พูดตรงๆ วันเธียร์เตอร์เอง คุณเปิดรับบัตร 1 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนเธียร์เตอร์เริ่ม ด้วย "ความสามารถในการออกบัตรเท่ากัน" ภายในสถานที่ ที่คุณสามารถควบคุมได้เกือบทุกอย่าง ... สำหรับคนจำนวน 350 คน คุณใช้เวลาประมาณนั้น ยังไม่ทัน ยังมีการเข้าแถวรอซ้อนๆกันอยู่
- สถานการณ์การออกบัตรนี้ ถูก "ทำมาจนเป็นกิจวัตร" อย่างน้อยราวๆ 140-150 สเตจ (ผมไม่ได้นับของเทรนนีว่าเป๊ะๆเท่าไร) ดังนั้นจริงๆ คุณรู้อยู่แล้ว ว่าภายใน 1 ชั่วโมง คุณไม่สามารถออกบัตรได้ "ทันจำนวน เลย"
- แล้วเนี่ยมันเหลือยอดออกมา
- บวกจากปัญหาข้อ 2 ซึ่งถ้าคุณไม่ได้เช็คยอดมาแต่แรก คุณมาทำวันจริงอ่ะ ยังไงก็เละ
- เอาจริงๆจากการแก้ปัญหาหน้างานที่ใช้ทีมงานออกบัตรเขียนบัตรด้วยมือ Search บน Excel ด้วย Ctrl-F เนี่ย ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่า ระบบสุ่ม "เริ่มสุ่ม" ตั้งแต่ประกาศแล้ว ..... เรื่องเนี่ยว่าไป Theater ก็ควรจะประกาศที่นั่งตั้งแต่สุ่มได้ไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ให้ไปลุ้นหน้างาน ทำไปแล้วได้อะไรอ่ะ สนุก ดีใจ ปลื้ม ดูเพลินมากขึ้น ป้องกันการขายบัตร หรือยังไง ... มันไม่ต้องก็ได้อ่ะ ..... การตรวจบัตรซ้ำๆๆๆๆ เนี่ยก็เช่นกัน
- ทางแก้ 1 : เลือก Organizer/Partner ที่ออกบัตรได้ ออกบัตรล่วงหน้า (ต่อให้ไม่ใช้ Eventpop หรือ TTM ก็ตาม)
- ทางแก้ 2 : พิมพ์บัตรล่วงหน้าเอง ทันทีที่รู้หรือประเมินยอดจากข้อ 2 ได้ ... คอนเสิร์ตหรืองานใหญ่ๆทั่วไปที่เค้าผ่านประสบการณ์รวมกันหลักหมื่นคอนเสิร์ต เค้าก็ทำแบบนี้กันหมดแหล่ะ เพราะถ้างาน Overload คอขวดมันไม่ควรไปอยู่ที่เครื่องพิมพ์ไง จะทำยังไงให้ดีกว่านี้ได้ มันไม่มีหรอก ...
- ผลจากวิธีแก้ตาม 1/2 : ถ้าคุณพิมพ์บัตรล่วงหน้า คุณจะสามารถเอาบัตรไปเรียงตาม Serial Number/หรือชื่อ/หรือเลขออร์เดอร์ (ซึ่งคุณมีอยู่แล้วไงและสแกนดูก็ได้) และสามารถกระจายบัตรนี้ให้กับสต๊าฟหน้างาน "กี่คนก็ได้" ในการแจกบัตรและยืนยันตัว มันก็จะแก้ปัญหาคอขวดได้
- ทางแก้ 3 : เปลี่ยนไปใช้แบบ e-Ticket หรือใช้แบบควบคู่กันคือเลือกออกบัตรก็ได้หรือใช้ e-Ticket ก็ได้ (การออกบัตรทำให้ e-Ticket โดน void ไปเอง) บัตรควรมี QR หรืออะไรก็ชั่งในการยืนยันตัวเข้างาน ที่เหลือก็เป็นเรื่องของสต๊าฟจะสแกนเช็คเอา .... การพิมพ์บัตรแบบนี้มันช่วยให้การทำงานหน้างานสะดวกขึ้นมาก ... ตรงนี้ก็จะดีหน่อยตรงที่ได้ของที่ระลึก ... คุณจะเก็บค่าของที่ระลึกนี้เป็นค่าออกบัตร 10-20-50 บาทหน้างานตรงนี้ก็ทำได้ ขอให้ออกเป็นบัตรแข็งดีๆหน่อยก็พอ
จากปัญหาในข้อ 2/3 ที่มันเกิดและสะสมค้างมา มันเลยทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีก
ปัญหา 4 : สถานที่รับบัตร
- ความจริงระบบสุ่ม Ticket เนี่ย ข้อมูลในการสุ่มที่ต้องกรอกคือ "อายุ" "เพศ" ซึ่งคุณต้องรู้ล่วงหน้าแล้วแหล่ะ ว่าคนที่เค้าต้องต่อแถวอายุเท่าไร วัยไหน มีคนแก่ไหม มีวัยทำงานไหม มีสามสิบสี่สิบใหม่
- คุณรู้สภาพอากาศอยู่แล้ว (แหงล่ะ มันถึงขั้นหลังคาพังเลยนะ ดังนั้นความเสี่ยงในการมีพายุก็มีอยู่แล้ว บวกกับจำนวนคนตกค้าง คุณย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่ามันต้องใช้เวลา)
- ทางแก้ : อย่างน้อยที่สุดคุณควรจัดเตรียมสถานที่รับบัตรให้มันเป็นที่ในร่ม ... หรือมีร่มให้ คุณคิดภาพสิ ต่อแถวครึ่งชั่วโมง กลางสภาพอากาศ ร้อนจัด ฝนมา เย็น ร้อน ฝน ร้อน เย็น แล้วกระทั่งในร่มเอง ถ้าคุณเอาคน 1000 คนไปแออัดกัน มันก็จะมีปัญหาความแออัด ความร้อน ปัญหาการติดเชื้อ และอื่นๆตามมาหมด ซึ่งจริงๆที่ว่างเหลือเป็นทุ่งอ่ะ คุณติดเต๊นท์ก็ได้ไหม ... หรือถ้ารู้ว่ามีปัญหาควรเคลียร์ที่ตรงนี้ไหม ?
ปัญหา 5 : การจัดการ Flow ในการแจกบัตร
- ปัญหานี้เป็นต้นเหตุของความอลหม่านที่หนักหนาสาหัสมาก
- แถวเป็นทางลึก วนไปวนมา แถมมีโค้งหลบรถหลบนู่นนี่นั่นอีก
- สต๊าฟเลือกเรียกแถวเข้าไปแบ่งตามราคา ... คำถามคือถ้าคิดสักนิด ในเมื่อคุณยังคงต้องสแกนและปรินท์อ่ะ การแยกมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยแต่แรก แล้วทำไปทำไม สุดท้ายคนก็หัวร้อนกันหมด .. พอเกิดเหตุการณ์นี้ คิวที่ควรจะเป็น คนที่ต่อมาชั่วโมงกว่าสองชั่วโมงกลางแดดกลางฝน โดนคนแถวหก เจ็ดแปด (ที่ต่อมาสิบนาที) แซงหมด
- ทางแก้ 1 : คิดสักนิดก่อนเรียกอ่ะ มันเดิน flow ของมันดีๆมาแต่แรกแล้ว ถึงจะช้าแต่ไม่มั่ว อยู่ๆคุณจะเพิ่มความมั่วเข้าไปในระบบทำไม
- ทางแก้ 2 : สำหรับงานระดับที่มีคนต้องต่อแถวยาวเกินห้าร้อย (อันนี้ก็พอกับงานจับมือแหล่ะ) การต่อแถวอ่ะ มันไม่ควรต่อไปในทางลึกอยู่แล้ว คุณควรใช้พื้นที่ในทางกว้างให้มากที่สุดก่อนเท่าที่จะมากได้ เพราะอะไร ... เพราะว่าการที่จัดแถวในแนวกว้างอ่ะ มันปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือรูปขบวน หรือขยับได้ง่ายกว่า และป้องกันการแทรกคิวได้ดีกว่า (คุณจะเห็นจากทุกงานทุกสถานที่แหล่ะ ว่าเค้าจัดแถวในแนวกว้างกันทั้งนั้น โรงหนัง ป๊อปคอร์น ธนาคาร หรืออะไรก็ตาม)
มีแต่ บอค.เนี่ยแหล่ะที่เลือกตัดในทางลึก คือเดินเข้าไปลึกสุด แล้วออกมาไกลสุด แล้วกลับไปลึกสุด .... การจัดแถวในแบบหน้ากระดานอ่ะ เวลาคุณประกาศหรือคุณเรียกทำอะไร คนที่อยู่ในระนาบหน้ากระดานคือคนที่ใกล้คุณที่สุดเสมอ และพื้นที่ที่ต้องใช้คนคุมของคุณจะใช้คนน้อยลงมาก เพราะพอเป็นแนวกว้าง ประกาศอะไร คนที่รู้เรื่องก็จะเป็นตามคิวไง ลัดมาข้ามมาคุณก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งไกลยิ่งไม่มีทางได้ยิน
ปัญหา 5 : กระบวนการแก้ปัญหาเมื่อแจกบัตรไม่ทัน (ตอนบ่ายโมงและบ่ายสอง)
ปัญหา 6 : วิธีการสื่อสารต่อคนที่กำลังร้อน (ทั้งตัวร้อน หัวร้อน อารมณ์ร้อน ใจร้อน)
- A: ความที่ ผบห.มา take action ช้ามาก (และเหมือนมาแล้วก็ไม่เปลี่ยนไป) เพราะยันแทบจะยืนยันทู่ซี้ว่าจะต้องใช้บัตรแบบเดิม ดังนั้นมันจึงบวกสองชั่วโมงอย่างที่เห็น
- ทางแก้ A: คือเรื่องนี้สต๊าฟควรมองเห็นสถานการณ์ได้ตั้งแต่ 11 โมงหรือเที่ยงแล้วอ่ะ (มีทั้งไฟดับ 15 นาที / ตัดไฟสองสามนาที) คือมันต้องรู้หรือแจ้งกันว่าจะไม่ทันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และควรมีประกาศตามมาไหม ไม่ใช่ให้คนเค้าร้อนขึ้นไปอีกเพราะเงียบเป็นป่าช้า ไมค์อ่ะสำคัญ แหม่ เปิดเพลงวนได้ ชัดด้วย แต่จับไมค์ประกาศข่าวสาร ทำไม่ได้ซะงั้น
- B: การเรียกแถวแบบหน้ากระดาน ... คือการที่คุณสแกนเป็นหน้ากระดาน แล้วสุดท้ายต้องมาตะโกนเขียนชื่อ มันแย่อ่ะ เหนื่อยไหมเจ็บคอเปล่ามั่วป่าว คือแล้วมันก็ไม่ได้เร็วกว่าสแกนทีละคนหน้ากระดานไง
- ทางแก้ B: การสแกนหน้ากระดานมันไม่ผิดหรอก จริงๆเป็นทางเลือกที่ดีด้วยซ้ำ แต่คุณก็แค่เอาคนเดินสแกนเป็นลำดับ สแกนต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ ให้เครื่องพิมพ์มันพิมพ์ไปเรื่อยๆ แล้วใช้สต๊าฟอีกคน หยิบบัตรมาเดินแจกทีละคนๆ คุณก็จะเคลียร์คนได้ทีละแถว ทีละบล๊อคแล้วไง แล้วก็ไม่มั่ว ไม่ต้องมาเรียกชื่อดังๆ มีสต๊าฟสองคน ก็ตัดมาทีละแถว ให้คนเดินไปสแกนไปเรื่อยๆ แล้วไปรอรับบัตรปลายทางก็ได้
- C: การเปลี่ยนมาเป็นเขียนมือก็ช่วยได้มาก
- ทางแก้ C: แต่มันช้าไปล่ะ และเงื่อนไข สิ่งที่เขียน (คือยังคงเขียนชื่อนามสกุลเต็มในรอบแรก) มันทำให้อะไรยากขึ้นเยอะ จริงๆคุณละบางอย่างก็ได้ เขียนแค่ ส. น. .. หรือ สิ... น. อะไรแบบนี้ก็พอแล้ว .. หรือถ้าจะตรวจบัตรด้วย ก็แค่เขียนตัวเลข 3 ตัวท้ายของบัตรลงไปด้วยพวกนี้ก็พอแล้ว
- ทางแก้อื่นๆ: ในเมื่อการสุ่มที่นั่งมันทำแต่แรกแล้วอ่ะ คุณสามารถตัด เลขบางส่วน พิมพ์ชื่อบางส่วน สกุลบางส่วน พร้อมเลขที่นั่ง ลงบนกระดาษ A4 ติดบอร์ด แล้วเอาไปแปะตามที่ต่างๆแบบคูหาเลือกตั้งหรืออะไรก็ได้ คนแค่ 5000 เอง แล้วทุกคนก็ไปเช็คแล้วเข้างานด้วยบัตรหรือโค้ดเลยก็ได้
- ความซ้ำซ้อนในการเดินแถว ในสถานการณ์นั้นการออกบัตรแล้วจัดคนตรวจอีกรอบมันซ้ำซ้อนมาก ถ้าจัดคนมากั้นทางใหม่ที่ ตรวจบัตรเสร็จ ออกบัตร แล้วสามารถลัดไปตรวจของ แล้วเข้างานได้เลย มันจะเร็วกว่านี้และลดไปได้อีกขั้นตอนนึงแหล่ะ (เพราะตรวจคนเข้างานมันไม่แน่นมากอยู่แล้ว)
ส่วนฝั่งเม็มเบอร์ ช่วงในงาน มีเรื่องเดียวคือความทั่วถึงแหล่ะ
มันไม่ใช่เพราะเราเลือกจะเป็น DD หรอกนะ เม็มเบอร์ควรมาลองสุ่มดูมั่งว่ามันยากอ่ะ ดังนั้นการเลือกสีเผื่อให้ตัวเองได้ที่นั่งมันก็ต้องแบบนี้ หรือบางเคสเรากับเพื่อนอยู่คนละสีกัน เอาจริงๆ เม็มควรเข้าใจระบบการซื้อขายด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าควรทำยังไงกับแฟนคลับแต่ละกลุ่ม คน DD อ่ะใส่เสื้อเม็มกัน แท่งไฟก็มี พร๊อพก็พร้อม แต่เม็มไม่เดินมา แล้วจะให้เล่นกับใคร ... เม็มที่เดินมาเลยสบายใจกันไป
หลายคนอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่า จบงานนานแล้วมาคิดทีหลังใครก็คิดได้
ทางแก้ที่พิมพ์ๆมาเนี่ยคือสิ่งที่โอตะ/เพื่อนๆในแถวคุยกันตั้งแต่แรกแล้วตอนมีปัญหา
ก็แค่มาสรุปไว้อีกรอบว่า โอตะยังคิดได้ สต๊าฟจะคิดกันไม่ออกเลยเร้อ
***** 1.5 ดาวนี้คือ ให้เม็มเบอร์ 4.5* ... อฟซ. -3* (ตอนแรก -5* แต่เยียวยาให้2*) มันเลยเหลือดาวครึ่ง
[CR] [รีวิวย้อนหลัง] ปัญหาและพาร์ทกิจกรรมเช้า งานเทศกาลกีฬา ... ATTN: บอค.48 อฟซ.
ช่วงนี้แฟนคลับลืมง่าย เรื่องดีๆ ใหม่ก็มาล่ะ เดี๋ยวก็ลืมกันมั๊ง
Disclaimer :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
---------
งานนี้ผมไปถึงประมาณเก้าโมงนิดนึง (ไม่ได้คิดว่าจะไปแคมป์เพื่อเข้าไปเล่นงานวัดอยู่แล้ว และรู้ว่าต้องรับบัตรนานอยู่แล้ว)
- แต่เรื่องนี้หลายคนก็คงไม่ได้มองเป็นปัญหาหรอก เพราะปัญหา 2-ปัญหาที่ x มันใหญ่กว่าหลายร้อยเท่า
- พาร์ทนี้จะว่าจริงๆก็เหมือนกับให้คนที่รับบัตรก่อนได้เข้าไปเล่นล่ะนะ อันนี้ก็คือว่าเป็นผลพลอยได้จากการไปรับก่อน
- ทางแก้ :ปัญหาข้อนี้จริงๆวงพี่ที่เค้ามาจัดงาน AKB Festival เค้าก็ทำตัวอย่างมาดีแล้ว โดยการเปิดขายเป็น "Enjoy Ticket" มันทำให้นับจำนวนได้ ระบุเวลาได้ ซึ่งจริงๆต้องทำการบ้านมาก่อนอยู่แล้ว ตรงนี้เห็นได้ชัดว่า ไม่ประมาณเวลา ไม่ประมาณคน แถมคืนเงินไม่ได้ และไม่ได้แคร์ยอดด้วยซ้ำ
- การเลือกกระจายบัตรในช่วงก่อนเวลา คุณเลือกสถานที่ที่ รถไฟฟ้าเข้าไม่ถึง .. ในเวลาที่คนทำงานยังไม่เลิกงาน
- เผลอๆ ไม่ได้ Track ด้วยซ้ำว่ามีคนรับบัตรไปล่วงหน้าแล้วกี่คน
- ซึ่งผลจากการทำแบบนี้เอง มันทำให้เกิดปัญฆาที่ 3 ตามมา
- ทางแก้: ถ้าขั้นตอนนี้คุณเปิดปิดตามเวลาเธียร์เตอร์แต่แรก (ไม่มักง่าย ที่แปลว่า มัก[ทำอะไรเอา]ง่าย[กับตัวเอง] เข้าว่า) วันงาน
คุณจะไม่เสียหายเยอะขนาดนี้ (บางคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากสายเปย์เป็นสายฟรีเป็นหลักอ่ะ ยอดจ่ายเดือนนึงห้าหลักนะ
เพราะคนที่มีกำลังเปย์อ่ะ เค้าติดเงื่อนไขไง เค้าต้องทำงาน ดังนั้นเวลางานเขาจะรับบัตรไม่ได้ ดังนั้นอนุมานเอาได้เลยว่า
คนมีกำลังเปย์แทบทั้งหมด ประสบพบกับปัญหาในข้อ 3-ปัญหาที่ x แน่นอน)
- พูดตรงๆ วันเธียร์เตอร์เอง คุณเปิดรับบัตร 1 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนเธียร์เตอร์เริ่ม ด้วย "ความสามารถในการออกบัตรเท่ากัน" ภายในสถานที่ ที่คุณสามารถควบคุมได้เกือบทุกอย่าง ... สำหรับคนจำนวน 350 คน คุณใช้เวลาประมาณนั้น ยังไม่ทัน ยังมีการเข้าแถวรอซ้อนๆกันอยู่
- สถานการณ์การออกบัตรนี้ ถูก "ทำมาจนเป็นกิจวัตร" อย่างน้อยราวๆ 140-150 สเตจ (ผมไม่ได้นับของเทรนนีว่าเป๊ะๆเท่าไร) ดังนั้นจริงๆ คุณรู้อยู่แล้ว ว่าภายใน 1 ชั่วโมง คุณไม่สามารถออกบัตรได้ "ทันจำนวน เลย"
- แล้วเนี่ยมันเหลือยอดออกมา
- บวกจากปัญหาข้อ 2 ซึ่งถ้าคุณไม่ได้เช็คยอดมาแต่แรก คุณมาทำวันจริงอ่ะ ยังไงก็เละ
- เอาจริงๆจากการแก้ปัญหาหน้างานที่ใช้ทีมงานออกบัตรเขียนบัตรด้วยมือ Search บน Excel ด้วย Ctrl-F เนี่ย ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่า ระบบสุ่ม "เริ่มสุ่ม" ตั้งแต่ประกาศแล้ว ..... เรื่องเนี่ยว่าไป Theater ก็ควรจะประกาศที่นั่งตั้งแต่สุ่มได้ไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ให้ไปลุ้นหน้างาน ทำไปแล้วได้อะไรอ่ะ สนุก ดีใจ ปลื้ม ดูเพลินมากขึ้น ป้องกันการขายบัตร หรือยังไง ... มันไม่ต้องก็ได้อ่ะ ..... การตรวจบัตรซ้ำๆๆๆๆ เนี่ยก็เช่นกัน
- ทางแก้ 1 : เลือก Organizer/Partner ที่ออกบัตรได้ ออกบัตรล่วงหน้า (ต่อให้ไม่ใช้ Eventpop หรือ TTM ก็ตาม)
- ทางแก้ 2 : พิมพ์บัตรล่วงหน้าเอง ทันทีที่รู้หรือประเมินยอดจากข้อ 2 ได้ ... คอนเสิร์ตหรืองานใหญ่ๆทั่วไปที่เค้าผ่านประสบการณ์รวมกันหลักหมื่นคอนเสิร์ต เค้าก็ทำแบบนี้กันหมดแหล่ะ เพราะถ้างาน Overload คอขวดมันไม่ควรไปอยู่ที่เครื่องพิมพ์ไง จะทำยังไงให้ดีกว่านี้ได้ มันไม่มีหรอก ...
- ผลจากวิธีแก้ตาม 1/2 : ถ้าคุณพิมพ์บัตรล่วงหน้า คุณจะสามารถเอาบัตรไปเรียงตาม Serial Number/หรือชื่อ/หรือเลขออร์เดอร์ (ซึ่งคุณมีอยู่แล้วไงและสแกนดูก็ได้) และสามารถกระจายบัตรนี้ให้กับสต๊าฟหน้างาน "กี่คนก็ได้" ในการแจกบัตรและยืนยันตัว มันก็จะแก้ปัญหาคอขวดได้
- ทางแก้ 3 : เปลี่ยนไปใช้แบบ e-Ticket หรือใช้แบบควบคู่กันคือเลือกออกบัตรก็ได้หรือใช้ e-Ticket ก็ได้ (การออกบัตรทำให้ e-Ticket โดน void ไปเอง) บัตรควรมี QR หรืออะไรก็ชั่งในการยืนยันตัวเข้างาน ที่เหลือก็เป็นเรื่องของสต๊าฟจะสแกนเช็คเอา .... การพิมพ์บัตรแบบนี้มันช่วยให้การทำงานหน้างานสะดวกขึ้นมาก ... ตรงนี้ก็จะดีหน่อยตรงที่ได้ของที่ระลึก ... คุณจะเก็บค่าของที่ระลึกนี้เป็นค่าออกบัตร 10-20-50 บาทหน้างานตรงนี้ก็ทำได้ ขอให้ออกเป็นบัตรแข็งดีๆหน่อยก็พอ
จากปัญหาในข้อ 2/3 ที่มันเกิดและสะสมค้างมา มันเลยทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีก
- คุณรู้สภาพอากาศอยู่แล้ว (แหงล่ะ มันถึงขั้นหลังคาพังเลยนะ ดังนั้นความเสี่ยงในการมีพายุก็มีอยู่แล้ว บวกกับจำนวนคนตกค้าง คุณย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่ามันต้องใช้เวลา)
- ทางแก้ : อย่างน้อยที่สุดคุณควรจัดเตรียมสถานที่รับบัตรให้มันเป็นที่ในร่ม ... หรือมีร่มให้ คุณคิดภาพสิ ต่อแถวครึ่งชั่วโมง กลางสภาพอากาศ ร้อนจัด ฝนมา เย็น ร้อน ฝน ร้อน เย็น แล้วกระทั่งในร่มเอง ถ้าคุณเอาคน 1000 คนไปแออัดกัน มันก็จะมีปัญหาความแออัด ความร้อน ปัญหาการติดเชื้อ และอื่นๆตามมาหมด ซึ่งจริงๆที่ว่างเหลือเป็นทุ่งอ่ะ คุณติดเต๊นท์ก็ได้ไหม ... หรือถ้ารู้ว่ามีปัญหาควรเคลียร์ที่ตรงนี้ไหม ?
- แถวเป็นทางลึก วนไปวนมา แถมมีโค้งหลบรถหลบนู่นนี่นั่นอีก
- สต๊าฟเลือกเรียกแถวเข้าไปแบ่งตามราคา ... คำถามคือถ้าคิดสักนิด ในเมื่อคุณยังคงต้องสแกนและปรินท์อ่ะ การแยกมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยแต่แรก แล้วทำไปทำไม สุดท้ายคนก็หัวร้อนกันหมด .. พอเกิดเหตุการณ์นี้ คิวที่ควรจะเป็น คนที่ต่อมาชั่วโมงกว่าสองชั่วโมงกลางแดดกลางฝน โดนคนแถวหก เจ็ดแปด (ที่ต่อมาสิบนาที) แซงหมด
- ทางแก้ 1 : คิดสักนิดก่อนเรียกอ่ะ มันเดิน flow ของมันดีๆมาแต่แรกแล้ว ถึงจะช้าแต่ไม่มั่ว อยู่ๆคุณจะเพิ่มความมั่วเข้าไปในระบบทำไม
- ทางแก้ 2 : สำหรับงานระดับที่มีคนต้องต่อแถวยาวเกินห้าร้อย (อันนี้ก็พอกับงานจับมือแหล่ะ) การต่อแถวอ่ะ มันไม่ควรต่อไปในทางลึกอยู่แล้ว คุณควรใช้พื้นที่ในทางกว้างให้มากที่สุดก่อนเท่าที่จะมากได้ เพราะอะไร ... เพราะว่าการที่จัดแถวในแนวกว้างอ่ะ มันปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือรูปขบวน หรือขยับได้ง่ายกว่า และป้องกันการแทรกคิวได้ดีกว่า (คุณจะเห็นจากทุกงานทุกสถานที่แหล่ะ ว่าเค้าจัดแถวในแนวกว้างกันทั้งนั้น โรงหนัง ป๊อปคอร์น ธนาคาร หรืออะไรก็ตาม)
มีแต่ บอค.เนี่ยแหล่ะที่เลือกตัดในทางลึก คือเดินเข้าไปลึกสุด แล้วออกมาไกลสุด แล้วกลับไปลึกสุด .... การจัดแถวในแบบหน้ากระดานอ่ะ เวลาคุณประกาศหรือคุณเรียกทำอะไร คนที่อยู่ในระนาบหน้ากระดานคือคนที่ใกล้คุณที่สุดเสมอ และพื้นที่ที่ต้องใช้คนคุมของคุณจะใช้คนน้อยลงมาก เพราะพอเป็นแนวกว้าง ประกาศอะไร คนที่รู้เรื่องก็จะเป็นตามคิวไง ลัดมาข้ามมาคุณก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งไกลยิ่งไม่มีทางได้ยิน
- B: การเรียกแถวแบบหน้ากระดาน ... คือการที่คุณสแกนเป็นหน้ากระดาน แล้วสุดท้ายต้องมาตะโกนเขียนชื่อ มันแย่อ่ะ เหนื่อยไหมเจ็บคอเปล่ามั่วป่าว คือแล้วมันก็ไม่ได้เร็วกว่าสแกนทีละคนหน้ากระดานไง
- ทางแก้ B: การสแกนหน้ากระดานมันไม่ผิดหรอก จริงๆเป็นทางเลือกที่ดีด้วยซ้ำ แต่คุณก็แค่เอาคนเดินสแกนเป็นลำดับ สแกนต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ ให้เครื่องพิมพ์มันพิมพ์ไปเรื่อยๆ แล้วใช้สต๊าฟอีกคน หยิบบัตรมาเดินแจกทีละคนๆ คุณก็จะเคลียร์คนได้ทีละแถว ทีละบล๊อคแล้วไง แล้วก็ไม่มั่ว ไม่ต้องมาเรียกชื่อดังๆ มีสต๊าฟสองคน ก็ตัดมาทีละแถว ให้คนเดินไปสแกนไปเรื่อยๆ แล้วไปรอรับบัตรปลายทางก็ได้
- C: การเปลี่ยนมาเป็นเขียนมือก็ช่วยได้มาก
- ทางแก้ C: แต่มันช้าไปล่ะ และเงื่อนไข สิ่งที่เขียน (คือยังคงเขียนชื่อนามสกุลเต็มในรอบแรก) มันทำให้อะไรยากขึ้นเยอะ จริงๆคุณละบางอย่างก็ได้ เขียนแค่ ส. น. .. หรือ สิ... น. อะไรแบบนี้ก็พอแล้ว .. หรือถ้าจะตรวจบัตรด้วย ก็แค่เขียนตัวเลข 3 ตัวท้ายของบัตรลงไปด้วยพวกนี้ก็พอแล้ว
- ทางแก้อื่นๆ: ในเมื่อการสุ่มที่นั่งมันทำแต่แรกแล้วอ่ะ คุณสามารถตัด เลขบางส่วน พิมพ์ชื่อบางส่วน สกุลบางส่วน พร้อมเลขที่นั่ง ลงบนกระดาษ A4 ติดบอร์ด แล้วเอาไปแปะตามที่ต่างๆแบบคูหาเลือกตั้งหรืออะไรก็ได้ คนแค่ 5000 เอง แล้วทุกคนก็ไปเช็คแล้วเข้างานด้วยบัตรหรือโค้ดเลยก็ได้
- ความซ้ำซ้อนในการเดินแถว ในสถานการณ์นั้นการออกบัตรแล้วจัดคนตรวจอีกรอบมันซ้ำซ้อนมาก ถ้าจัดคนมากั้นทางใหม่ที่ ตรวจบัตรเสร็จ ออกบัตร แล้วสามารถลัดไปตรวจของ แล้วเข้างานได้เลย มันจะเร็วกว่านี้และลดไปได้อีกขั้นตอนนึงแหล่ะ (เพราะตรวจคนเข้างานมันไม่แน่นมากอยู่แล้ว)
ส่วนฝั่งเม็มเบอร์ ช่วงในงาน มีเรื่องเดียวคือความทั่วถึงแหล่ะ
มันไม่ใช่เพราะเราเลือกจะเป็น DD หรอกนะ เม็มเบอร์ควรมาลองสุ่มดูมั่งว่ามันยากอ่ะ ดังนั้นการเลือกสีเผื่อให้ตัวเองได้ที่นั่งมันก็ต้องแบบนี้ หรือบางเคสเรากับเพื่อนอยู่คนละสีกัน เอาจริงๆ เม็มควรเข้าใจระบบการซื้อขายด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าควรทำยังไงกับแฟนคลับแต่ละกลุ่ม คน DD อ่ะใส่เสื้อเม็มกัน แท่งไฟก็มี พร๊อพก็พร้อม แต่เม็มไม่เดินมา แล้วจะให้เล่นกับใคร ... เม็มที่เดินมาเลยสบายใจกันไป
หลายคนอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่า จบงานนานแล้วมาคิดทีหลังใครก็คิดได้
ทางแก้ที่พิมพ์ๆมาเนี่ยคือสิ่งที่โอตะ/เพื่อนๆในแถวคุยกันตั้งแต่แรกแล้วตอนมีปัญหา
ก็แค่มาสรุปไว้อีกรอบว่า โอตะยังคิดได้ สต๊าฟจะคิดกันไม่ออกเลยเร้อ
***** 1.5 ดาวนี้คือ ให้เม็มเบอร์ 4.5* ... อฟซ. -3* (ตอนแรก -5* แต่เยียวยาให้2*) มันเลยเหลือดาวครึ่ง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้