[ตอนที่ 20/24] "เมื่อผมคิดว่าตัวเองเป็นไข้ แต่รู้ตัวอีกทีว่ากำลังจะตายจากโรคหัวใจล้มเหลว"

ตอนที่ 20 : “การฟื้นตัวและไตรโฟลว์มิเตอร์”
——————————————
บทความรีวิว โรงพยาบาลพิษณุเวช, พิษณุโลก
หัวข้อ : 'เมื่อผมคิดว่าตัวเองเป็นไข้ แต่มารู้ตัวอีกทีว่ากำลังจะตายเพราะหัวใจล้มเหลว’

คืนแรกหลังผ่าตัดที่ผ่านไป....
.....ให้ความรู้สึกที่ย่ำแย่มาก

ผมถูกสังเกตการณ์ตลอด 48 ชั่วโมงแรก...
....โดยพยาบาลถึงสองคน

การลุกขึ้นนั่ง เป็นเรื่องยากสุดๆ
ดังนั้นนั่งฉี่ไม่ได้ มีสายสวนเอา

ตอนแรกก็กลัวจะเจ็บไหมที่ใส่สายสวน
เพราะตรงนั้นมันเป็นทางออก
ไม่ใช่ทางเข้าซะหน่อย

สรุปก็งั้นๆ ไม่ค่อยเจ็บ
แค่เสียวๆ

อาบน้ำเองไม่ได้เลย
พยาบาลต้องมาจัดการ

เช็ดตัวโดยการแก้ผ้า
....เช็ดล้างอะไรบ้างคงไม่ต้องบอก

พยาบาลบางคนงดงามนุ่มนวล
...เช็ดไปก้มหน้าไป

ทำเป็นเอาผ้าปิดเป้าให้เรา
...ตอนนอนพลิก
...ทั้งที่น่าจะเห็นกันจนเบื่อแล้ว

บางคนมาฮาร์ดคอร์เลย
...เช็ดรูดขึ้นรูดลง
ตรงสายสวนปัสสาวะอยู่นั่น

แต่ว่าอยากทำอะไรกันก็ตามสบาย
....แรงจะอายก็ไม่มีอยู่แล้ว

ขัดถู
และสไลด์ได้ตามอัธยาศัย

จะดีนะถ้าสระผมด้วย...
นั่นคงจะเยี่ยมเลย
(ได้สระในวันถัดมา ขอบคุณครับ)

ว่าแต่
...ทำทั้งหมดบนเตียงกันได้ยังไง

น่าสนใจไม่น้อย

......

เคยถามพยาบาลในวอร์ดว่า

ถ้าปวดอึ
....ต้องทำยังไงครับ

พยาบาลบอกอึบนเตียงได้เลยค่ะ
....มีกระโถนให้

ผมยอมท้องผูกไปแบบนี้ดีกว่า

.........

มีเรื่องน่ากังวลมากมาย
....ในช่วงเวลาวิกฤต

เช่น อาการไข้มาเยือนเป็นระยะ....
จากความปวด

หรือระดับการเต้นของหัวใจที่สูงลิบ
...ระดับ 120-130 ครั้งต่อวินาที...
แบบพยาบาลต้องไลน์คุยกับหมอ
....เพื่อหายามาทำให้สงบ

ราวกับว่าวิ่งร่วมอยู่กับพี่ตูน
....ในขณะที่นอนพะงาบอยู่ที่เตียง

เป็นที่มาของยาลดความดัน
และมอร์ฟีนนั่นเอง

........

ไอ้การนอนหลับพักผ่อนนิ่งๆ.....
....ท่ามกลางสายไฟและสายต่างๆเต็มตัว

มันก็น่าจะดี
.......นอนรอยาแก้ปวดไปวันๆ

แต่แพทย์หญิงสิริขวัญ
.....เธอไม่คิดแบบนั้น

การมาราวน์ที่นับเป็บบทบาทช่วงต่อ...
ตั้งแต่หลังวันที่ 16 สิงหาคมเป็นต้นมา
จนถึงวันนี้ 19 สิงหาคม

เป็นสัญญาณที่บอกว่า
....ผมต้องเริ่มมีกิจกรรมบ้างได้แล้ว

เช่น มีนักกายภาพ
....ถูกส่งมาเป็นระยะๆ
เพื่อสอนการหายใจไม่ให้ปอดแฟ่บ

มีการสอนการลุกนั่งยังไง
.....ไม่ให้ทรมาน

หรือจะไอยังไง
.....ให้เจ็บหน้าอกน้อยที่สุด

ก็มีประโยชน์อ่ะนะ
สาระล้วนๆ
แต่ร่างกายไม่ไปเลย

ต้องบอกว่าทรมานมากจริงๆ
......ที่ต้องเริ่มขยับหลังจากผ่าตัดใหญ่

อยากนอนหลับก็อยาก
.....หาวใส่นักกายภาพก็บางครั้ง

.........

นักกายภาพเริ่มถูกส่งมา....
....ถี่มากยิ่งขึ้นในแต่ละวัน

พวกเขาเป็นคนบุคลิกดี... มีพลังงานสูง...

พร้อมที่จะพาผู้ป่วยออกไปวิ่งห้าร้อยเมตร
.....แล้วกลับมาแบบชิลๆ
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขัดกับผม...
....ที่แม้แต่การฉี่

ยังทำได้แค่นอนเกร็งเฉยๆบนเตียง....
....ปล่อยไหลไป
ผ่านสายสวนปัสสาวะ

แบบไม่เห็นวี่แววจะฟื้นตัวอะไร

......

เหตุการณ์ในวันต่อมา....

ผมถูกสอนให้เริ่มกระดกเท้าข้างเตียง....
ยกเข่าไปมา.... กำบีบฝ่ามือต่อเนื่อง....
ด้วยสีหน้าเมายาแก้ปวดสุดง่วง

จบเซ็ต....
...นักกายภาพของเราก็จากไป

พร้อมความโล่งใจ
ของผมเนี่ยแหล่ะ

ไปกันได้เสียที

.......

วันต่อมา....
.....เริ่มมีการพาเดินรอบวอร์ดไอซียู
....ชื่นชมบรรยากาศวิกฤตโดยรอบ

เห็นเลยว่า....
...เตียงอื่นสาหัสกว่าเราเยอะแยะ

รีบๆแข็งแรง
....แล้วออกไปจากที่นี่กันเถอะนะ

นั่นอาจจะเป็นจิตวิทยาก็ได้มั้ง

......

นอกจากนี้ก็ยังมีของเล่นทดสอบปอด
เรียกชื่อง่ายๆว่า ‘ไตรโฟลว์มิเตอร์’...

เป็นของเล่นที่มีช่องสำหรับดูด...
....เพื่อย้อนลมให้ลูกบอลสามสี
ในร่องของเครื่องนั้นลอยขึ้น

ใช้แรงปอดดูดได้มาก
บอลก็ลอยขึ้นมาก

มากที่สุดคือลอยทั้งหมดสามลูก
.....ซึ่งทำเอาหน้ามืดวิงเวียนแน่นอน
ถ้าร่างกายยังเป็นแบบนี้

ลองดูดครั้งแรก
.....ลูกเดียวยังไม่ค่อยขึ้น

แถมจะอ้วกอีก

เดี๋ยวเถอะๆ....
.....ร่างกายตอนนี้ผมกำลังขับเสมหะ

...เสมหะออกหมดเมื่อไหร่
...ปอดโล่งกว่านี้เมื่อไร
...ได้น้ำเข้าไปพยุงเซลล์เมื่อไร

จะดูดให้ถึงสามลูกเลยคอยดูสิ

.....

หลังๆมา
....ไอ้เครื่องนี้ก็ถูกวางไว้ข้างเตียง
ไม่ค่อยได้ดูดเท่าไร

ซึ่งที่ไม่ดูด
....ก็เพราะบรรลุอรหันต์สามลูกแล้ว

........

ของเล่นชิ้นนี้
วางไว้ยังไงมันก็อยู่อย่างนั้น
ไม่เหมือนกริ่งเรียกพยาบาลนะครับ
อันนั้นทรยศคนป่วยมาก

ต้องการทีไร
หายไปอยู่มุมห้องทุกที

ต้องมาดูดไอ้เครื่องอะไรนี่ตอนยังไม่พร้อม เพราะกลัวปอดแฟ่บ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่