ไม่รู้ว่าแต่ละท่านมี mindset ต่อตลาดหุ้นและการลงทุนอย่างไรกันบ้าง?

สมมติว่า ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ -300 จุดจาก 25,000 จุด คิดเป็น 1.2%
หรือ ตลาดฯประเทศไทย -25 จุด จาก 1600 ก็ประมาณ 1.5%

โดยส่วนตัว .. ไม่อยากให้นักลงทุนทุกท่าน panic กับอะไรแบบนี้ครับ
ไม่อยากให้วิตกกังวลมากเกินไป
และลองปรับ mindset ใหม่ เปิดมุมมองใหม่

ที่สำคัญ ส่วนตัวมองว่า ..
ตลาดหุ้น อยู่ได้ด้วย “ผลประกอบการ” และ “ผลตอบแทน”
การดูแต่ดัชนีเพียงอย่างเดียว จึงไม่สามารถวัดอะไรมากเท่าไหร่
และหุ้นแต่ละตัวก็มี %weight ดัชนีต่างกัน
ถ้าหุ้นรายตัวที่คุณถืออยู่ถูก drive ตามตลาดมาก ต้องเริ่มพิจารณาแล้วครับ

ส่วนถ้าเทรดอนุพันธ์ ..
มันก็อ้างอิงมาจาก ดัชนี > ดัชนีก็มาจาก ราคาซื้อขาย > ราคาซื้อ-ขายก็มาจาก performance ผลประกอบการ
บางครั้ง .. ดัชนีขึ้นลงมากกว่าที่ควรจะเป็น มันก็มาจากปัจจัยจับคู่สัญญา S,L C,P ของนักลงทุนทั้งหมดในตลาดด้วยส่วนหนึ่งนี่แหละครับ
ที่เขาต้องปิดความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นรายตัว

และส่วนตัวยังมองอีกว่า .. ทุกอย่างเกิดขึ้นก่อน มีเหตุผล ถึงสะท้อนไปในเส้นกราฟให้เราได้เห็นกัน
บางครั้งอาจจะเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
หรือ บางครั้งก็สะท้อนจากปัจจัยภายในในตัวของมันเอง
และจะขาย ก็ต้องมีคนซื้อ จะซื้อ ก็ต้องมีคนขาย
มันถึงจะเกิดการ Matching แล้วก็เกิดราคาที่เปลี่ยนแปลง แล้วถึงเกิดเส้นกราฟ สะท้อนมูลค่าการซื้อขาย
เช่น พอมีคนซื้อมากไป จนไม่มีคนขายแล้ว ก็ต้องมีสักคนที่ซื้อไปขายออกมา
มีคนขายมากไป จนไม่มีคนซื้อแล้ว ก็ต้องเริ่มมีสักคนที่ขายไปเริ่มกลับมาซื้อ เป็นต้น

และบางปัจจัยกังวลกันมาเป็นปีๆแล้ว
คิดว่า นักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถ หรือ ระดับผู้จัดการกองทุน รวมถึง CEO, CFO บริษัทจดทะเบียน เขาน่าจะคาดการณ์ worst case ได้ ปิดความเสี่ยง บริหารพอร์ตไว้ล่วงหน้าค่อนข้างดีและครอบคลุมแล้วครับ

บางตัวลงหนักๆ อาจจะมาจากผลประกอบการไม่ดีก็ได้
บางตัวขึ้นสวนเลย ก็อาจจะมีแนวโน้มการเติบโตกำไรที่ดี
ตัวไหนไม่ดีก็ลดพอร์ตลง ตัวไหนดีก็เพิ่มเข้าพอร์ต
ซึ่งเขาอาจจะเข้ามาซื้อก่อนหน้านั้นนานมากแล้ว
ที่ไม่ว่าจะขายตรงไหนก็ยังกำไรอยู่ ซึ่งปัจจัยภายนอกมีผลไม่เท่าปัจจัยภายในตัวมันเอง เป็นต้น


ผมสังเกตมาหลายกระทู้แล้วครับ
เลยถือโอกาสตั้งกระทู้นำเสนอในอีกมุมมองบ้าง ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

Jampay 🧡🐻