สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31
ไม่แนะนำให้หนีนะคะ
1. ธุรกิจนี้คุณสร้างคนเดียว เป็นชื่อคุณคนเดียวรึเปล่า ถ้าใช่ คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งใครเลย ไม่จำเป็นต้องจ้างคนในบ้านด้วยซ้ำ
2. วิธีเดียวที่คุณจะหลุดพ้นจากที่บ้าน คือเชื่อมั่นในความคิดตัวเองค่ะ เงินฉัน ฉันมีสิทธิใช้ แม่ไม่ได้หาเงินเองไม่มีสิทธิสั่งเรื่องธุรกิจค่ะ
คุณแค่หยุด หยุดส่งเสีย หยุดคิดว่าเป็นหน้าที่ หน้าที่คุณมีแค่ให้เงินเดือนแม่ คนอื่นไม่เกี่ยว ทุกคนต้องหาเลี้ยงตัวเอง
3. การไปอยู่จังหวัดเล็กๆ กำลังซื้อก็น้อยไปด้วย และแรงขับมันจะลดลง เว้นแต่ว่าคุณขายของ online ค่ะ
ยืนยันว่าอย่าหนีเลยค่ะ พวกเค้าต่างหากที่ควรเข้าใจว่าคุณไม่ใช่คนหาเลี้ยง
1. ธุรกิจนี้คุณสร้างคนเดียว เป็นชื่อคุณคนเดียวรึเปล่า ถ้าใช่ คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งใครเลย ไม่จำเป็นต้องจ้างคนในบ้านด้วยซ้ำ
2. วิธีเดียวที่คุณจะหลุดพ้นจากที่บ้าน คือเชื่อมั่นในความคิดตัวเองค่ะ เงินฉัน ฉันมีสิทธิใช้ แม่ไม่ได้หาเงินเองไม่มีสิทธิสั่งเรื่องธุรกิจค่ะ
คุณแค่หยุด หยุดส่งเสีย หยุดคิดว่าเป็นหน้าที่ หน้าที่คุณมีแค่ให้เงินเดือนแม่ คนอื่นไม่เกี่ยว ทุกคนต้องหาเลี้ยงตัวเอง
3. การไปอยู่จังหวัดเล็กๆ กำลังซื้อก็น้อยไปด้วย และแรงขับมันจะลดลง เว้นแต่ว่าคุณขายของ online ค่ะ
ยืนยันว่าอย่าหนีเลยค่ะ พวกเค้าต่างหากที่ควรเข้าใจว่าคุณไม่ใช่คนหาเลี้ยง
แสดงความคิดเห็น
เมืองน่านเหมาะสำหรับการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไหมคะ?
หนี้สินตอนนี้มีแค่ผ่อนรถยนต์1คัน มีแต่แฟนไม่มีลูกค่ะ
ตอนนี้เราเหนื่อยกับการที่ต้องมาแบกรับทุกคนในตระกูล
เมื่อก่อนตอนเป็นพนักงานประจำ ชีวิตหาเลี้ยงแค่ตัวเองและส่งให้พ่อแม่ใช้ 3,000-5,000/เดือน
พอทำธุรกิจเริ่มมีเงิน เราต้องมาซัพพอร์ตญาติพี่น้องทุกคน!!!
ญาติยืมเงินไปหลายหมื่น แม่ก็ไม่ให้ทวงถาม บอกว่าเป็นญาติพี่น้องกันต้องช่วยกัน อย่าไปกดดันเค้า
ต้องส่งเสียหลาน2คน หัวสูงทั้งคู่ จะใช้แต่ของดีๆมียี่ห้อ เอาพี่ชายมาเลี้ยงอีกคน
มาช่วยทำงานแบบทำบ้างไม่ทำบ้างเดี๋ยวลา เดี๋ยวสาย เพราะวันๆมัวแต่ทะเลาะกับเมีย (เมียอยู่คนละจังหวัด)
จะสอนงานอะไรก็ไม่เคยสนใจ เลิกงานมาไม่คุยกับเมียก็ออกไปเที่ยวกลับตี1ตี2ทุกวัน
เงินเดือนก็ต้องจ่ายเต็ม กินฟรีอยู่ฟรี รายจ่ายเฉพาะพี่ชายตกเดือนละ 20,000 แบบไม่รวมจุกจิกที่เราต้องออกให้ทุกอย่างยันซื้อ กกน
พอบ่นให้แม่ฟัง แม่ก็บอกแต่ให้เราอดทน อดทน และอดทน เราเป็นน้องก็ต้องเลี้ยงพี่(?)
ส่วนแม่ก็ใช้เงินมือเติบ สารพัดโปรเจคจะคิดมา ทั้งทำบ้านใหม่ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ซื้อนา ฯลฯ ซึ่งเราต้องซัพพอร์ตหมด
พอช่วงนี้เงินเราไม่คล่องเพราะลูกค้าจ่ายช้าเกินกำหนด แม่ก็มาด่าเราต่อหน้าญาติๆทุกคน (ในงานศพยาย)
ว่าเราบริหารไม่ดี ทำไม่ไหวก็ปิดบริษัทไป (ปิดไปจะเอาอะไรแ-ก อายุขนาดนี้หางานทำยากแล้ว)
เราไม่เหนื่อยกับงาน แต่เราเหนื่อยกับคน เราท้อใจที่เวลาทำดีไม่มีใครชม แต่เวลาเราล้มมีแต่คนกดดันเรา
ล่าสุดปรึกษากันกับแฟนจะย้ายไปอยู่ที่น่านบ้านเกิดแฟน
เพราะเราเหนื่อยแล้ว...เราอยากพัก ไม่อยากแบกรับใครอีกแล้ว
เราอยากจะทำอย่างที่แม่เคยพูด แม่บอกให้เรายกบริษัทให้พี่ชาย
ให้พี่ชายรับงานเอง แม่จะเป็นคนบริหารให้เอง เพราะแม่บอกเราบริหารไม่ดี
ที่น่านบ้านแฟนมีไร่เม็ดมะม่วงหิมพานต์กับกลุ่มแม่บ้านทอผ้าที่แม่แฟนทำอยู่
คิดกันไว้ว่าจะต่อยอดเพราะกลุ่มแม่บ้านทอผ้าถือว่ามีฝีมือแต่ขาดการตลาดที่ดี
หลังจากจบโปรเจคที่รับงานไว้ เราคำนวนแล้วหักหนี้สินจุกจิกเราจะมีเงินเก็บอยู่ราวๆ4แสนบาท
ทรัพย์สินมีรถกระบะ1คัน รถเก๋ง1คัน บิ๊กไบค์1คัน และนาฬิกา+กระเป๋าแบรนด์เนมราวๆ20รายการ
หนี้สิมีแค่ผ่อนรถ1คัน เดือนละ 9,000 บาท (เหลืองวดอีก4ปี)
คิดว่าจะไปขายอาหารแต่กำลังดูว่าจะทำแกงถุงส่งแม่ค้าหรือขายอาหารอีสาน เพราะพอมีตลาดและลู่ทางอยู่บ้าง
เราพอมีฝีมือในการทำอาหารและขนม ผ่านงานทำอาหารเลี้ยงแขกปริมาณมากๆมาเยอะตั้งแต่เด็ก เลยมั่นใจว่าทำได้
แต่เราไม่รู้เมืองน่านจะเหมาะกับเราไหม และเราคิดถูกไหมที่ทำแบบนี้?