ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึงเริ่มต้นของเรื่องก่อน ตอนยังเป็นวัยรุ่นมีความรักครั้งแรกจนกระทั่งท้อง ลูกคนแรกหมอบอกอาการ50/50 แต่ลูกก็รอดมาได้ ลูกคนที่2 คลอดแล้วเสียตอนอายุ10เดือน เนื่องจากโรคหัวใจ เราเฝ้าแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะเราที่เซ็นให้หมอผ่าตัดทำให้ต้องเสียลูกไป. ชีวิตครอบครัวมีแต่ความผิดหวัง เพราะด้วยความที่เป็นเด็กสามีเราก็ติดเพื่อนติดเกมส์ เราต้องคอยเลี้ยงลูกคนเดียว จิตใจย่ำแย่มาก แต่มีแม่คอยดูแลคอยเป็นห่วงคอยทำให้เราหายเศร้า แม่คือทุกอย่าง... จนวันนึงแม่ล้มป่วยเป็นโรคมะเร็ง และสุดท้ายแม่ก็จากเราไป ตั้งแต่วันนั้นทุกอย่างมันดับมืด เราหนีมาอยู่ต่างจังหวัดเพื่อตัดทุกอย่าง ทั้งเรื่องแม่และเรื่องพ่อของลูก จนกระทั่งเรามีสามีใหม่ เค้าดูแลเราเป็นอย่างดีเข้าใจเราทุกอย่าง ภายนอกเหมือนเราจะสบายใจ แต่ไม่เลย ตลอดเวลา4ปีที่แม่จากไป ไม่มีวันไหนที่เราทำใจได้ เราร้องไห้ทุกวันมาตลอด บางครั้งเหมือนอยากตายไปอยู่กับแม่ อยากทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วหายไป หายไปในที่นี้หมายถึงไม่อยากอยู่บนโลก เราคิดเสมอว่าโลกนี้มันโหดร้ายสำหรับเรามาก มันพรากคนที่เรารักไปจากเราจนหมด มันเอาครอบครัวเอาความสุขเราไปหมด.. หนักไปกว่านั้นคือความคิดเรายิ่งคิดแบบนั้นบ่อยขึ้น ร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เหมือนเป็นคนสองบุคลิก บางครั้งก็คิดได้บางครั้งก็คิดไม่ได้ เราควรทำยังไงกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ บางครั้งเราคิดว่าเราควรปรึกษาหมอ เพราะสิ่งที่เราเจอมันกระทบกับจิตใจเรามาก ตอนนี้เราแทบรับกับความผิดหวังอะไรไม่ได้อีกแล้ว ชีวิตตอนนี้เหมือนจมอยู่กับอดีตมากกว่าปัจจุบัน คิดถึงแต่แม่ บอกตัวเองว่าแม่ยังอยู่ ทั้งๆที่แม่จากเราไป4ปีแล้ว
อาการแบบนี้ควรพบจิตแพทย์ไหม?? เสียคนที่รักไปยังทำใจไม่ได้ คิดว่าโลกนี้ทำร้ายความสุขเรา