สรุปหนังสือความรุ่งเรืองของเงินตรา ตอนที่ 0 ทำไมเราต้องศึกษาประวัติศาสตร์ของเงิน
เคยสงสัยกันไหมครับ เงินคืออะไร มีบทบาทยังไง ทำไมคนเราต้องแสวงหาเงินกันทุกวันและในโลกทุกวันนี้แม่แต่กระทั่งตามประวัติศาสตร์ในอดีต ความวุ่นวายของสังคมโลก เศรษฐกิจของโลกที่เจริญรุ่งเรืองหรือเสื่อมถอยทุกๆครั้งก็มีความเกี่ยวข้องกับเงิน
หนังสือความรุ่งเรืองของเงินตราเล่มนี้จะเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการของเงินตั้งแต่ยุคอดีตเมื่อพันปีที่แล้วจนถึงปี 2008 ที่อเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤต Hamburger Crisis ที่ทำให้ระบบการเงินของอเมริกาพัง ธนาคารหลายๆธนาคารล้มละลายเช่น ลีแมนบาร์เธอร์ คนหลายตกงาน ครอบครัวแตกสลาย เกิดโศกนาฎกรรมมากมาย แต่ในโลกใบนี้เหมือนมีคนเสียผลประโยชน์ ก็จะมีคนได้ประโยชน์ และคนได้ประโยชน์ก็จะสะสมเงินและความมั่งคั่งมากขึ้น จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างฐานะ คำถามที่สำคัญคือ ทำไมคนรวยหรือนักการธนาคารถึงมีรายได้ ประมาณ 1–3000 ล้านเหรียญดอลล่าร์ต่อปี ในขณะที่บางคนในทวีปแอฟาริกามีรายได้ 1 USD ต่อวัน
โลกเราทำไมไมยุติธรรมขนาดนี้?
ทำไมการเกิดวิกฤตสมัยใหม่ทุกๆครั้งต้นเหตุจะมาจากธนาคารและคนรวยๆมีความรู้และเมื่อเกิดวิกฤตการเงินคนที่โดนผลกระทบมากที่สุดก็ไม่พ้นคนทั่วไปไม่ใช่ธนาคารหรือคนรวยๆที่คุมระบบการเงินโลก เพราะรัฐบาลของแต่ละประเทศจะเข้ามาอุ้มช่วยเหลือทุกๆครั้งเมื่อมีวิกฤต สาเหตุที่สำคัญที่จะตอบคำถามนี้ได้คือ ความรู้ทางการเงิน คนส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกสอนให้เรียนรู้ระบบการเงินและกลไกทางการเงิน
ระบบการเงินและกลไกทางการเงินซับซ้อนและยากทำความเข้าใจ เนื่องจากเกี่ยวกับคนหมู่มากทั่วโลกและความไม่รู้ จิตวิทยา พฤติกรรมอารมณ์ของมนุษย์ มันต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ และถ้ามีใครเข้าใจระบบการเงินเป็นอย่างดีพวกเขาจะสามารถทำกำไรและความร่ำรวยจากช่องว่างของระบบการเงินได้
เกือบทุกคนในวัยเด็กถูกสอนมานานว่าเงินตราเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย สามารถเปลี่ยนคนดีกลายเป็นคนละโมบโลภ เห็นแก่ตัวได้ การปล่อยดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้คือสิ่งที่ทำลายทางอ้อมของมนุษย์ทำให้ลูกหนี้มีความทุกข์ทรมานจากการหาเงินมาใช้หนี้
ดั่งสุภาษิตไทยที่บอกว่า การปล่อยดอกเบี้ยคือการทำนานบนหลังคน
แต่หนังสือเล่มนี้ให้แง่มุมอีกมุมหนึ่งว่า เงินตราไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เมื่อมันมีข้อเสีย มันก็ต้องมีข้อดีซึ่งข้อดีของเงินคือ การพัฒนา
โลกเราสามารถพัฒนาได้เร็วเพราะเงินตรา
เมื่อสมัยพันปีก่อนเวลาเราอยากจะได้อะไรที่เราไม่ได้ผลิต เราก็ต้องเอาสิ่งของที่เราผลิตไปแลกกับคนอื่น เช่น เราทำไร่ปลูกข้าวและเราอยากได้วัวม้ามาเลี้ยง เราก็ต้องเอาข้าวไปแลก โดยทำการตกลงกับคนขายวัวม้าว่าจะใช้ข้าวกี่เกวียนในการแลกซึ่งมันยุ่งยากและเสียเวลา
เงินตราถือกำเนิดมาเพื่อสิ่งนี้ เงินตราจะช่วยลดเวลาในการส่งมอบสิ่งของ ทำตัวเป็นที่เก็บมูลค่าของสิ่งของ พกพาง่าย สามารถแลกเปลี่ยนได้ทั่วไป เมื่อคนเรามีการแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น การพัฒนาเมืองหรือสังคมก็ตามมาอย่างรวดเร็ว ลองจินตนาการดูกันนะครับ ถ้าเราไม่มีเงินเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนระบบเทคโนโลยีหรือสังคมวัตถุจะช้าขนาดไหน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าไม่มีเงินเป็นตัวกลาง เราปลูกข้าว แต่คนสร้างบ้านเราไม่อยากได้ข้าวแลกเปลี่ยน เราจึงต้องหาคนที่พร้อมแลกข้าวของเรา เช่นคนเลี้ยงวัว เมื่อเราแลกวัวได้ และคนสร้างบ้านก็ยังไม่ได้อยากได้วัว เราต้องเอาวัวไปแลกกับคนอื่นๆ จนกว่าจะพอใจคนสร้างบ้าน
ฟังดูแล้วเหนื่อยและสิ้นเปลืองทรัพยากรไหมครับ แต่ถ้าเรามีเงินเป็นตัวกลางกำหนดมูลค่า เราก็สามารถขายข้าวเป็นเงิน นำเงินมาแลกบ้านได้ตรงๆเลยครับ
การพัฒนาเมืองและเทคโนโลยีของมนุษย์ถึงเติบโตได้ไวมาก
อันที่จริงเงินตราหรือทองคำไม่ได้มีมูลค่าของตัวเอง จะเปรียบเสมือนตั๋วจำนำโดยใช้ความน่าเชื่อของผู้ครองนครในสมัยก่อนหรือรัฐบาลในสมัยใหม่ มันขึ้นอยู่กับว่าความน่าเชื่อของแต่ละฝ่ายมีความน่าเชื่อกันขนาดไหนในการตกลงแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน ยกตัวอย่างเช่น เวเนซุเอล่าตอนนี้ รัฐบาลไม่มีความน่าเชื่อถือในสายตาของคนทั้งโลก เงินของเวเนซุเอล่าก็กลายเป็นกระดาษ ซึ่งขนาดที่ว่าต้องใช้เงินจำนวนมากๆเพื่อซื้อชำระเช็ดก้น
ตอนนี้ระบบการเงินซับซ้อนขึ้นมากเรื่อยๆ มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่โดนเล่นแร่แปรธาตุจากผู้คุมระบบการเงินเช่นธนาคารออกมามากมาย เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตเมื่อระบบการเงินของโลกมีช่องโหว่ให้โจมตี จะมีคนบางพวกที่พร้อมจะหากำไรจากช่องโหว่ของระบบการเงินทุกๆครั้ง ทำให้การเรียนรู้ทางการเงินและระบบทางการเงินจึงจำเป็นต่อมนุษย์เรามากๆ เราทุกคนควรเรียนรู้เพื่อป้องกันตัวเองเวลาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ดั่งเช่น สุภษาภิตที่บอกว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเสมอ
ตอนนี้ผมเริ่มสรุปได้หลายบทในเพจของผมนะครับ
กด Like Share See first ในเพจได้เพื่อไม่ให้พลาดทุกๆบทความนะครับ
https://www.facebook.com/pg/merchantetrader/photos/?tab=album&album_id=737010890089237&__xts__%5B0%5D=68.ARAd_3hSyqa0VqsucryHo31xoJh8watepUq1nwxCUug74IMKtbHWFYnPi8F7YNc9ppXKs0XxY5leskTR4HB-OR1yulb_4-heU7CYHqNZISMi4tInsWzihqqnU5K8k5iE0ytuaL2kIX4pNfFlE6AJljKfTd7nY6ow0p7I_my-H9T2dO_Lp6VZeVhZqHa4rFtT-j5_c1X3d0LnEcspccnwZLEqfGGiqEPcLxaX4CK0S2zCBprUrmVQt0A-ZlsCxDZSgbznNnw29x0_GuoNsaKkJxzh6y2ajFaKCI4pIZ84vGvmeWk9MckCn_YE0SaWULMJ1W4djMar2COMOx_BpIjJssU&__tn__=-UC-R
สรุปหนังสือความรุ่งเรืองของเงินตรา ประวัติศาสตร์การเงินโลก
สรุปหนังสือความรุ่งเรืองของเงินตรา ตอนที่ 0 ทำไมเราต้องศึกษาประวัติศาสตร์ของเงิน
เคยสงสัยกันไหมครับ เงินคืออะไร มีบทบาทยังไง ทำไมคนเราต้องแสวงหาเงินกันทุกวันและในโลกทุกวันนี้แม่แต่กระทั่งตามประวัติศาสตร์ในอดีต ความวุ่นวายของสังคมโลก เศรษฐกิจของโลกที่เจริญรุ่งเรืองหรือเสื่อมถอยทุกๆครั้งก็มีความเกี่ยวข้องกับเงิน
หนังสือความรุ่งเรืองของเงินตราเล่มนี้จะเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการของเงินตั้งแต่ยุคอดีตเมื่อพันปีที่แล้วจนถึงปี 2008 ที่อเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤต Hamburger Crisis ที่ทำให้ระบบการเงินของอเมริกาพัง ธนาคารหลายๆธนาคารล้มละลายเช่น ลีแมนบาร์เธอร์ คนหลายตกงาน ครอบครัวแตกสลาย เกิดโศกนาฎกรรมมากมาย แต่ในโลกใบนี้เหมือนมีคนเสียผลประโยชน์ ก็จะมีคนได้ประโยชน์ และคนได้ประโยชน์ก็จะสะสมเงินและความมั่งคั่งมากขึ้น จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างฐานะ คำถามที่สำคัญคือ ทำไมคนรวยหรือนักการธนาคารถึงมีรายได้ ประมาณ 1–3000 ล้านเหรียญดอลล่าร์ต่อปี ในขณะที่บางคนในทวีปแอฟาริกามีรายได้ 1 USD ต่อวัน
โลกเราทำไมไมยุติธรรมขนาดนี้?
ทำไมการเกิดวิกฤตสมัยใหม่ทุกๆครั้งต้นเหตุจะมาจากธนาคารและคนรวยๆมีความรู้และเมื่อเกิดวิกฤตการเงินคนที่โดนผลกระทบมากที่สุดก็ไม่พ้นคนทั่วไปไม่ใช่ธนาคารหรือคนรวยๆที่คุมระบบการเงินโลก เพราะรัฐบาลของแต่ละประเทศจะเข้ามาอุ้มช่วยเหลือทุกๆครั้งเมื่อมีวิกฤต สาเหตุที่สำคัญที่จะตอบคำถามนี้ได้คือ ความรู้ทางการเงิน คนส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกสอนให้เรียนรู้ระบบการเงินและกลไกทางการเงิน
ระบบการเงินและกลไกทางการเงินซับซ้อนและยากทำความเข้าใจ เนื่องจากเกี่ยวกับคนหมู่มากทั่วโลกและความไม่รู้ จิตวิทยา พฤติกรรมอารมณ์ของมนุษย์ มันต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ และถ้ามีใครเข้าใจระบบการเงินเป็นอย่างดีพวกเขาจะสามารถทำกำไรและความร่ำรวยจากช่องว่างของระบบการเงินได้
เกือบทุกคนในวัยเด็กถูกสอนมานานว่าเงินตราเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย สามารถเปลี่ยนคนดีกลายเป็นคนละโมบโลภ เห็นแก่ตัวได้ การปล่อยดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้คือสิ่งที่ทำลายทางอ้อมของมนุษย์ทำให้ลูกหนี้มีความทุกข์ทรมานจากการหาเงินมาใช้หนี้
ดั่งสุภาษิตไทยที่บอกว่า การปล่อยดอกเบี้ยคือการทำนานบนหลังคน
แต่หนังสือเล่มนี้ให้แง่มุมอีกมุมหนึ่งว่า เงินตราไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เมื่อมันมีข้อเสีย มันก็ต้องมีข้อดีซึ่งข้อดีของเงินคือ การพัฒนา
โลกเราสามารถพัฒนาได้เร็วเพราะเงินตรา
เมื่อสมัยพันปีก่อนเวลาเราอยากจะได้อะไรที่เราไม่ได้ผลิต เราก็ต้องเอาสิ่งของที่เราผลิตไปแลกกับคนอื่น เช่น เราทำไร่ปลูกข้าวและเราอยากได้วัวม้ามาเลี้ยง เราก็ต้องเอาข้าวไปแลก โดยทำการตกลงกับคนขายวัวม้าว่าจะใช้ข้าวกี่เกวียนในการแลกซึ่งมันยุ่งยากและเสียเวลา
เงินตราถือกำเนิดมาเพื่อสิ่งนี้ เงินตราจะช่วยลดเวลาในการส่งมอบสิ่งของ ทำตัวเป็นที่เก็บมูลค่าของสิ่งของ พกพาง่าย สามารถแลกเปลี่ยนได้ทั่วไป เมื่อคนเรามีการแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น การพัฒนาเมืองหรือสังคมก็ตามมาอย่างรวดเร็ว ลองจินตนาการดูกันนะครับ ถ้าเราไม่มีเงินเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนระบบเทคโนโลยีหรือสังคมวัตถุจะช้าขนาดไหน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าไม่มีเงินเป็นตัวกลาง เราปลูกข้าว แต่คนสร้างบ้านเราไม่อยากได้ข้าวแลกเปลี่ยน เราจึงต้องหาคนที่พร้อมแลกข้าวของเรา เช่นคนเลี้ยงวัว เมื่อเราแลกวัวได้ และคนสร้างบ้านก็ยังไม่ได้อยากได้วัว เราต้องเอาวัวไปแลกกับคนอื่นๆ จนกว่าจะพอใจคนสร้างบ้าน
ฟังดูแล้วเหนื่อยและสิ้นเปลืองทรัพยากรไหมครับ แต่ถ้าเรามีเงินเป็นตัวกลางกำหนดมูลค่า เราก็สามารถขายข้าวเป็นเงิน นำเงินมาแลกบ้านได้ตรงๆเลยครับ
การพัฒนาเมืองและเทคโนโลยีของมนุษย์ถึงเติบโตได้ไวมาก
อันที่จริงเงินตราหรือทองคำไม่ได้มีมูลค่าของตัวเอง จะเปรียบเสมือนตั๋วจำนำโดยใช้ความน่าเชื่อของผู้ครองนครในสมัยก่อนหรือรัฐบาลในสมัยใหม่ มันขึ้นอยู่กับว่าความน่าเชื่อของแต่ละฝ่ายมีความน่าเชื่อกันขนาดไหนในการตกลงแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน ยกตัวอย่างเช่น เวเนซุเอล่าตอนนี้ รัฐบาลไม่มีความน่าเชื่อถือในสายตาของคนทั้งโลก เงินของเวเนซุเอล่าก็กลายเป็นกระดาษ ซึ่งขนาดที่ว่าต้องใช้เงินจำนวนมากๆเพื่อซื้อชำระเช็ดก้น
ตอนนี้ระบบการเงินซับซ้อนขึ้นมากเรื่อยๆ มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่โดนเล่นแร่แปรธาตุจากผู้คุมระบบการเงินเช่นธนาคารออกมามากมาย เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตเมื่อระบบการเงินของโลกมีช่องโหว่ให้โจมตี จะมีคนบางพวกที่พร้อมจะหากำไรจากช่องโหว่ของระบบการเงินทุกๆครั้ง ทำให้การเรียนรู้ทางการเงินและระบบทางการเงินจึงจำเป็นต่อมนุษย์เรามากๆ เราทุกคนควรเรียนรู้เพื่อป้องกันตัวเองเวลาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ดั่งเช่น สุภษาภิตที่บอกว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเสมอ
ตอนนี้ผมเริ่มสรุปได้หลายบทในเพจของผมนะครับ
กด Like Share See first ในเพจได้เพื่อไม่ให้พลาดทุกๆบทความนะครับ
https://www.facebook.com/pg/merchantetrader/photos/?tab=album&album_id=737010890089237&__xts__%5B0%5D=68.ARAd_3hSyqa0VqsucryHo31xoJh8watepUq1nwxCUug74IMKtbHWFYnPi8F7YNc9ppXKs0XxY5leskTR4HB-OR1yulb_4-heU7CYHqNZISMi4tInsWzihqqnU5K8k5iE0ytuaL2kIX4pNfFlE6AJljKfTd7nY6ow0p7I_my-H9T2dO_Lp6VZeVhZqHa4rFtT-j5_c1X3d0LnEcspccnwZLEqfGGiqEPcLxaX4CK0S2zCBprUrmVQt0A-ZlsCxDZSgbznNnw29x0_GuoNsaKkJxzh6y2ajFaKCI4pIZ84vGvmeWk9MckCn_YE0SaWULMJ1W4djMar2COMOx_BpIjJssU&__tn__=-UC-R