ถ้าคิดในตำแหน่งของเผ่าพันธุ์เรามนุษย์เราเป็นจุดสูงสุดของหวงโซ่อาหาร สิ่งที่จะสามารถลดและควบคุมประชากรของเราคงมีแค่การทำสงครามของมนุษย์ด้วยกันเองหรือไม่ก็แก่ตายตามอายุขัย ซึ่งปัจจัยทั้งสองอย่างนี้มันก็ไม่สามารถฉุดรั้งประชากรมนุษย์ไม่ให้เพิ่มขึ้นจากไม่กี่ล้านคนเป็นเจ็ดพันล้านคนในปัจจุบันได้เลย
ในตอนนี้ถ้าไม่นับพวกสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังมนุษย์เราเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการสูญพันธ์น้อยที่สุดและประชากรก็คงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากขาดผู้ล่าทางธรรมชาติ
แต่!! เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้มนุษย์เองก็เริ่มมีอัตราการเจริญพันธุ์ต่ำลงๆเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุที่พอคุณภาพชีวิตดีขึ้นประชาชนก็อยากที่จะคงคุณภาพนั้นเอาไว้ จึงพยายามสร้างฐานะให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ต้องการความพร้อมมากขึ้นก่อนจะมีลูก ต่างกับประเทศที่มีคุณภาพชีวิตน้อยกว่าที่แค่มีที่นาและบ้านเช่าก็ถือว่า “เป็นสิ่งที่พร้อมมากๆ” ที่จะมีลูกแล้ว และจำนวนเด็กที่ต้องการมีก็มีมากกว่าครอบครัวของประเทศที่มี gdp ต่อหัวประชากรสูงอย่างเห็นได้ชัด (คล้ายๆกับคำว่า “พร้อม” ของเด็กสอบโอลิมปิกกับเด็กธรรมดาน่ะ ยิ่งสังคมเจริญมากขึ้นเท่าไรมาตรฐานของคนและการแข่งขันเพื่อคงมาตรฐานนั้นไว้จะยิ่งสูงขึ้น คำว่า “ทำได้ไม่ดี” ของเด็กโอลิมปิกก็เหมือนบอกว่าสังคมอยู่ยากซึ่งต่างจาก “ทำได้ไม่ดี” ของเด็กธรรมดาซึ่งแค่ได้คะแนน 50% ก็ถือว่าทำดีมากแล้ว”
จากผลของอัตราเกิดที่ลดลงมีการคาดการว่าประชากรมนุษย์ในอนาคตจะลดลงและไม่ใช่ลดลงแบบธรรมดาๆ เพราะจะลดลงเป็นแบบอัตราเร่าด้วย ในประเทศไทยเราก็เริ่มที่จะถึงยุคนั้นเช่นกัน
ดังนั้นความกังวลที่ว่าประชากรมนุษย์จะล้นโลกจึงเป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะประเทศโลกที่หนึ่งก็มีอัตราเกิดต่ำมากๆส่วนประเทศที่สามก็กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆและมีอัตราเกิดลดลงเช่นกัน
บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นการรักษาสมดุลของธรรมชาติที่ใช้กับเผ่าพันธุ์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของหวงโซ่อาหารรึเปล่า ผมก็ไม่รู้แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์เรากำลังจะถึงช่วงขาลงองประชากรละและปัญหาประชากรล้น (overpopulation) ที่ธานอสกลัวคงไม่มีทางแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว และอาจจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆจากประชากรมนุษย์ที่ลดลง
สรุปแล้วที่ลุงธานอสแกพยายามบากบั่นไปเพื่อเก็บ stone ทั้ง 6 เม็ด อาจจะเสียเปล่าก็ได้ ยกเว้นแกจะเปลี่ยนใจดีดนิ้วให้ประชากรหายหมดทั้งจักรวาลแทน 5555
ปล. ไม่แน่ในอนาคตอีกพันๆปีโลกเราอาจเป็นยุคของAI แอนดรอยด์อย่างเช่นในDetroit: became human ครองโลกแทนเราก้ได้55555
ดูจากอัตราเกิดทั่วโลก ผมว่าถึงไม่ต้องมีธานอส ประชากรมนุษย์ก็คงไม่ล้นโลกแล้วล่ะ เห็นด้วยรึเปล่าครับ?
ในตอนนี้ถ้าไม่นับพวกสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังมนุษย์เราเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการสูญพันธ์น้อยที่สุดและประชากรก็คงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากขาดผู้ล่าทางธรรมชาติ
แต่!! เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้มนุษย์เองก็เริ่มมีอัตราการเจริญพันธุ์ต่ำลงๆเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุที่พอคุณภาพชีวิตดีขึ้นประชาชนก็อยากที่จะคงคุณภาพนั้นเอาไว้ จึงพยายามสร้างฐานะให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ต้องการความพร้อมมากขึ้นก่อนจะมีลูก ต่างกับประเทศที่มีคุณภาพชีวิตน้อยกว่าที่แค่มีที่นาและบ้านเช่าก็ถือว่า “เป็นสิ่งที่พร้อมมากๆ” ที่จะมีลูกแล้ว และจำนวนเด็กที่ต้องการมีก็มีมากกว่าครอบครัวของประเทศที่มี gdp ต่อหัวประชากรสูงอย่างเห็นได้ชัด (คล้ายๆกับคำว่า “พร้อม” ของเด็กสอบโอลิมปิกกับเด็กธรรมดาน่ะ ยิ่งสังคมเจริญมากขึ้นเท่าไรมาตรฐานของคนและการแข่งขันเพื่อคงมาตรฐานนั้นไว้จะยิ่งสูงขึ้น คำว่า “ทำได้ไม่ดี” ของเด็กโอลิมปิกก็เหมือนบอกว่าสังคมอยู่ยากซึ่งต่างจาก “ทำได้ไม่ดี” ของเด็กธรรมดาซึ่งแค่ได้คะแนน 50% ก็ถือว่าทำดีมากแล้ว”
จากผลของอัตราเกิดที่ลดลงมีการคาดการว่าประชากรมนุษย์ในอนาคตจะลดลงและไม่ใช่ลดลงแบบธรรมดาๆ เพราะจะลดลงเป็นแบบอัตราเร่าด้วย ในประเทศไทยเราก็เริ่มที่จะถึงยุคนั้นเช่นกัน
ดังนั้นความกังวลที่ว่าประชากรมนุษย์จะล้นโลกจึงเป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะประเทศโลกที่หนึ่งก็มีอัตราเกิดต่ำมากๆส่วนประเทศที่สามก็กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆและมีอัตราเกิดลดลงเช่นกัน
บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นการรักษาสมดุลของธรรมชาติที่ใช้กับเผ่าพันธุ์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของหวงโซ่อาหารรึเปล่า ผมก็ไม่รู้แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์เรากำลังจะถึงช่วงขาลงองประชากรละและปัญหาประชากรล้น (overpopulation) ที่ธานอสกลัวคงไม่มีทางแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว และอาจจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆจากประชากรมนุษย์ที่ลดลง
สรุปแล้วที่ลุงธานอสแกพยายามบากบั่นไปเพื่อเก็บ stone ทั้ง 6 เม็ด อาจจะเสียเปล่าก็ได้ ยกเว้นแกจะเปลี่ยนใจดีดนิ้วให้ประชากรหายหมดทั้งจักรวาลแทน 5555
ปล. ไม่แน่ในอนาคตอีกพันๆปีโลกเราอาจเป็นยุคของAI แอนดรอยด์อย่างเช่นในDetroit: became human ครองโลกแทนเราก้ได้55555