กรุงเทพฯ ครองแชมป์ 4 ปีติด เมืองที่ต่างชาติมาเยือนมากที่สุด
05 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 16:01 น.
มาสเตอร์การ์ดเผยดัชนีเมืองจุดหมายปลายทางของโลกประจำปี 2019 กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองที่ชาวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกือบ 23 ล้านคนเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนยอดใช้จ่ายติดอันดับ 3 ของโลก
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสอบถามราคาว่าจ้างรถตุ๊กตุ๊กในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 / Mladen ANTONOV / AFP
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2562 ว่าดัชนีเมืองจุดหมายปลายทางของโลกประจำปี 2019 สำรวจโดยมาสเตอร์การ์ด เผยเผยแพร่ที่นิวยอร์กเมื่อวันพุธ ระบุว่า ปี 2561 ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติมาเยือนและพักค้างคืนในกรุงเทพฯ ถึง 22.78 ล้านคน และทำนายว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ ในปี 2562 นี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3.34%
รายงานของซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชาวจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ โดยแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมนั้นมีอาทิ พระบรมมหาราชวัง, วัดอรุณฯ และทริปท่องเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่ใช้เวลาไป-กลับใน 1 วัน
การจัดอันดับจุดหมายปลายยอดนิยมประจำปีของมาสเตอร์การ์ดนั้นพิจารณาจากจำนวนผู้มาเยือนแบบค้างคืนทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางมาทำธุรกิจ กับการจับจ่ายใช้สอย โดยสำรวจเมืองใหญ่ 200 เมืองทั่วโลก
เมืองอื่นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรองลงมาใน 10 อันดับแรกนั้นมีกรุงลอนดอนของอังกฤษ เมืองเดียวที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนและค้างคืนลดลงจากปีก่อนหน้านั้น 4%
รายงานปีนี้พบว่า จำนวนชาวต่างชาติเดินทางเยือนและพักค้างคืนในประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้นในภาพรวม โดยเพิ่ม 76% นับจากปี 2552 นอกจากนี้ เมืองในประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมากที่สุด 9.4% นับแต่ปี 2552
ด้านการใช้จ่าย นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครองอันดับหนึ่ง โดยผู้มาเยือนแบบค้างคืนใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 553 ดอลลาร์ คิดเป็นจำนวนรวมทั้งปีเกือบ 31,000 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยนครมักกะฮ์ของซาอุดีอาระเบีย มียอดใช้จ่ายรวม 20,090 ล้านดอลลาร์ และกรุงเทพฯ 20,030 ล้านดอลลาร์.
10 อันดับเมืองจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนและค้างคืนมากที่สุดในปี 2018 มีดังนี้
1. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 22.78 ล้านคน
2. กรุงปารีส ฝรั่งเศส 19.10 ล้านคน
3. กรุงลอนดอน อังกฤษ 19.01 ล้านคน
4. นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 15.93 ล้านคน
5. สิงคโปร์ 14.67 ล้านคน
6. กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย 13.79 ล้านคน
7. นครนิวยอร์ก สหรัฐ 13.60 ล้านคน
8. นครอิสตันบุล ตุรกี 13.40 ล้านคน
9. กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น 12.93 ล้านคน
10. เมืองอันตัลยา ตุรกี 12.41 ล้านคน
https://www.thaipost.net/main/detail/45073
กรุงเทพฯ แชมป์ 4 ปีซ้อน เมืองคนทั่วโลกนิยมเที่ยวมากที่สุดในโลก
กรุงเทพฯผงาด! แซงหน้าปารีส ลอนดอน ขึ้นแท่นเมืองน่าเที่ยวสุดในโลกที่สุดติด 4 ปีซ้อน
มาสเตอร์การ์ด ผู้ให้บริการทางการเงินของสหรัฐได้เปิดเผยผลการจัดอันดับ เมืองที่คนทั่วโลกนิยมท่องเที่ยวมากที่สุด (Mastercard Global Destination Cities Index) โดยปีนี้พบว่ากรุงเทพมหานคร ยังคงครองแชมป์อันดับ 1 ของเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 4
มาสเตอร์การ์ดได้จัดอันดับ 200 เมืองน่าท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวและข้อมูลการใช้จ่ายเงิน
นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวนานาชาตินิยมเดินทางเยือนแบบค้างคืนเพิ่มขึ้นทั่วโลกร้อยละ 76 แค่เฉพาะประเทศไทยตลอดปีที่ผ่านมา ไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วถึง 22.78 ล้านคน และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตอีกร้อยละ 3.3 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย และอังกฤษ เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่นิยมมาไทย
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้นักท่องเที่ยวนิยมไปคือ วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณฯ ส่วน One-day ทริป นิยมไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ส่วนกรุงปารีส และกรุงลอนดอน อยู่ในอันดับ 2 และ 3 มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 19 ล้านคนเดินทางไปเยือนตลอดปีที่ผ่านมา ตามด้วยดูไบ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ นิวยอร์ก อิสตันบูล โตเกีบว และอันตัลยา ประเทศตุรกี ตามลำดับ
โดยใน 9 เมืองในข้างต้นนี้มีอัตราการเติบโตจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี ยกเว้นกรุงลอนดอนที่มีอัตรานักท่องเที่ยวลดลงปีต่อปี เกือบร้อยละ 4% ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลพวงจากเบร็กซิต
ขณะที่หากเทียบกับดัชนีการใช้จ่ายต่อคืนของนักท่องเที่ยวนั้นพบว่า อันดับ 1 ของเมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมากสุดคือนครดูไบ เฉลี่ย 553 ดอลลาร์ต่อวัน ตามด้วยนครเมกกะ ของซาอุดิอาระเบีย ส่วนกรุงเทพอยู่ในอันดับ 3 มียอดการใช้จ่าย 187 ดอลลาร์ หรือราว 5,600 บาทต่อวัน
https://www.posttoday.com/world/599742
ส่วนยอดใช้จ่ายติดอันดับ 3 ของโลก
ตรงนี้แหละค่ะ ที่เป็นเรื่องดีสำหรับประเทศไมย
เมื่อครองแชมป์ก็มีจุดขายให้ได้โฆษณาประเทศไทยไปทั่วโลกค่ะ
เมื่อมีนักท่องเที่ยว รายได้ก็ตามมา...ให้ได้ยินดีค่ะ ไชโย !!!
💜💜💜💜มาลาริน/ท่องเที่ยวไทยมีจุดขายอีกแล้ว...กรุงเทพฯ ครองแชมป์ 4 ปีติด เมืองที่ต่างชาติมาเยือนมากที่สุด
05 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 16:01 น.
มาสเตอร์การ์ดเผยดัชนีเมืองจุดหมายปลายทางของโลกประจำปี 2019 กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองที่ชาวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกือบ 23 ล้านคนเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนยอดใช้จ่ายติดอันดับ 3 ของโลก
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสอบถามราคาว่าจ้างรถตุ๊กตุ๊กในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 / Mladen ANTONOV / AFP
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2562 ว่าดัชนีเมืองจุดหมายปลายทางของโลกประจำปี 2019 สำรวจโดยมาสเตอร์การ์ด เผยเผยแพร่ที่นิวยอร์กเมื่อวันพุธ ระบุว่า ปี 2561 ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติมาเยือนและพักค้างคืนในกรุงเทพฯ ถึง 22.78 ล้านคน และทำนายว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ ในปี 2562 นี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3.34%
รายงานของซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชาวจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ โดยแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมนั้นมีอาทิ พระบรมมหาราชวัง, วัดอรุณฯ และทริปท่องเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่ใช้เวลาไป-กลับใน 1 วัน
การจัดอันดับจุดหมายปลายยอดนิยมประจำปีของมาสเตอร์การ์ดนั้นพิจารณาจากจำนวนผู้มาเยือนแบบค้างคืนทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางมาทำธุรกิจ กับการจับจ่ายใช้สอย โดยสำรวจเมืองใหญ่ 200 เมืองทั่วโลก
เมืองอื่นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรองลงมาใน 10 อันดับแรกนั้นมีกรุงลอนดอนของอังกฤษ เมืองเดียวที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนและค้างคืนลดลงจากปีก่อนหน้านั้น 4%
รายงานปีนี้พบว่า จำนวนชาวต่างชาติเดินทางเยือนและพักค้างคืนในประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้นในภาพรวม โดยเพิ่ม 76% นับจากปี 2552 นอกจากนี้ เมืองในประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมากที่สุด 9.4% นับแต่ปี 2552
ด้านการใช้จ่าย นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครองอันดับหนึ่ง โดยผู้มาเยือนแบบค้างคืนใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 553 ดอลลาร์ คิดเป็นจำนวนรวมทั้งปีเกือบ 31,000 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยนครมักกะฮ์ของซาอุดีอาระเบีย มียอดใช้จ่ายรวม 20,090 ล้านดอลลาร์ และกรุงเทพฯ 20,030 ล้านดอลลาร์.
10 อันดับเมืองจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนและค้างคืนมากที่สุดในปี 2018 มีดังนี้
1. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 22.78 ล้านคน
2. กรุงปารีส ฝรั่งเศส 19.10 ล้านคน
3. กรุงลอนดอน อังกฤษ 19.01 ล้านคน
4. นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 15.93 ล้านคน
5. สิงคโปร์ 14.67 ล้านคน
6. กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย 13.79 ล้านคน
7. นครนิวยอร์ก สหรัฐ 13.60 ล้านคน
8. นครอิสตันบุล ตุรกี 13.40 ล้านคน
9. กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น 12.93 ล้านคน
10. เมืองอันตัลยา ตุรกี 12.41 ล้านคน
https://www.thaipost.net/main/detail/45073
กรุงเทพฯ แชมป์ 4 ปีซ้อน เมืองคนทั่วโลกนิยมเที่ยวมากที่สุดในโลก
กรุงเทพฯผงาด! แซงหน้าปารีส ลอนดอน ขึ้นแท่นเมืองน่าเที่ยวสุดในโลกที่สุดติด 4 ปีซ้อน
มาสเตอร์การ์ด ผู้ให้บริการทางการเงินของสหรัฐได้เปิดเผยผลการจัดอันดับ เมืองที่คนทั่วโลกนิยมท่องเที่ยวมากที่สุด (Mastercard Global Destination Cities Index) โดยปีนี้พบว่ากรุงเทพมหานคร ยังคงครองแชมป์อันดับ 1 ของเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 4
มาสเตอร์การ์ดได้จัดอันดับ 200 เมืองน่าท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวและข้อมูลการใช้จ่ายเงิน
นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวนานาชาตินิยมเดินทางเยือนแบบค้างคืนเพิ่มขึ้นทั่วโลกร้อยละ 76 แค่เฉพาะประเทศไทยตลอดปีที่ผ่านมา ไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วถึง 22.78 ล้านคน และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตอีกร้อยละ 3.3 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย และอังกฤษ เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่นิยมมาไทย
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้นักท่องเที่ยวนิยมไปคือ วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณฯ ส่วน One-day ทริป นิยมไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ส่วนกรุงปารีส และกรุงลอนดอน อยู่ในอันดับ 2 และ 3 มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 19 ล้านคนเดินทางไปเยือนตลอดปีที่ผ่านมา ตามด้วยดูไบ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ นิวยอร์ก อิสตันบูล โตเกีบว และอันตัลยา ประเทศตุรกี ตามลำดับ
โดยใน 9 เมืองในข้างต้นนี้มีอัตราการเติบโตจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี ยกเว้นกรุงลอนดอนที่มีอัตรานักท่องเที่ยวลดลงปีต่อปี เกือบร้อยละ 4% ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลพวงจากเบร็กซิต
ขณะที่หากเทียบกับดัชนีการใช้จ่ายต่อคืนของนักท่องเที่ยวนั้นพบว่า อันดับ 1 ของเมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมากสุดคือนครดูไบ เฉลี่ย 553 ดอลลาร์ต่อวัน ตามด้วยนครเมกกะ ของซาอุดิอาระเบีย ส่วนกรุงเทพอยู่ในอันดับ 3 มียอดการใช้จ่าย 187 ดอลลาร์ หรือราว 5,600 บาทต่อวัน
https://www.posttoday.com/world/599742
ส่วนยอดใช้จ่ายติดอันดับ 3 ของโลก
ตรงนี้แหละค่ะ ที่เป็นเรื่องดีสำหรับประเทศไมย
เมื่อครองแชมป์ก็มีจุดขายให้ได้โฆษณาประเทศไทยไปทั่วโลกค่ะ
เมื่อมีนักท่องเที่ยว รายได้ก็ตามมา...ให้ได้ยินดีค่ะ ไชโย !!!