สวัสดีค่าาาา มีใครรอเราอยู่อ๊ะป่าว อิอิ วันนี้เรามีร้านระดับ 3 ดาว มิชลิน!!! ร้านของเชฟชื่อดัง ฝีปากกล้าอย่าง กอร์ดอน แรมซี นั่นเอง ร้านที่เป็นร้านที่ 4 ในโปรเจคตามล่า Fine Dining at London กันแล้วว คนไหนยังไม่ได้ดูร้านก่อนๆ สามารถย้อนกลับไปดูกันได้เลยค่าา และเช่นเคยฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้าาาา
แฟนเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🍽 Gordon Ramsay - กอร์ดอน แรมซี
✨ 3 Michelin Star - 3 ดาวมิชลิน
เรสโตรองค์ กอร์ดอน แรมซี ร้านอาหารชูโรงของเซเลบริตี้เชฟชาวสก๊อตชื่อดังก้องโลกอย่าง Gordon Ramsay มีผลงานมากมายทั้งจากรายการ Masterchef US, Hell’s Kitchen และ Kitchen Nightmare และถูกจัดอันดับให้เป็นเชฟพิธีกรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
หลังจากตัวร้านเปิดในปี ค.ศ. 1998 ก็ได้รับคำชื่นชมและคะแนนรีวิวในระดับทอปจากนักชิมอาหารและสื่อทางอาหารชื่อดังในยุโรปหลายสำนัก และเคยไต่อันดับขึ้นไปติดอันดับ 2 จาก 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2002 หรือ World’s 50 Best Restaurant 2002 โดย Restaurant Gordon Ramsay เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงลอนดอน และเป็นหนึ่งร้านอาหารเพียงไม่กี่แห่งในสหราชอาณาจักรที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ 3 ดาวมิชลิน
จนถึงตอนนี้ เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ร้านนี้ตั้งอยู่เคียงคู่กับกรุงลอนดอน ในปัจจุบัน Gordon Ramsay ได้ยุติบทบาทการทำอาหารด้วยตัวเองลง เพื่อจะเดินทางสายเชฟพิธีกรอย่างเต็มตัว ทำให้ตำแหน่ง Head Chef ตกไปอยู่กับ Matt Abé แต่เมนูทั้งหมดยังคงอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดโดย Gordon Ramsay โดยยึดกับเทคนิคการปรุงอาหารแบบ Classic French ทำให้เมนูที่นี่อาจไม่มีเทคนิคการปรุงหวือหวา หรือลูกเล่นการนำเสนออาหารโมเลกุลเหมือนร้านอื่นๆ อย่างไรก็ตามหากมองเฉพาะกลุ่มอาหารฝรั่งเศสคลาสสิค ที่นี่ยังคงถูกจัดอยู่ในร้านอาหารชั้นนำของโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย
วันนี้เราได้ลองทานเป็นอาหารคอร์สใหญ่ของร้าน คือ Menu Prestige ที่รวมเมนู Signature ต่างๆ ตั้งแต่ร้านเปิดมาจนถึงปัจจุบัน โดยรวบรวมทุกคอร์สที่สร้างชื่อให้ Gordon Ramsay อย่าง Pressed Foie Gras ที่ผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสสุดเนียนนุ่มของตับห่านกับส้มเคลมเมนไทน์และถั่วฮาเซลนัทได้อย่างลงตัว หรือ Ravioli ที่ไม่เคยถูกถอดออกจากเมนูเลยตั้งแต่ถูกคิดค้นขึ้นมา ไปจนถึงของหวานอย่าง Lemon Parfait ที่มีจุดเด่นคือการตัดรสเปรี้ยวกับหวานของเลมอนกับน้ำผึ้งได้อย่างดี
นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นฤดูทรัฟเฟิลของฝั่งยุโรป ทางร้านยังได้แนะนำให้เราลองสั่ง White Truffle Linguine ที่ทางร้านจัดไว้เป็นคอร์สพิเศษในราคา £35 อีกด้วย
อาหารโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก สมกับเป็นร้านอาหารชูหน้าชูตาของ Gordon Ramsay และเหมาะสมกับการเป็นร้านอาหารระดับ 3 ดาวมิชลินจริงๆ อาหารอร่อยทุกคอร์ส และเกินครึ่งอร่อยจนว้าวได้เลย แต่หากนำไปเทียบกับร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Osteria Francescana ที่เราเคยไปทานมา ถือว่ายังมีช่องว่างพอสมควร ทั้งในแง่ของเทคนิคการปรุงหรือความซับซ้อนของอาหารในแต่ละคอร์ส และแน่นอนหากนำไปเปรียบเทียบกับร้านอาหารฝรั่งเศสระดับ 3 ดาวมิชลินชั้นนำในกรุงปารีสอย่าง Arpège หรือ Restaurant Guy Savoy แล้ว รสชาติน่าจะห่างชั้นกันระดับหนึ่งเลยทีเดียว
👨🏻🍳 Menu Prestige (£155 pp, £35 for White Truffle Linguine, £15 for Cheeses ราคายังไม่รวมภาษี 12.5%)
Amuse-bouche
~
Pressed foie gras
clementine, hazelnuts, smoked duck
~
Ravioli
lobster, langoustine, salmon
~
Cornish turbot
Maitake, black garlic, jus gras
~
White truffle linguine (£35 supplement)
~
Herdwick lamb
winter vegetables ‘navarin’
or
Roast pigeon
beetroot, shallot, buckwheat
~
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
or
Soup
pineapple, coconut, kaffir lime
~
Sorbet
Granny Smith, chamomile, cider
~
Lemonade parfait
honey, bergamot, sheep’s milk yoghurt
~
Petit fours
อาหารดีมาก ราคาเหมาะสม (หากเทียบกับร้านระดับสามดาวมิชลินด้วยกัน) ข้อเสียเดียวคือห้ามใช้กล้องถ่ายรูปนี่ล่ะ
รสชาติ : 8/10
ราคา : 6/10
ความคุ้มค่า : 7/10
บรรยากาศ : 7/10
บริการ : 8/10
💕ความประทับใจโดยรวม : 7/10
Amuse-bouche
potato with salmon roe
มันฝรั่งกรอบ ทอปด้วยไข่ปลาแซลมอน ตัวไข่ปลาไร้ซึ่งกลิ่นคาวเลย มันฝรั่งบางกรอบ กินคำเดียวหมด (11/20)
Amuse-bouche
egg
ไข่ไก่แบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เนื้อเนียน ทอปด้วยหมูสับและหัวหอม ตักทานคำเดียว จะได้ความเนียนของไข่กับกลิ่นของหมูสับไปพร้อมกัน (12/20)
Amuse-bouche
tartlette
ทาร์ตเล็ทแป้งบางกรอบ โรยด้วยหมูรสออกเค็มๆ มีหอมแดง และเครื่องเทศต่างๆ ทานคำเดียวหมด อร่อยดี (13/20)
Amuse-bouche
kingfish with seaweed
ปลาคิงฟิชกับสาหร่ายและซอสทำจากส้มยูซู อันนี้เน้นรสชาติอูมามิที่มากับสาหร่าย ตัดกับรสเปรี้ยวหวานจากส้มยูซู ช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (10/20)
Pressed foie gras
clementine, hazelnuts, smoked duck
ตับห่านบดละเอียดและนำมาให้เซ็ตตัวเป็นก้อน ทานกับส้มคลีเมนไทน์ ฮาเซลนัท เจลลี่หวาน และเป็ดรมควัน ตัวตับห่านทำออกมาดีมาก เนื้อเนียน นุ่ม มีรสหวานธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นคาวเลย ทานกับส้มคลีเมนไทน์รสหวานเสริมรสกันได้ดีมากๆ การใส่ถั่วฮาเซลนัทมาทำให้มีความต่างทางเนื้อสัมผัสกับตับห่านเนื้อเนียนได้อย่างลงตัว (17/20)
Ravioli
lobster, langoustine, salmon
ราวิโอโลจานนี้ เป็นหนึ่งในคอร์สอาหารที่ดีที่สุดของกอร์ดอน แรมซี เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านตั้งแต่ที่ Gordon Ramsay คิดค้นไว้ในปี ค.ศ. 1998 มาถึงปัจจุบันมีอายุกว่า 20 ปีแล้ว และไม่เคยถูกถอดออกจากเมนูเลย โดยเป็นราวิโอโลขนาดใหญ่ ภายในบรรจุล็อบสเตอร์เนื้อสดหวานฉ่ำ เสริมรสด้วยเนื้อกุ้งแลงกูสทีน และเนื้อปลาแซลมอน ข้างนอกสีเขียวดั้งเดิมเป็นซอสทำจากเชอร์วิล แต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรมาเป็นซอสทำจากซอเรล เพื่อให้รสชาติเบากว่านุ่มกว่า และชูรสกุ้งให้เด่นยิ่งขึ้น ทอปด้วยใบซอเรลสด จานนี้ถือว่าอร่อยมาก และเป็นหนึ่งในราวิโอลีที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมา ยกให้สูสีกับ Ravioli ของร้าน Parkheuvel ร้านอาหารระดับสองดาวมิชลินในเมือง Rotterdam ที่มีราวิโอลีล็อบสเตอร์เป็นเมนูแนะนำเช่นกัน โดยรวมแล้วจานนี้ถือว่าเป็นสุดยอดเมนูเด่นสมคำร่ำลือจริงๆ (17/20)
Cornish turbot
Maitake, black garlic, jus gras
คอร์สถัดมาเป็นปลาเทอร์โบเซียมาสุกกำลังดี ทานกับเห็ดไมทาเกะ ซอสสีดำทำจากพริกไทยดำ ราดด้วยซอสจูกรา จานนี้ถือว่ารสชาติดีใช้ได้ เนื้อปลาหวานธรรมชาติ เห็ดกับซอสพริกไทยดำกินแล้วเข้ากันดี อร่อยเหมือนกับหน้าตาที่เห็น เเต่ยังไม่ถึงกับว้าว (16/20)
White truffle linguine (£35 supplement)
สำหรับลิงไกวนี่ไวท์ทรัฟเฟิล ทางร้านใส่ทรัฟเฟิลขาวขูดสดมา กะด้วยตาประมาณ 4 กรัม ถือว่าเหมาะสมกับราคา ตัวเส้นลิงไกวนี่ยังทำมาไม่ค่อย Al dente เท่าไหร่ กลิ่นทรัฟเฟิลหอมใช้ได้ จัดว่าอร่อยกว่ามาตรฐาน คุ้มค่ากับราคา เเต่หากมองเฉพาะรสชาติ ถือว่ายังห่างชั้นกับร้านอิตาเลียนระดับสามดาวมิชลินอย่าง 8 1/2 Otto e Mezzo Bombana แต่โดยปกติร้านอาหารฝรั่งเศสก็ทำพาสต้าสู้ร้านอิตาลีไม่ได้อยู่แล้ว แถมราคาก็ห่างกันสามเท่าตัวเลยทีเดียว (13/20)
White truffle linguine (£35 supplement)
ทางร้านจะเอา White truffle มาให้ดูด้วย
Herdwick lamb
winter vegetables ‘navarin’
เฮิร์ดวิคแลมป์ในซอสนาวาริน หรือเมนูเนื้อแกะอังกฤษ ราดด้วยซอสทำจากเนื้อแกะ ทานกับผักเคียงฤดูหนาวหลากชนิด เมนูนี้ก็เป็นหนึ่งในเมนูคลาสสิคของร้านเช่นกัน (15/20)
Roast pigeon
beetroot, shallot, buckwheat
นกพิราบจากเมืองบรีซประเทศฝรั่งเศส ข้างบนทอปด้วยบัควีท ขนาบข้างด้วยตับห่าน ราดด้วยซอสสีแดงทำจากบีทรูท และซอสสีน้ำตาลทำจากเนื้อนกพิราบ เนื้อนกย่างมารสชาติอร่อยกว่าร้านอาหารระดับ Michelin Plate ในประเทศไทยมาก ทั้งๆที่เป็นนกพิราบจากเมืองบรีซเหมือนกัน เเถมมีการใช้บัควีทมาตัดเนื้อสัมผัสของนกได้อย่างดี ซอสบีทรูทเองก็หวานกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นดินของบีทรูทติดมาเลย ฟัวกราส์ทำออกมาใช้ได้ แต่ยังไม่ถึงกับดีที่สุด (16/20)
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
สำหรับชีสมีให้เลือกมากมาย โดยจะหั่นสดๆให้จากรถเข็นเลย
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
ทานกับบิสกิตข้าวโอ้ตและขนมปังกรอบทำจากใบมะเดื่อ (15/20)
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
หรือจะทานตัดกับขนมปังก็ได้ (15/20)
Soup
pineapple, coconut, kaffir lime
คอร์สนี้ถึงจะชื่อว่าซุป แต่เป็นซุปของหวาน โดยเป็นซุปทำจากสับปะรด ผสมน้ำมะพร้าวและใบมะกรูด ให้กลิ่นอายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่สำคัญคือ รสชาติมันอร่อยมาก หวานอมเปรี้ยวจากสับปะรด เข้ากันดีกับความเนียนนุ่มของมะพร้าว มีกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ ดีงามจริงๆ (16/20)
Sorbet
Granny Smith, chamomile, cider
สำหรับพรีเดสเสิร์ทที่ร้านเสิร์ฟเป็นซอร์เบท์ทำจากแอปเปิ้ลเขียวแกรนนี สมิธ ออกรสเปรี้ยว เพื่อล้างปาก หอมกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวมากๆ นอกจากนี้ยังเสริมรสด้วยชาโมมายและไซเดอร์กรานิต้าอีกด้วย (14/20)
Lemonade parfait
honey, bergamot, sheep’s milk yoghurt
มาถึงของหวานซิกเนเจอร์ของกอร์ดอน แรมซี คือพาเฟท์เลมอนเนื้อนวลเป็นแท่งสี่เหลี่ยมรองด้านล่าง กลมๆสีขาวข้างบนคือไอศกรีมโยเกิร์ตทำจากนมแกะ ส่วนหยดสีขาวรอบๆทำจากเบอร์กามอธ ทานกับแผ่นกรอบและทองคำเปลว ในด้านรสชาติของคอร์สนี้ถือว่าพาเฟท์มะนาวจานนี้อยู่ในเกณฑ์ร้านอาหารระดับสามดาวมิชลิน มีลูกเล่นของการเทียบรสชาติและเนื้อสัมผัสของพาเฟท์รสเปรี้ยวกับเบอร์กามอธ เเละตัดด้วยโยเกิร์ต แต่เอาจริงๆยังไม่ถึงกับว้าวมากนัก และยังห่างไกลกับจานของหวานอย่าง Oops! I dropped the lemon tart ของ Osteria Francescana ร้านระดับสามดาวมิชลินอันดับหนึ่งของโลก ที่ทำเลมอนทาร์ตธรรมดาออกมาให้คนทานร้องว้าวได้ (14/20)
Petit fours
chocolate cake
เค้กช็อกโกแลตรสขมปนหวาน อร่อยใช้ได้ (10/20)
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพ ไปล่าของกินด้วยกัน
[CR] Restaurant Gordon Ramsay - กอร์ดอน แรมซี ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลิน ย่านเชลซี กรุงลอนดอน by ตามล่า Fine Dining
แฟนเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🍽 Gordon Ramsay - กอร์ดอน แรมซี
✨ 3 Michelin Star - 3 ดาวมิชลิน
เรสโตรองค์ กอร์ดอน แรมซี ร้านอาหารชูโรงของเซเลบริตี้เชฟชาวสก๊อตชื่อดังก้องโลกอย่าง Gordon Ramsay มีผลงานมากมายทั้งจากรายการ Masterchef US, Hell’s Kitchen และ Kitchen Nightmare และถูกจัดอันดับให้เป็นเชฟพิธีกรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
หลังจากตัวร้านเปิดในปี ค.ศ. 1998 ก็ได้รับคำชื่นชมและคะแนนรีวิวในระดับทอปจากนักชิมอาหารและสื่อทางอาหารชื่อดังในยุโรปหลายสำนัก และเคยไต่อันดับขึ้นไปติดอันดับ 2 จาก 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2002 หรือ World’s 50 Best Restaurant 2002 โดย Restaurant Gordon Ramsay เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงลอนดอน และเป็นหนึ่งร้านอาหารเพียงไม่กี่แห่งในสหราชอาณาจักรที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ 3 ดาวมิชลิน
จนถึงตอนนี้ เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ร้านนี้ตั้งอยู่เคียงคู่กับกรุงลอนดอน ในปัจจุบัน Gordon Ramsay ได้ยุติบทบาทการทำอาหารด้วยตัวเองลง เพื่อจะเดินทางสายเชฟพิธีกรอย่างเต็มตัว ทำให้ตำแหน่ง Head Chef ตกไปอยู่กับ Matt Abé แต่เมนูทั้งหมดยังคงอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดโดย Gordon Ramsay โดยยึดกับเทคนิคการปรุงอาหารแบบ Classic French ทำให้เมนูที่นี่อาจไม่มีเทคนิคการปรุงหวือหวา หรือลูกเล่นการนำเสนออาหารโมเลกุลเหมือนร้านอื่นๆ อย่างไรก็ตามหากมองเฉพาะกลุ่มอาหารฝรั่งเศสคลาสสิค ที่นี่ยังคงถูกจัดอยู่ในร้านอาหารชั้นนำของโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย
วันนี้เราได้ลองทานเป็นอาหารคอร์สใหญ่ของร้าน คือ Menu Prestige ที่รวมเมนู Signature ต่างๆ ตั้งแต่ร้านเปิดมาจนถึงปัจจุบัน โดยรวบรวมทุกคอร์สที่สร้างชื่อให้ Gordon Ramsay อย่าง Pressed Foie Gras ที่ผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสสุดเนียนนุ่มของตับห่านกับส้มเคลมเมนไทน์และถั่วฮาเซลนัทได้อย่างลงตัว หรือ Ravioli ที่ไม่เคยถูกถอดออกจากเมนูเลยตั้งแต่ถูกคิดค้นขึ้นมา ไปจนถึงของหวานอย่าง Lemon Parfait ที่มีจุดเด่นคือการตัดรสเปรี้ยวกับหวานของเลมอนกับน้ำผึ้งได้อย่างดี
นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นฤดูทรัฟเฟิลของฝั่งยุโรป ทางร้านยังได้แนะนำให้เราลองสั่ง White Truffle Linguine ที่ทางร้านจัดไว้เป็นคอร์สพิเศษในราคา £35 อีกด้วย
อาหารโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก สมกับเป็นร้านอาหารชูหน้าชูตาของ Gordon Ramsay และเหมาะสมกับการเป็นร้านอาหารระดับ 3 ดาวมิชลินจริงๆ อาหารอร่อยทุกคอร์ส และเกินครึ่งอร่อยจนว้าวได้เลย แต่หากนำไปเทียบกับร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Osteria Francescana ที่เราเคยไปทานมา ถือว่ายังมีช่องว่างพอสมควร ทั้งในแง่ของเทคนิคการปรุงหรือความซับซ้อนของอาหารในแต่ละคอร์ส และแน่นอนหากนำไปเปรียบเทียบกับร้านอาหารฝรั่งเศสระดับ 3 ดาวมิชลินชั้นนำในกรุงปารีสอย่าง Arpège หรือ Restaurant Guy Savoy แล้ว รสชาติน่าจะห่างชั้นกันระดับหนึ่งเลยทีเดียว
👨🏻🍳 Menu Prestige (£155 pp, £35 for White Truffle Linguine, £15 for Cheeses ราคายังไม่รวมภาษี 12.5%)
Amuse-bouche
~
Pressed foie gras
clementine, hazelnuts, smoked duck
~
Ravioli
lobster, langoustine, salmon
~
Cornish turbot
Maitake, black garlic, jus gras
~
White truffle linguine (£35 supplement)
~
Herdwick lamb
winter vegetables ‘navarin’
or
Roast pigeon
beetroot, shallot, buckwheat
~
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
or
Soup
pineapple, coconut, kaffir lime
~
Sorbet
Granny Smith, chamomile, cider
~
Lemonade parfait
honey, bergamot, sheep’s milk yoghurt
~
Petit fours
อาหารดีมาก ราคาเหมาะสม (หากเทียบกับร้านระดับสามดาวมิชลินด้วยกัน) ข้อเสียเดียวคือห้ามใช้กล้องถ่ายรูปนี่ล่ะ
รสชาติ : 8/10
ราคา : 6/10
ความคุ้มค่า : 7/10
บรรยากาศ : 7/10
บริการ : 8/10
💕ความประทับใจโดยรวม : 7/10
Amuse-bouche
potato with salmon roe
มันฝรั่งกรอบ ทอปด้วยไข่ปลาแซลมอน ตัวไข่ปลาไร้ซึ่งกลิ่นคาวเลย มันฝรั่งบางกรอบ กินคำเดียวหมด (11/20)
Amuse-bouche
egg
ไข่ไก่แบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เนื้อเนียน ทอปด้วยหมูสับและหัวหอม ตักทานคำเดียว จะได้ความเนียนของไข่กับกลิ่นของหมูสับไปพร้อมกัน (12/20)
Amuse-bouche
tartlette
ทาร์ตเล็ทแป้งบางกรอบ โรยด้วยหมูรสออกเค็มๆ มีหอมแดง และเครื่องเทศต่างๆ ทานคำเดียวหมด อร่อยดี (13/20)
Amuse-bouche
kingfish with seaweed
ปลาคิงฟิชกับสาหร่ายและซอสทำจากส้มยูซู อันนี้เน้นรสชาติอูมามิที่มากับสาหร่าย ตัดกับรสเปรี้ยวหวานจากส้มยูซู ช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (10/20)
Pressed foie gras
clementine, hazelnuts, smoked duck
ตับห่านบดละเอียดและนำมาให้เซ็ตตัวเป็นก้อน ทานกับส้มคลีเมนไทน์ ฮาเซลนัท เจลลี่หวาน และเป็ดรมควัน ตัวตับห่านทำออกมาดีมาก เนื้อเนียน นุ่ม มีรสหวานธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นคาวเลย ทานกับส้มคลีเมนไทน์รสหวานเสริมรสกันได้ดีมากๆ การใส่ถั่วฮาเซลนัทมาทำให้มีความต่างทางเนื้อสัมผัสกับตับห่านเนื้อเนียนได้อย่างลงตัว (17/20)
Ravioli
lobster, langoustine, salmon
ราวิโอโลจานนี้ เป็นหนึ่งในคอร์สอาหารที่ดีที่สุดของกอร์ดอน แรมซี เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านตั้งแต่ที่ Gordon Ramsay คิดค้นไว้ในปี ค.ศ. 1998 มาถึงปัจจุบันมีอายุกว่า 20 ปีแล้ว และไม่เคยถูกถอดออกจากเมนูเลย โดยเป็นราวิโอโลขนาดใหญ่ ภายในบรรจุล็อบสเตอร์เนื้อสดหวานฉ่ำ เสริมรสด้วยเนื้อกุ้งแลงกูสทีน และเนื้อปลาแซลมอน ข้างนอกสีเขียวดั้งเดิมเป็นซอสทำจากเชอร์วิล แต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรมาเป็นซอสทำจากซอเรล เพื่อให้รสชาติเบากว่านุ่มกว่า และชูรสกุ้งให้เด่นยิ่งขึ้น ทอปด้วยใบซอเรลสด จานนี้ถือว่าอร่อยมาก และเป็นหนึ่งในราวิโอลีที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมา ยกให้สูสีกับ Ravioli ของร้าน Parkheuvel ร้านอาหารระดับสองดาวมิชลินในเมือง Rotterdam ที่มีราวิโอลีล็อบสเตอร์เป็นเมนูแนะนำเช่นกัน โดยรวมแล้วจานนี้ถือว่าเป็นสุดยอดเมนูเด่นสมคำร่ำลือจริงๆ (17/20)
Cornish turbot
Maitake, black garlic, jus gras
คอร์สถัดมาเป็นปลาเทอร์โบเซียมาสุกกำลังดี ทานกับเห็ดไมทาเกะ ซอสสีดำทำจากพริกไทยดำ ราดด้วยซอสจูกรา จานนี้ถือว่ารสชาติดีใช้ได้ เนื้อปลาหวานธรรมชาติ เห็ดกับซอสพริกไทยดำกินแล้วเข้ากันดี อร่อยเหมือนกับหน้าตาที่เห็น เเต่ยังไม่ถึงกับว้าว (16/20)
White truffle linguine (£35 supplement)
สำหรับลิงไกวนี่ไวท์ทรัฟเฟิล ทางร้านใส่ทรัฟเฟิลขาวขูดสดมา กะด้วยตาประมาณ 4 กรัม ถือว่าเหมาะสมกับราคา ตัวเส้นลิงไกวนี่ยังทำมาไม่ค่อย Al dente เท่าไหร่ กลิ่นทรัฟเฟิลหอมใช้ได้ จัดว่าอร่อยกว่ามาตรฐาน คุ้มค่ากับราคา เเต่หากมองเฉพาะรสชาติ ถือว่ายังห่างชั้นกับร้านอิตาเลียนระดับสามดาวมิชลินอย่าง 8 1/2 Otto e Mezzo Bombana แต่โดยปกติร้านอาหารฝรั่งเศสก็ทำพาสต้าสู้ร้านอิตาลีไม่ได้อยู่แล้ว แถมราคาก็ห่างกันสามเท่าตัวเลยทีเดียว (13/20)
White truffle linguine (£35 supplement)
ทางร้านจะเอา White truffle มาให้ดูด้วย
Herdwick lamb
winter vegetables ‘navarin’
เฮิร์ดวิคแลมป์ในซอสนาวาริน หรือเมนูเนื้อแกะอังกฤษ ราดด้วยซอสทำจากเนื้อแกะ ทานกับผักเคียงฤดูหนาวหลากชนิด เมนูนี้ก็เป็นหนึ่งในเมนูคลาสสิคของร้านเช่นกัน (15/20)
Roast pigeon
beetroot, shallot, buckwheat
นกพิราบจากเมืองบรีซประเทศฝรั่งเศส ข้างบนทอปด้วยบัควีท ขนาบข้างด้วยตับห่าน ราดด้วยซอสสีแดงทำจากบีทรูท และซอสสีน้ำตาลทำจากเนื้อนกพิราบ เนื้อนกย่างมารสชาติอร่อยกว่าร้านอาหารระดับ Michelin Plate ในประเทศไทยมาก ทั้งๆที่เป็นนกพิราบจากเมืองบรีซเหมือนกัน เเถมมีการใช้บัควีทมาตัดเนื้อสัมผัสของนกได้อย่างดี ซอสบีทรูทเองก็หวานกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นดินของบีทรูทติดมาเลย ฟัวกราส์ทำออกมาใช้ได้ แต่ยังไม่ถึงกับดีที่สุด (16/20)
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
สำหรับชีสมีให้เลือกมากมาย โดยจะหั่นสดๆให้จากรถเข็นเลย
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
ทานกับบิสกิตข้าวโอ้ตและขนมปังกรอบทำจากใบมะเดื่อ (15/20)
Selection of cheeses from the trolley (£15 supplement)
หรือจะทานตัดกับขนมปังก็ได้ (15/20)
Soup
pineapple, coconut, kaffir lime
คอร์สนี้ถึงจะชื่อว่าซุป แต่เป็นซุปของหวาน โดยเป็นซุปทำจากสับปะรด ผสมน้ำมะพร้าวและใบมะกรูด ให้กลิ่นอายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่สำคัญคือ รสชาติมันอร่อยมาก หวานอมเปรี้ยวจากสับปะรด เข้ากันดีกับความเนียนนุ่มของมะพร้าว มีกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ ดีงามจริงๆ (16/20)
Sorbet
Granny Smith, chamomile, cider
สำหรับพรีเดสเสิร์ทที่ร้านเสิร์ฟเป็นซอร์เบท์ทำจากแอปเปิ้ลเขียวแกรนนี สมิธ ออกรสเปรี้ยว เพื่อล้างปาก หอมกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวมากๆ นอกจากนี้ยังเสริมรสด้วยชาโมมายและไซเดอร์กรานิต้าอีกด้วย (14/20)
Lemonade parfait
honey, bergamot, sheep’s milk yoghurt
มาถึงของหวานซิกเนเจอร์ของกอร์ดอน แรมซี คือพาเฟท์เลมอนเนื้อนวลเป็นแท่งสี่เหลี่ยมรองด้านล่าง กลมๆสีขาวข้างบนคือไอศกรีมโยเกิร์ตทำจากนมแกะ ส่วนหยดสีขาวรอบๆทำจากเบอร์กามอธ ทานกับแผ่นกรอบและทองคำเปลว ในด้านรสชาติของคอร์สนี้ถือว่าพาเฟท์มะนาวจานนี้อยู่ในเกณฑ์ร้านอาหารระดับสามดาวมิชลิน มีลูกเล่นของการเทียบรสชาติและเนื้อสัมผัสของพาเฟท์รสเปรี้ยวกับเบอร์กามอธ เเละตัดด้วยโยเกิร์ต แต่เอาจริงๆยังไม่ถึงกับว้าวมากนัก และยังห่างไกลกับจานของหวานอย่าง Oops! I dropped the lemon tart ของ Osteria Francescana ร้านระดับสามดาวมิชลินอันดับหนึ่งของโลก ที่ทำเลมอนทาร์ตธรรมดาออกมาให้คนทานร้องว้าวได้ (14/20)
Petit fours
chocolate cake
เค้กช็อกโกแลตรสขมปนหวาน อร่อยใช้ได้ (10/20)
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพ ไปล่าของกินด้วยกัน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้