ส่วนตัวผมเองไม่รู้สึกอะไร เพราะโดยส่วนตัวแล้วก็สูบบุหรี่เช่นกัน แต่ในฐานะ HR ก็จะไปสูบ
ในช่วงเวลาพักเบรกกับลูกพี่คนญี่ปุ่น ครั้งละ 10 นาที (ช่วงพักเบรก 10 โมงเช้า กับ บ่าย 3)
ส่วนคนอื่นๆ ที่ไปสูบในเวลางาน ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าบริษัทไม่มีกฎห้าม ก็สามารถทำได้
อาจจะเทียบกับ คนที่ดื่มกาแฟในเวลางาน หรือคนที่เข้าห้องน้ำนานๆ เล่นโทรศัพท์ไปด้วย
แต่ก็มีคนไม่สูบบุหรี่บางคน มาบ่นกับผมว่า พวกเขารู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ ทั้งเอาเปรียบ
เพื่อนร่วมงานและเอาเปรียบบริษัทด้วย คนพวกนี้อาจจะใช้เวลาสูบบุหรี่ 5-10 นาทีต่อครั้ง
รวมๆ แล้ววันละ 30 นาทีได้เลย แล้วปีนึงเขาโกงเวลาบริษัทไปกี่ชั่วโมง แถมยังเหม็นปาก
รบกวนคนอื่นอีก
พวกเราสายควันทั้งหลายอาจจะเถียงว่า เฮ้ย ผมสูบไปคุยงานไปนะจ้า หรือสูบแล้วหัวโล่ง
คิดงานได้ดี หรือสูบแล้วงานเดิน เพราะคนที่ไถบุหรี่เรา เขาเร่งงานให้ อะไรก็ว่ากันไป
ผมในฐานะแรงงานสัมพันธ์ ผมรับฟังทั้งเสียงส่วนน้อยและเสียงส่วนมาก ถ้าผมออกประกาศ
ให้พนักงานสูบบุหรี่ได้เฉพาะเวลาพัก จะถูกแอนตี้ จากสายควันไหม หรือเขาจะเข้าใจไหม
พวกที่สูบบุหรี่ในเวลางานวันละหลายครั้ง เคยรู้สึกบ้างไหมว่าเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานคนอื่นอยู่
ในช่วงเวลาพักเบรกกับลูกพี่คนญี่ปุ่น ครั้งละ 10 นาที (ช่วงพักเบรก 10 โมงเช้า กับ บ่าย 3)
ส่วนคนอื่นๆ ที่ไปสูบในเวลางาน ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าบริษัทไม่มีกฎห้าม ก็สามารถทำได้
อาจจะเทียบกับ คนที่ดื่มกาแฟในเวลางาน หรือคนที่เข้าห้องน้ำนานๆ เล่นโทรศัพท์ไปด้วย
แต่ก็มีคนไม่สูบบุหรี่บางคน มาบ่นกับผมว่า พวกเขารู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ ทั้งเอาเปรียบ
เพื่อนร่วมงานและเอาเปรียบบริษัทด้วย คนพวกนี้อาจจะใช้เวลาสูบบุหรี่ 5-10 นาทีต่อครั้ง
รวมๆ แล้ววันละ 30 นาทีได้เลย แล้วปีนึงเขาโกงเวลาบริษัทไปกี่ชั่วโมง แถมยังเหม็นปาก
รบกวนคนอื่นอีก
พวกเราสายควันทั้งหลายอาจจะเถียงว่า เฮ้ย ผมสูบไปคุยงานไปนะจ้า หรือสูบแล้วหัวโล่ง
คิดงานได้ดี หรือสูบแล้วงานเดิน เพราะคนที่ไถบุหรี่เรา เขาเร่งงานให้ อะไรก็ว่ากันไป
ผมในฐานะแรงงานสัมพันธ์ ผมรับฟังทั้งเสียงส่วนน้อยและเสียงส่วนมาก ถ้าผมออกประกาศ
ให้พนักงานสูบบุหรี่ได้เฉพาะเวลาพัก จะถูกแอนตี้ จากสายควันไหม หรือเขาจะเข้าใจไหม