ทริปนี้เป็นทริปที่เรามีโอกาสได้พาแม่ไปเที่ยวแบบ One Day Trip ไปเที่ยวกันแบบสายบุญ ทำบุญไหว้พระ 9 วัดกันที่... "จังหวัดอ่างทอง" เมืองรองเล็กๆที่อยู่ห่างจากกรุงเทพเพียงนิดเดียว ขับรถจากกรุงเทพเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆเราก็จะได้เจอกับทุ่งข้าวที่เขียวขจีเกือบจะทั่วทั้งตัวจังหวัด และวัดวาอารามอีกมากมายหลายแห่ง เป็นจังหวัดที่สามารถมาเที่ยวทั้งครอบครัวได้ง่ายๆเพราะนอกจากวัดแล้วยังมีคาเฟ่อีกด้วย ตามมาดูกันเลยว่าทริปนี้เราจะไปเที่ยวสถานที่ไหนของจ.อ่างทอง กันบ้าง

.

.

.

สถานที่แรกที่เราจะไปกันนั่นก็คือ "วัดป่าโมกข์วรวิหาร"

วัดป่าโมกข์วรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของประเทศไทย องค์พระนี้สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยสุโขทัย

พระพุทธไสยาสน์มีประวัติความ เป็นมาน่าอัศจรรย์ เล่าขานมาว่าได้ลอยน้ำมาจม อยู่หน้าวัดราษฎรบวงสรวงแล้วชักลากขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับองค์พระพุทธไสยาสน์ว่าเป็น พระพุทธรูปพูดได้โดยมีการจารึก โดยผู้บันทึกก็คือ พระครูปาโมกข์มุนี เจ้าอาวาสวัดป่าโมกข์

ภายในโบสถ์

Location วัดป่าโมกข์วรวิหาร

ไปต่อกันเลยที่วัดที่ 2 คือ "วัดจันทรังษี"

ภายในวัดมีวิหารจัตุรมุขประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (หลวงพ่อสด จันทสโร) หล่อด้วยโลหะองค์ใหญ่สุดในโลก อีกทั้งมีสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในจังหวัดอ่างทอง

Location วัดจันทรังษี

ไม่รอช้าไปต่อกันวัดต่อไปเลยดีกว่าที่ "วัดสังกระต่าย"

วัดสังกระต่ายถือได้ว่าเป็นอีก 1 วัด Unseen ของจังหวัดอ่างทอง ด้วยตัวโบสถ์ที่เก่าแก่มีต้นโพธิ์ล้อมรอบโบสถ์ 4 ต้น ทั้งตัวโบสถ์มีสภาพทรุดโทรมและเก่าแก่ แต่ยังคงสภาพอยู่ได้เพราะได้รากของต้นโพธิ์ทั้ง 4 ต้นยึดผนังไว้ให้ติดกันอย่างแน่นหนาและตัวโบสถ์ยังไม่มีหลังคาแต่ได้ใบของต้นโพธิ์ปกคลุมจนเปรียบเสมือนหลังคาโบสถ์แทน ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างนึงที่เกิดขึ้นสำหรับวัดสังกระต่าย

ด้วยความที่เคยถูกทิ้งร้างมากว่า 100 ปี โบสถ์ก็ย่อมทรุดโทรมเป็นธรรมดา จนปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดสังกระต่ายให้เป็นโบราณสถานที่มีศิลปกรรมที่สวยงามตามธรรมชาติเอาไว้อีกด้วย

Location วัดสังกระต่าย

ออกจากวัดสังกระต่ายแล้วไปต่อกันเลยที่ "วัดต้นสน"

จุดเด่นของวัดต้นสน คือ เป็นที่ประดิษฐานของ สมเด็จพระนะวะโลกุตตะระธมมะบดีศรีเมืองทอง พระพุทธรูปองค์สำคัญประจำวัดต้นสน มีพระนามที่ยาวไพเราะ เป็นพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารขนาดใหญ่โตมากตั้งตระหง่านอยู่กลางพระอุโบสถ

นอกจากนี้ภายในวัดต้นสนยังมีจุดให้อาหารปลาและเต่า รวมถึงมีพระอุโบสถเก่าแก่อยู่ด้านหลังซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อดำ และยังมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่ริมน้ำอีกด้วย

Location วัดต้นสน

ออกจากวัดต้นสน มุ่งหน้าสู่วัดดังของจ.อ่างทองกันดีกว่า สู่ "วัดขุนอินทประมูล"

วัดขุนอินทประมูลประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่แห่งทุ่งโพธิ์ทอง วัดขุนอินทประมูลเป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย

เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารแต่ถูกไฟไหม้ปรักหักพังไปเหลือแต่องค์พระตากแดดตากฝนอยู่กลางแจ้งมานานนับเป็นร้อยๆ ปี พระพุทธไสยาสน์ที่วัดขุนอินทประมูลมีความยาวถือเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย

นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดขุนอินทประมูล ยังมีซากโบราณ สถานวิหารหลวงพ่อขาว ซึ่งเหลือเพียงฐานผนังบางส่วนและองค์พระพุทธรูป และในศาลาเอนกประสงค์ มีศาลรูปปั้นขุนอินทประมูล และโครงกระดูกมนุษย์ ขุดพบในเขตวิหารพระพุทธไสยาสน์ ลักษณะนอนคว่ำหน้า มือและเท้ามัดไพล่อยู่ด้านหลัง เชื่อกันว่าเป็นโครงกระดูกขุนอินทประมูล หากใครไปในวันเสาร์อาทิตย์จะมีตลาดขายทั้งของกินและสินค้า Otopภายในวัดอีกด้วย

Location วัดขุนอินทประมูล

ไปต่อกันอีกสัก 1 วัดก่อนจะไปคาเฟ่กัน วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดขุนอินทประมูล วัดนี้ก็คือ "วัดท่าอิฐ"

ขับรถออกจากวัดขุนอินทประมูลมาทางด้านหลัง ก็จะเห็นเจดีย์ของวัดท่าอิฐกันแล้ว เราเลยแวะจุดนี้ถ่ายรูปท้องนาที่มี Background เป็นเจดีย์กันสักหน่อย

วัดท่าอิฐสร้างเมื่อปี พ.ศ.2304 บริเวณที่ตั้งเดิมเข้าใจว่าเป็นที่ปั้นเผาอิฐนำไปก่อสร้าง วัดขุนอินทประมูล นับว่าเป็นสถานที่ขนอิฐหรือท่าขนอิฐ และเมื่อได้สร้างวัดใหม่จึงขนานนามว่าวัดท่าอิฐ พระประธานในอุโบสถชาวบ้าน เรียกว่า “หลวงพ่อเพ็ชร” พระประธานในวิหารชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างในสมัยอยุธยา ประมาณกว่า 200 ปีมาแล้ว

จุดเด่นของวัดท่าอิฐ คือ พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง ซึ่งมองเห็นมาแต่ไกลจากถนน เป็นเจดีย์รูปแบบศิลปะลังกา-อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ลักษณะเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม

Location วัดท่าอิฐ

ทำบุญกันมาแล้ว 6 วัดไปพักดื่มน้ำคลายร้อนกันที่ "มะขาม คาเฟ่" กันหน่อยดีกว่า

มานั่งดื่มกาแฟชิลๆและถ่ายรูปชิคๆคู่กับพระองค์ใหญ่ของวัดม่วง ที่มะขาม คาเฟ่กัน

ทางร้านมีสะพานไม้ที่ทอดยาวในทุ่งนากว่า 200 เมตร สะพานไม้แห่งนี้พี่เจ้าของร้านตั้งใจจะสร้างขึ้นเพื่อเป็น Landmark แห่งใหม่ของจังหวัดอ่างทอง

การตกแต่งร้านเก๋ๆสไตล์วินเทจ มีรถสามล้อให้ถ่ายรูปกันด้วย และนางแบบของเราในทริปนี้คือแม่ของเราเองก็พลาดไม่ได้สำหรับมุมนี้ ต้องขอแชะสักรูป

Location มะขามคาเฟ่

นั่งพักดื่มกาแฟคลายร้อนพอหายเหนื่อยกันแล้ว ไปต่อกันที่ "วัดม่วง" กันเลย อยู่ใกล้มะขามคาเฟ่แค่นิดเดียวเอง

“หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย

เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเมืองวิเศษชาญเคยได้เป็นเมืองหน้าด่าน ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก
การอธิษฐานจิตขอพรกับหลวงพ่อใหญ่นั้น ให้ใช้ 2 มือสัมผัสที่ปลายนิ้วกลางขององค์หลวงพ่อ แล้วตั้งใจขอในสิ่งที่ดี และให้ทำความดีตามที่ตั้งใจไว้ ก็จะสมความปรารถนา

อีกทั้งภายในวิหารแก้วมีพระพุทธรูปหล่อทองเหลืองสร้างรูปเหมือน พระเกจิอาจารย์ดังๆ ทั่วประเทศ จำนวน 50 องค์ อีกด้วย

นอกจากนี้ในวัดยังมีสวนนรก สวรรค์ แบบจำลองตัวละครในวรรณคดีไทยในหลายๆเรื่อง จัดแสดงไว้ และมีคำสอนต่างๆประกอบให้อ่านควบคู่กันไปอีกด้วย