ไม่ใช่แค่ไทยที่มีปัญหาเมืองหลวงทรุด แต่เมืองหลวงของอินโดนีเซีย, จากาต้า ด้วยเหมือนกัน
ด้วยการที่เมืองขยายใหญ่มากจนทำให้มีปัญหาน้ำประปาไม่พอใช้ทำให้ชาวบ้านในแหล่งที่น้ำประปาเข้าไม่ถึงต้องใช้น้ำบาดาลแทน ด้วยจำนวนประชากรที่เยอะ นั่นทำให้เกิดปัญหา
เมื่อน้ำบาดาลถูกใช้เป็นจำนวนมากทำให้แผ่นดินเริ่มทรุดตัวลงมา บางแห่งทรุดตัวลง 25 เซนติเมตรต่อปี ทำให้บางจุดมีน้ำทะเลซึมเข้ามาจากพื้น
รัฐบาลได้สร้างเขื่อนกั้นชายฝั่งที่ต่ำกว่าน้ำทะเล แต่นั่นก็ไม่สามารถกันได้ทั้งหมด มีน้ำทะเลได้ไหลซึมเข้ามาในบางจุด ทำให้พื้นที่แถวนั้นมีน้ำทะเลเจิ่งนองไม่มีแห้ง
และเมื่อพายุพัดเข้ามาก็ทำให้พื้นที่แถบนั้นเกิดน้ำท่วม มีการคาดการณ์ว่าในปี 2050 พื้นที่บางส่วนของเมืองจะอยู่ใต้น้ำ
อนาคตอินโดนีเซียมีแผนจะย้ายเมืองหลวงไปที่อื่น แต่เมื่อจาการ์ต้าไม่ใช่เมืองหลวงแล้ว งบที่ส่งลงมาก็น่าจะน้อยลง แล้วไม่รู้ปัญหานี้จะแก้ได้ยังไงในเมื่อดินมันทรุดไปแล้ว
ปัญหานี้ไทยอาจจะเจอเหมือนกันก็ได้ในอนาคต ถ้ากรุงเทพทรุดตัวลงไปเรื่อยๆ และที่ว่าให้สร้างกำแพงกั้นน้ำทะเล เมื่อสร้างมาแล้วมันจะเป็นยังไง
ที่เขียนมาดูได้จากคลิปนี้ครับ จะเห็นภาพเลย
จาการ์ต้าเมืองที่กำลังจมน้ำ
ด้วยการที่เมืองขยายใหญ่มากจนทำให้มีปัญหาน้ำประปาไม่พอใช้ทำให้ชาวบ้านในแหล่งที่น้ำประปาเข้าไม่ถึงต้องใช้น้ำบาดาลแทน ด้วยจำนวนประชากรที่เยอะ นั่นทำให้เกิดปัญหา
เมื่อน้ำบาดาลถูกใช้เป็นจำนวนมากทำให้แผ่นดินเริ่มทรุดตัวลงมา บางแห่งทรุดตัวลง 25 เซนติเมตรต่อปี ทำให้บางจุดมีน้ำทะเลซึมเข้ามาจากพื้น
รัฐบาลได้สร้างเขื่อนกั้นชายฝั่งที่ต่ำกว่าน้ำทะเล แต่นั่นก็ไม่สามารถกันได้ทั้งหมด มีน้ำทะเลได้ไหลซึมเข้ามาในบางจุด ทำให้พื้นที่แถวนั้นมีน้ำทะเลเจิ่งนองไม่มีแห้ง
และเมื่อพายุพัดเข้ามาก็ทำให้พื้นที่แถบนั้นเกิดน้ำท่วม มีการคาดการณ์ว่าในปี 2050 พื้นที่บางส่วนของเมืองจะอยู่ใต้น้ำ
อนาคตอินโดนีเซียมีแผนจะย้ายเมืองหลวงไปที่อื่น แต่เมื่อจาการ์ต้าไม่ใช่เมืองหลวงแล้ว งบที่ส่งลงมาก็น่าจะน้อยลง แล้วไม่รู้ปัญหานี้จะแก้ได้ยังไงในเมื่อดินมันทรุดไปแล้ว
ปัญหานี้ไทยอาจจะเจอเหมือนกันก็ได้ในอนาคต ถ้ากรุงเทพทรุดตัวลงไปเรื่อยๆ และที่ว่าให้สร้างกำแพงกั้นน้ำทะเล เมื่อสร้างมาแล้วมันจะเป็นยังไง
ที่เขียนมาดูได้จากคลิปนี้ครับ จะเห็นภาพเลย