เราเป็นคุณแม่ลูกสาม ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองเท่าไหร่ เพราะแต่ละวันงานคุณแม่ที่ต้องดูแลลูกก็หมดวันแล้ว พอลูกๆหลับก็ต้องมาดูแลสามี แต่เราก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำมาก จนวันนึงได้ไปออกงานกับสามี เห็นเพื่อนสามีควงภรรยาหุ่นสวยๆ เราเลยหันมามองตัวเองแล้วรู้สึกว่าสามีเค้าจะอายที่มี ภรรยาพุงยื่น ย้วนๆ แบบนี้มั้ย เคยถามสามี เค้าก็บอกว่าเค้าไม่อาย เพราะที่คุณหุ่นเป็นแบบนี้เพราะคุณสร้าง เบบี้มาให้ผม ( สามีเป็นคนต่างชาติค่ะ)  พอได้ยินแบบนั้นก็แอบดีใจ แต่ก็พยายามออกกำลังกายทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้ผล จึงตัดสินใจหาข้อมูล ตัดกระชับหน้าท้อง จากหลายๆที และได้คุยกับสามี ที่แรกเค้าไม่ยอมให้ทำเพราะกลัวเราจะเจ็บมาก แต่พอเราอธิบายหลายๆอย่างว่า เลือกทำกับหมอที่เป็น ศัลยแพทย์ ทำที่ รพ. ดมยาด้วยแพทย์วิสัญญี   สามีเลยยอมค่ะ
งั้นมาเริ่มกันเลย หลังจากที่ปรึกษากับคุณหมอเรียบร้อยแล้ว ก่อนผ่าตัดก็ได้ทำการตรวจสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด ว่าร่างกายเราสามารถผ่าตัดได้หรือเปล่า  หลายคนคงสงสัยว่าหน้าท้องขนาดไหนถึงต้อง ตัดไขมันหน้าท้องมันย้วยมากค่ะ
เมื่อถึงวันผ่าตัด บอกเลยว่าแอบตื่นเต้นมากค่ะ และกาผ่าตัดก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ  มารู้สึกตัวอีกที คือ อยู่ในห้องสังเกตุอาการค่ะ จะมีสายละบายเลือดคาอยู่ที่ตัวเรา 2 เส้น  แบบนี้ค่ะ
ซึ่งต้องคาสายระบายเลือดไว้ก่อน ซึ่งหมอจะมาถอดออกให้ตอนกลับบ้าน  ( นอน รพ. 2 คืนนะคะ )
หากคนเห็นแผลคงรู้สึกกลัว  แต่ส่วนตัวแผลแบบนี้เราโอเคมาก แผลจะอยู่ขอบบิกินี่  คือต่ำมากค่ะ และหมอก็เย็บแผลสวยมาก มาดูชัดๆๆหลังทำไปแรกๆ ยังเดินตัวไม่ตรงเพราะตึงแผลมาก หมอจะมีการนัดตัดไหม 2 ครั้ง คือ 7 วัน  เพื่อคลายไหมไม่ให้ตึง กับ 14 วัน ตัดไหมออกหมด
มาดูผลหลัง ตัดไขมันหน้าท้อง 14 วัน เริ่มยืนตัวตรง
หลายคนถามว่าหลังทำมีข้อห้ามอะไรบ้าง  หลักๆๆ คือ ห้ามยกของหนัก กินอะไรได้ปกติ สรุปคือก็ยังทำกับข้าวให้ลูก กับสามีได้ตามปกติ
หากถามว่าได้อะไรจากการรีวิววันนี้  บอกเลยว่าไม่ได้เลย แถมเสียเงินเต็มไม่มีส่วนลด แต่เพราะตัวเองเคยพยายามหารีวิวเรื่อง ตัดไขมันหน้าท้อง แต่ไม่ค่อยเห็น ซึ่งอยากให้คนที่มีปัญหาเหมือนกันได้รับรู้ คุณแม่ที่มีปัญหาเดียวกัน แนะนำ ตัดกระชับหน้าท้อง บอกเลยว่าไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด หากเราเลือกทำกับศัลยแพทย์  ทำที่ รพ. มีแพทย์วิสัญญีดมยา ความปลอดภัยของเราจึงต้องมาก่อนค่ะ  สนใจหลังไมค์มาคุยกันได้ค่ะ