เคยแค่ได้ยินข่าวจากสื่อtv ไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอกับตัวเอง หัวอกคนเป็นแม่ที่อยู่ไกลลูกอย่างพี่มันร้อนมันรุ่มมาก
ลูกชายปวดท้องตั้งแต่เย็นและหนักมากขึ้นจนทนไม่ไหว ตอนห้าทุ่มต้องนั่งแท๊กซี่คนเดียวเพื่อไปหาหมอที่ #โรงพยาบาลลาดพร้าว
เวรเปลมารับตัวน้องไปที่ห้องฉุกเฉิน สอบถามอาการ แจ้งค่าใช้จ่ายคร่าวๆประมาณ 3,000 บาท เมื่อแจ้งเสร็จก็ถามหาประกันสังคม ถามหาเงินสด ถามหาบัตรเครดิต ซึ่งลูกชายพี่ไม่มี แต่บอกไปว่ามีเงินสดในแอพธนาคารกสิกร ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนั้นแจ้งว่า ทาง รพ. ไม่รับ ต้องใช้เงินสด/บัตรเครดิตเท่านั้น ลูกชายพี่ก็ถามว่ามีATM ใกล้สุดตรงไหน เจ้าหน้าที่ก็ชี้เป้าให้ และก็เข็นรถออกมาจากห้องฉุกเฉินและคืนบัตรประชานชนมาให้ ลูกชายพี่ก็เข้าใจว่าคงรอหมอ และ ยังไม่ได้ไปกดเงิน เพราะปวดท้องมากเดินไม่ไหว
ช่วงที่นั่งรอ พี่คุยกับลูกตลอดเวลา ก็ไม่คิดว่าช่วงที่รอนี้ คือเจ้าหน้าที่เขารอให้น้องเดินไปกดเงินแล้วให้กลับมาเชคอินใหม่
อาการปวดท้องเนี่ย 30 นาทีที่รออยู่มันนานมาก นานจนพี่บอกให้ลูกเรียกเจ้าหน้าที่มาถาม ว่าให้รออะไร ทำไมถึงนานขนาดนี้ คำตอบคือ "รอน้องไปกดเงิน กดหรือยัง พร้อมหรือยังครับ"
แย่มาก ใจคนเป็นแม่อย่างพี่ อยากจะเหาะไปหาลูกในนาทีนั้น เจอลูกแล้วคงด่าไอ้เจ้าหน้าที่เวรเปล ที่ใจร้าย ไม่มีมันสมอง ไม่ได้รับการอบรมจากหัวหน้า ไม่รู้ว่าโลกมันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
สุดท้าย ลูกชายพี่ก็ต้องเดินไปกดเงินซึ่งไม่ต้องใช้บัตรนะคะ กดมากำไว้ให้เจ้าหน้าที่เวรเปลเห็น และเขาก็เข้ามาถามว่า พร้อมแล้วเหรอครับ แล้วก็ขอบัตรประชาชนไปเชคอินให้ รออีกไม่นานก็ได้พบหมอ พยาบาลฉีดยาให้และสั่งจ่ายยามากินที่บ้านแจ้งค่าใช้ 1 พันต้นๆ
ตอนไปจ่ายเงินก็เห็นว่ามี QR code วางอยุ่ ก็สอบถามเจ้าหน้าการเงิน ได้รับคำตอบว่า จ่ายผ่านQR code หรือโอน ได้แล้วแต่สะดวก
แย่เนอะ นี่แค่สำไส้อักเสบ ถ้าเกิดไส้ติ่งอักเสบแล้วมันแตก แล้วมันมีไรที่ร้ายแรงกว่านี้ แค่เพราะเจ้าหน้าที่เวรเปลโง่ๆของ
#โรงพยาบาลลาดพร้าว คนนี้ คนเป็นแม่อย่างพี่คงจะทุกข์หนักเพิ่มขึ้น
หมอดี แต่มันก็ต้องดีและเข้าใจในระบบงานตั้งแต่ประตูบานแรกที่เปิดรับคนไข้แล้วนะคะ
ถ้าคนไข้ไม่มีเงินก็คงไม่ไป ใจเขาใจเรา
โรงพยาบาลลาดพร้าวเวรเปลคุณไม่โอเคนะคะ
ลูกชายปวดท้องตั้งแต่เย็นและหนักมากขึ้นจนทนไม่ไหว ตอนห้าทุ่มต้องนั่งแท๊กซี่คนเดียวเพื่อไปหาหมอที่ #โรงพยาบาลลาดพร้าว
เวรเปลมารับตัวน้องไปที่ห้องฉุกเฉิน สอบถามอาการ แจ้งค่าใช้จ่ายคร่าวๆประมาณ 3,000 บาท เมื่อแจ้งเสร็จก็ถามหาประกันสังคม ถามหาเงินสด ถามหาบัตรเครดิต ซึ่งลูกชายพี่ไม่มี แต่บอกไปว่ามีเงินสดในแอพธนาคารกสิกร ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนั้นแจ้งว่า ทาง รพ. ไม่รับ ต้องใช้เงินสด/บัตรเครดิตเท่านั้น ลูกชายพี่ก็ถามว่ามีATM ใกล้สุดตรงไหน เจ้าหน้าที่ก็ชี้เป้าให้ และก็เข็นรถออกมาจากห้องฉุกเฉินและคืนบัตรประชานชนมาให้ ลูกชายพี่ก็เข้าใจว่าคงรอหมอ และ ยังไม่ได้ไปกดเงิน เพราะปวดท้องมากเดินไม่ไหว
ช่วงที่นั่งรอ พี่คุยกับลูกตลอดเวลา ก็ไม่คิดว่าช่วงที่รอนี้ คือเจ้าหน้าที่เขารอให้น้องเดินไปกดเงินแล้วให้กลับมาเชคอินใหม่
อาการปวดท้องเนี่ย 30 นาทีที่รออยู่มันนานมาก นานจนพี่บอกให้ลูกเรียกเจ้าหน้าที่มาถาม ว่าให้รออะไร ทำไมถึงนานขนาดนี้ คำตอบคือ "รอน้องไปกดเงิน กดหรือยัง พร้อมหรือยังครับ"
แย่มาก ใจคนเป็นแม่อย่างพี่ อยากจะเหาะไปหาลูกในนาทีนั้น เจอลูกแล้วคงด่าไอ้เจ้าหน้าที่เวรเปล ที่ใจร้าย ไม่มีมันสมอง ไม่ได้รับการอบรมจากหัวหน้า ไม่รู้ว่าโลกมันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
สุดท้าย ลูกชายพี่ก็ต้องเดินไปกดเงินซึ่งไม่ต้องใช้บัตรนะคะ กดมากำไว้ให้เจ้าหน้าที่เวรเปลเห็น และเขาก็เข้ามาถามว่า พร้อมแล้วเหรอครับ แล้วก็ขอบัตรประชาชนไปเชคอินให้ รออีกไม่นานก็ได้พบหมอ พยาบาลฉีดยาให้และสั่งจ่ายยามากินที่บ้านแจ้งค่าใช้ 1 พันต้นๆ
ตอนไปจ่ายเงินก็เห็นว่ามี QR code วางอยุ่ ก็สอบถามเจ้าหน้าการเงิน ได้รับคำตอบว่า จ่ายผ่านQR code หรือโอน ได้แล้วแต่สะดวก
แย่เนอะ นี่แค่สำไส้อักเสบ ถ้าเกิดไส้ติ่งอักเสบแล้วมันแตก แล้วมันมีไรที่ร้ายแรงกว่านี้ แค่เพราะเจ้าหน้าที่เวรเปลโง่ๆของ
#โรงพยาบาลลาดพร้าว คนนี้ คนเป็นแม่อย่างพี่คงจะทุกข์หนักเพิ่มขึ้น
หมอดี แต่มันก็ต้องดีและเข้าใจในระบบงานตั้งแต่ประตูบานแรกที่เปิดรับคนไข้แล้วนะคะ
ถ้าคนไข้ไม่มีเงินก็คงไม่ไป ใจเขาใจเรา