ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ชาวนา
แต่ที่บ้านก็ทำนาทุกปีค่ะ
มี 2 แปลง แปลงนึงทำนาข้าวจ้าวทั้งหมด
อีกแปลง แบ่งทำข้าวเหนียวครึ่งนึง
ชาวนาที่ชุมชนแถวนี้ก็คล้ายๆกัน
คือทำนาข้าวเหนียวนิดหน่อยไว้สำหรับบริโภคในครัวเรือน แต่ส่วนใหญ่ก็จะกินข้าวจ้าวนะ
ข้าวจ้าวจะเน้นทำขายและเก็บไว้กิน
  ทุกยุคทุกสมัยรัฐบาลก็ช่วยหมด
คงไม่เฉพาะชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน
ไม่ว่าจะประกันราคา จำนำข้าว
ช่วยค่าส่วนต่างหรือภัยแล้งต่างๆ
    ปีนี้แล้งมาก ข้าวตายหมดทั้ง 2 แปลงน้ำในบ่อที่เก็บไว้ก็ไม่เพียงพอ จึงยังไม่นำข้าวในยุ้งมาขาย เก็บไว้กินดีกว่า
   ปลายปีตนเองและครอบครัวก็อยากเพิ่มปริมาณที่เก็บน้ำ โดยการขุดบ่อน้ำเพิ่มในที่นา จะขุดเจาะน้ำบาดาล แต่ช่างมาดูแล้วบอกว่าเค็มมากจนขมคอ
เลยพักไปก่อน บางที่เขาเจาะน้ำได้ก็โชคดีไป
    ยุครัฐบาลลุงตู่ ก็ต้องขอบคุณคงเป็นเรื่องนาอินทรีย์ ที่ตอนนี้คนในชุมชนก็ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 แล้ว มีอบรมบ่อยๆ นอกจากจะลดต้นทุนค่าปุ๋ยแล้ว ชาวนาและคนไทย
ผู้บริโภค จะได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น แม้ว่าข้าวจะได้ผลผลิตน้อยลง แต่ก็จะสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น 
   หากรัฐช่วยการบริหารจัดการน้ำ ระบบชลประทานในนาข้าว คงจะใช้งบมหาศาล และเป็นไปได้ยาก เพราะพื้นที่เกษตรในไทยก็เยอะมาก
ถ้ารัฐจะแบ่งและควบคุมโซนพื้นที่เพาะปลูกแบบบางประเทศ ก็คงจะไม่ได้อีก
เกษตรกรก็คงไม่ยอมเปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่นง่ายๆ
   สำหรับตนเอง คิดว่าชาวนาต้องพึ่งพาตัวเองให้มากตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของร.9 นั่นล่ะ
และระบบน้ำสำคัญที่สุด อยากให้ชาวนานำเงินที่รัฐช่วยเหลือหลายหมื่นบาท/ปี ไปขุดเจาะน้ำบาดาล+ปั๊มน้ำโซลาร์เซลล์
และขุดบ่อน้ำในนาเพิ่มขึ้น
แต่หลายคนจะกลัวเปลืองพื้นที่ทำนาข้าว ก็ไม่ขุดบ่อน้ำ จะรอแต่น้ำฝนอย่างเดียว

  หากรวมกลุ่มกัน มีโรงสีเล็ก ขายข้าวเอง โดยมีเกษตรอำเภอหรือผู้นำในชุมชนคอยดูแลแนะนำ
หรือช่วยหาตลาดให้
ไม่ต้องช่วยโดยแทรกแซงราคา
หรืออุ้มไปตลอด
  รวมถึงการส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เรียนด้านเกษตร เทคโนโลยีการแปรรูปอะไรพวกนี้เยอะๆ 

   แล้วถ้าคุณเป็นนายกหรือรมต. จะดำเนินการอย่างไรเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมเกษตรกรไทย
(โดยเฉพาะชาวนา เพราะมีผลโดยตรงต่อคนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องบริโภคข้าวทุกวัน)​