พาชมนิทรรศการเบื้องหลังกว่าจะเป็น Animation กับ 'The Science Behind PIXAR' ในโตเกียว

ทริปนี้เราเดินทางไปโตเกียว ตั้งแต่นิทรรศการเพิ่งเปิดใหม่ แต่ดองเอาไว้เพิ่งได้มาลง ด้วยความตั้งใจแรกจะไป Teamlabs แต่ดันบังเอิญมีนิทรรศการ Pixar จัดขึ้นด้วยพอดี ก็เลยอ่ะไหนๆ ก็ไปแล้ว เป็นแฟน Pixar ก็ต้องแวะไปเยี่ยมชมหน่อย ไปไม่ยากด้วย ก่อนหน้านั้นก็ไม่มีความรู้ว่านิทรรศการนี้เกี่ยวกับอะไรเท่าไหร่ ก็ลองเสิร์จหาดูนิดหน่อย

The Science Behind Pixar เริ่มมาจาก Museum of Science, Boston จับมือ Pixar และสร้างนิทรรศการนี้ขึ้นมา โดยจะมีจัด 2 ที่ไปพร้อมกัน คือ ภายในประเทศสหรัฐฯ และต่างประเทศ ตอนนี้มีอยู่ที่ Portland ที่นึง และ Roppongi ที่นึง นิทรรศการจะพูดถึงคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นได้อย่างไร

เริ่มตั้งแต่การเดินทางไม่ยากเลย ลงรถไฟฟ้ายังไงก็ได้ ให้ไป Roppongi Hills ในเว็บไซต์แจ้งว่าให้ไปขึ้นลิฟต์เข้านิทรรศการที่ฝั่ง Museum Cone ซึ่งง๊ง งง แต่พูดง่ายๆ คือ อ่านป้ายที่ไป Obsevation Desk / Tokyo City View ชั้น 52 ตึก Mori Tower ที่ที่คนนิยมไปชมวิวโตเกียวกันนั่นแหละ ซึ่ง...มันคือจุดเดียวกับจุดชมวิวเลย ชมนิทรรศไป ดูวิวโตเกียวไป ถ้าไปเวลาเย็นก็ชมพระอาทิตย์ตกได้อีก คุ้มสุดๆ

เดินผ่านเจ้าแมงมุมไปด้านหลังตึก ก็จะเจอเคาเตอร์จำหน่ายตั๋ว ก็คือจุดเดียวกับที่จำหน่ายตั๋วขึ้นลิฟต์ไปชมวิวเลยค่ะ ราคาบัตรไม่แพงมาก ถือว่าคุ้มค่า 

พอซื้อบัตรเข้ามา เขาจะพาเราเข้าห้องชม Video Brief เป็นพนง. Pixar เกริ่นถึงอนิเมชั่น ว่ากว่าจะมาเป็นมันมีวิทยาศาสตร์ซ่อนอยู่ทุกหนแห่งในนั้น พวกเขาต้องคิดค้นมากมาย ก็จะรู้สึกบิ้วๆ หน่อย คนอินก็จะแบบ อืมน้ำตาจะไหล ถือว่าทำคลิปเกริ่นได้ดีอยู่

จากนั้นขึ้นลิฟต์ไปสู่ชั้น 52 เราจะพบกับโมเดลพี่ Buzz ยืนต้อนรับอยู่ และมี Station อธิบายคร่าวๆ ว่าในนิทรรศการมีทั้งหมด 8 ฐาน ซึ่ง 8 อย่างนี้ก็คือกระบวนการหลักๆ จากการทำอนิเมชั่น 1 เรื่อง ทุกฐานจะมีกิจกรรมให้ทำ มีวิดีโอจากพนง. Pixar ด้านนั้นๆ มาเล่าให้ฟัง เรียกว่าเป็น Interactive Exhibition ที่ดีมาก

 
แต่ปัญหาที่เราเจอคือ เราไปดูนิทรรศการ ในขณะที่ทัวร์อีก 100 ชีวิตมาดูวิว และไม่ได้สนใจนิทรรศการ แต่ขโมยเก้าอี้จากนิทรรศการไปนั่งรอพระอาทิตย์ตกจ้ะ ...เอาที่สบายใจเลยจ้ะ จะรู้สึกวุ่นวายนิดหน่อยช่วงพระอาทิตย์ตก เพราะเหมือนทัวร์จะลงเยอะ แต่พอดึกกว่านั้น ก็โล่ง ดูนิทรรศการได้ชิลล์เลย

กับอีกปัญหาคือ นิทรรศการเน้นญี่ปุ่นเป็นหลักมาก ไม่มีข้อความ 2 ภาษาเลย แต่มีโทรศัพท์ ให้ไว้ฟังเสียงบรรยาย แบบในภาพด้านบน ตรงมุมซ้ายล่างของบอร์ด ซึ่งเลือกภาษาอังกฤษได้ แต่เรารู้สึกว่าขี้เกียจฟังมาก มันต้องยืนใกล้ๆ ฟัง แล้วดูอะไรไม่ได้ รู้สึกว่าทำมาให้อ่านได้เลยจะดีกว่า อ่านแบบ skim เร็วๆ ง่ายกว่า แต่มีพวกสื่อวิดีโอ เป็นคลิปสัมภาษณ์คนทำงานภาษาอังกฤษ ตรงนี้ก็สบายไป ดูเพลินเลย


ฝากติดตาม และมาอ่านเพิ่มเติมใน Blog กันได้นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่