ทะเลาะกับที่บ้านเรื่องสินสอด เราควรทำอย่างไรดี

ขอเกริ่นประวัติส่วนตัวของจขกท.ก่อนนะคะ 

- เป็นผู้หญิงอายุ30ต้นๆ พ่อแม่แยกทางกันแต่อยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ (เราเรียกเค้าว่าแม่) แม่เลี้ยงเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กๆค่ะ แต่ก็อยู่แบบตามมีตามเกิดนะคะไม่ค่อยได้ของเล่นอะไรเหมือนเด็กๆทั่วไป เรากับเค้าไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กันเท่าไหร่วันๆต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยเลี้ยงวันเกิดเรา ไม่เคยไหว้กันในวันแม่ ไม่เคยซื้อของให้กัน ก็แอบมีปมด้อยตั้งแต่เด็กๆค่ะ

              ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ ตอนนี้จขกท.เรียนจบกำลังจะแต่งงานค่ะ โดยที่ฝ่ายชายเข้าออกบ้านตรงไปตรงมามาสักพักจึงให้ญาติผู้ใหญ่มาสู่ขอเรา 
และก่อนที่ผู้ใหญ่จะเจอกันเราก็พอรู้อยู่แล้วในเรื่องของสินสอด พ่อเราเป็นคนบอกเองว่าจะไม่เรียกร้องเอาสินสอดอะไร แค่ให้ทางฝ่ายชายดูแลค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่างๆเท่านั้นก็โอเค ส่วนทางพ่อฝ่ายชายก็เปรยๆมาว่าจะให้เงิน 500,000 เพื่อเป็นสินสอดให้เราและแฟนดูแลค่าใช้จ่ายในงานต่างๆถ้าเกินกว่านี้ให้เราช่วยกันเก็บเงินเพิ่มเอง หากได้เงินใส่ซองมาเท่าไหร่ ให้เราและแฟนเก็บไว้เป็นขวัญถุงเอาไว้สร้างเนื้อสร้างตัวเนื่องจากเราและแฟนไม่มีเงินเก็บเลย (เพราะจขกท.ช่วยแบ่งเบาภาระของที่บ้าน) โอเค!! พอตกลงตามนั้นเราและแฟนจึงนัดญาติผู้ใหญ่ของเราทั้งสองเจอกันและคุยเรื่องสินสอด ทั้ง2ฝ่ายตกลงและเห็นชอบตรงกัน เราและแฟนก็แฮปปี้ในวันนั้น แต่.............!!!!
             พออีกวันหลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายคุยกันจบ ด้านแม่เลี้ยงของจขกท.ก็มาพูดกับพ่อเราว่าเค้าไม่โอเคทำแบบนี้เหมือนเค้าไม่ได้อะไรเลย สินสอดก็ไม่ได้ เงินใส่ซองเค้าก็ไม่ได้ จึงเรียกเรากับแฟนไปคุยว่าต้องการเงินค่าน้ำนมต่างหาก 300,000 รวมเป็น 800,000 เพราะที่ตกลงกันไว้คือ500,000 ฝ่ายชายให้เอาเงินตรงนี้ไปจัดเรื่องค่าใช้จ่ายในงาน ทั้งๆที่ตกลงโอเคกับญาติฝ่ายชายไปแล้ว แต่อยู่ๆแม่เลี้ยงจะมาเรียกร้องเอาเงิน เราเป็นคนกลางเราก็อึ้งไปเลยไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะแม่ฝ่ายชายก็บอกแล้วว่าถ้าจะเรียกร้องมากกว่านี้เรากับแฟนต้องช่วยกันเก็บเอง ซึ่งแม่เลี้ยงเราพูดกับแฟนเราว่าถ้าไม่มีก็ให้ไปกู้หนี้ยืมสินมา แต่เรามองว่ามันไม่ใช่ไง แทนที่พ่อแม่จะดีใจกับเราเห็นเราแต่งงาน แต่กลับให้เราเริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยการเป็นหนี้เป็นสิน 
             ตอนนี้ปัญหาคือกลายเป็นพ่อแม่หาว่าเราเนรคุณไปเข้าข้างฝ่ายชาย พ่อเราก็เชื่อฟังแม่เลี้ยงทุกอย่างบอกว่าถ้าเค้าไม่ได้เงิน300,000เค้าจะไม่ไปงานแต่งเรา เราอยากจัดอยากทำอะไรให้เราจัดการเองเลย ทั้งๆที่ทุกวันนี้เรากับแม่เลี้ยงช่วยกันผ่อนบ้านคนละครึ่งผ่อนเดือนละ 60,000 บาท เราก็คิดว่าซื้อบ้านหลังนี้เพื่อตอบแทนบุญคุณเค้าที่เลี้ยงดูเรามา ทั้งๆที่เค้าไม่ใช่แม่เราจริงๆ  
             
              คำถามคือ 
              1. มีความเห็นอย่างไรเรื่องสินสอด ที่แม่เลี้ยงจะขอเรียกค่าน้ำนมเพิ่ม 300,000
              2. เราควรไปกู้หนี้ยืมสินมาให้เค้าไหมค่ะ เพื่อที่เราจะได้ไม่เป็นคนเนรคุณถ้าเราหาเงินมาให้เค้า 
              3. ถ้าไม่มีใครไปงานแต่งเราจริงๆเราจะทำอย่างไรค่ะ เราจะผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างไร 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่