Unexpected Kyushu || กาลครั้งหนึ่งที่คิวชู

การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ในชีวิต แต่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาแถบคิวชู ซึ่งเรื่องราวของคิวชูเท่าที่ได้ฟังจากปากคนที่ไปมาก่อนคือ เป็นภูมิภาคที่มีธรรมชาติสวยงาม และจะมีความชิลในการเที่ยวมากกว่าแถบคันโต (มั้ง) ซึ่งครั้งนี้ เราจะมาเล่าประสบการณ์ในการท่องเที่ยวคิวชูครั้งแรกของเราว่าเป็นยังไงบ้าง

ช่วงเวลาที่เราไปคือ 22-30 มีนาคม 2562
_______________________________________

เมืองที่เราไปในทริปนี้คือ ดาไซฟุ (Dazaifu),
เบปปุ (Beppu), ยุฟุอิน (Yufuin), คารัตสึ (Karatsu),
คุมาโมโตะ (Kumamoto), คุโรคาวะ (Kurokawa) และไมซุรุ (Maizuru)
_______________________________________

Remark
- เนื่องจากเราเป็นคนไม่ชอบพักหลายๆที่เพราะขี้เกียจเก็บกระเป๋าย้ายไปมา
ทริปนี้เราได้จองที่พักที่เดียวคือ Toyoko Inn (Hakata Guchi Ekimae)
แต่จะมีวันที่ 28 มีนาคมที่มีการเปลี่ยนแพลนกระทันหันเลย
ได้ไปพักที่ Wakaba Ryoukan ที่คุโรคาวะ
- รูปในทริปนี้ทั้งหมดเราใช้กล้อง Sony a7ii + เลนส์ 50mm f1.8
_______________________________________

Schedule

วันที่ 22 มีนาคม 2562
วันเดินทาง

วันที่ 23 มีนาคม 2562
ไป Dazaifu

วันที่ 24 มีนาคม 2562
ไป Beppu

วันที่ 25 มีนาคม 2562
ไป Yufuin ด้วยรถไฟสาย Yufuin No Mori

วันที่ 26 มีนาคม 2562
ไป Karatsu

วันที่ 27 มีนาคม 2562
ไป Kumamoto
ไปวัด Nanzoin

วันที่ 28 มีนาคม 2562
ไปค้างคืนที่ Kurokawa

วันที่ 29 มีนาคม 2562
ไปสวน Maizuru

วันที่ 30 มีนาคม 2562
วันเดินทาง
_______________________________________

Day 01
วันนี้ทั้งวันเป็นวันเดินทาง เราเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 06.40 น.
กว่าจะไปถึงญี่ปุ่นก็ประมาณ 15.30 น. หลังจากเอาของไปเก็บที่ที่พัก
เราก็ออกไปหาอะไรกินแถวๆนั้นก็เป็นอันจบวันแรก
_______________________________________

Day 02
Rainy Day in Dazaifu


วันที่สองของทริปเริ่มต้นด้วยสายฝนกระหน่ำลงมาแต่เช้า เ
รากินข้าวเช้าที่ที่พักเสร็จฝนก็เบาลงพอดี เราก็เดินไปขึ้นรถไฟที่
สถานีฮากะตะ (Hakata) ที่เป็นสถานีหลักของแถวคิวชูโดยใช้
Fukuoka Tourist City Pass ไปลงที่สถานี Nishitetsu Futsukaishi Station
แล้วเปลี่ยนสายเพื่อนั่งต่อไปดาไซฟุ

เริ่มต้นวันด้วยบรรยากาศฝนตก
หน้าตาของบัตร Fukuoka Tourist City Pass
สุดสายที่ Dazaifu

เข้าไปที่ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu) โดยทันทีเพราะไม่มีอะไรให้เดินดูในตอนนี้
สิ่งแรกที่เห็นคือ รูปปั้นวัวที่เป็นสัญลักษณ์ประจำของที่นี่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน
และนักศึกษาที่มาลูบเขาของวัวเพื่อขอพรให้โชคดีเรื่องการเรียน

บรรยากาศช่วงเช้าก่อนเดินเข้าไปที่ศาลเจ้า ฝนยังตกอยู่ตอนเราไปถึง
Starbucks สาขา Dazaifu เป็น 1 ใน 5 สาขาที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น
รูปปั้นวัวที่มีความเชื่อว่า หากลูบตรงส่วนไหนแล้ว อาการเจ็บป่วยตรงส่วนนั้นจะบรรเทาลง
รวมถึงถ้าลูกตรงเขาแล้วจะโชคดีเรื่องการสอบ ทำให้มีเด็กนักเรียนพากันมาลูบเขาของรูปปั้นนี้เยอะมาก

ด้วยความที่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดอกซากุระควรจะบาน ซึ่งเราก็ค่อนข้างหวังว่าตอนที่เราเดินเล่นรอบๆศาลเจ้า
เราจะได้เจอดอกซากุระที่มันบานเต็มที่ แต่โชคร้ายที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาฝนดันตกทั้งสัปดาห์
เลยทำให้ดอกซากุระบานช้ากว่าปกติ สิ่งที่เราได้เห็นคือแค่ตุ่มดอกซากุระเท่านั้น (เจอดอกบานบ้าง แต่ก็ไม่บานเต็มที่)

ภายในพื้นที่ศาลเจ้าเริ่มมีนักท่องเที่ยวหรือคนญี่ปุ่นเองมาเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
ซากุระเท่าที่เจอ

หลังจากเดินออกมาจากศาลเจ้า สิ่งที่เราเห็นคือนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยอะมาก
ร้านค้าต่างๆก็เปิดให้บริการเต็มสองข้างทางเดิน เราเลยหาข้าวกินกันแถวๆนี้แล้ว
ลงความเห็นว่าจะกลับไปเดินเล่นแถวที่พักเพราะฝนตกทำให้เดินเล่นไม่สนุกเท่าไหร่

ผู้คนล้มหลามเดินเข้ามาที่ศาลเจ้า+ซื้อของตามร้านค้าริมทาง
รอบๆพื้นที่ศาลเจ้าสามารถเดินเล่นชิลๆได้เรื่อยๆ
สถานีรถไฟดาไซฟุ

ถือเป็นอันจบวันที่สองของทริปคิวชูนี้ อาจจะสั้นไปหน่อย แต่ด้วยความที่ทริปนี่เราไปกับครอบครัว
เลยกังวลว่าถ้าเที่ยวตอนฝนตกเดี๋ยวคนในทริปจะป่วยเอา ซึ่งส่วนตัวสิ่งที่ชอบที่สุดที่นี่คงเป็น
บรรยากาศรอบๆสถานี และศาลเจ้าที่ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่า
มันไม่วุ่นวายเกินไป รวมถึงบรรยากาศฝนตกที่ทำให้อากาศเย็นขึ้นที่เป็น
ความชอบส่วนตัวของเราล้วนๆ สามารถทำให้เดินเล่นเรื่อยๆโดยไม่รู้สึกเบื่อ
_______________________________________

How To Go
ซื้อ Fukuoka Tourist City Pass (แนะนำให้ซื้อตั้งแต่วันแรกเพราะคนเยอะมาก)
แล้วขึ้นรถไฟจากสถานีฮากาตะไปลงที่สถานี Nishitetsu Futsukaishi
แล้วเปลี่ยนรถนั่งไปจนสุดสายที่สถานีดาไซฟุ
_______________________________________
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่