พุทธวจนปิฎกคำจริง พระไตรปิฎกคำปลอม โดยพระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง
ข้าพเจ้าจึงเข้าใจชัดเจนว่า เหตุใดท่านจึงต้องโจมตีพระไตรปิฎกว่ามีคำปลอม พุทธวจนปิฎกของท่านเท่านั้นคือคำจริง จนถึงขนาดกับกล่าวว่า ต่อไปจะไม่ใช่พระไตรปิฎก แต่จะใช้พุทธวจนปิฎก ของสำนักท่านแทน
ความจริงแล้ว พุทธวจนปิฎก ก็คัดลอกเอามาจากพระไตรปิฎก แล้วนำมาตัดเอาคำพระเถระออก ตัดเอาสาวกภาษิตออก เพราะท่านมีทิฐิว่า คำพระสาวกฟังไม่ได้ ท่านจึงได้บัญญัติคึกฤทธิ์กถาขึ้นบทหนึ่งว่า “อย่าฟังคำคนอื่น”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอมีคนถาม ท่านก็ตอบว่า ถ้าพระสาวกอย่างพระสารีบุตรและท่านอื่นๆ กล่าวคำพระศาสดาก็ให้ฟังได้ ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าสงสัยว่า แล้วท่านจะตัดเถระคาถา ตัดสาวกภาษิต เทวดาภาษิต ออกจากพระไตรปิฎกทำไม ท่านสอบสวนแล้วหรือว่า คำพระสาวกขัดกับคำพระศาสดาตรงไหน ในเมื่อพระไตรปิฎกล้วนมีแต่คำพระสารีบุตร พระอริยสาวกท่านอื่นๆ และเทวดาภาษิตที่พระพุทธองค์ทรงรับรอง ในส่วนของพระอภิธรรมบางส่วนเช่น กถาวัตถุ แม้จะแต่งขึ้นมาภายหลัง แต่ท่านตอบได้หรือไม่ว่า ส่วนไหน คำไหน ที่ขัดกับพุทธวจนะของพระศาสดา ท่านพูดกลับไปกลับมาอีกในข้อนี้ ตามหลักฐานในคลิปนี้
จิต ๘๙ ดวงก็ดี ๑๒๑ ดวงก็ดี ไม่มีในพระอภิธรรมปิฎก ท่านสับสนกับคัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะหรือเปล่า ข้าพเจ้าเห็นสาวกของท่านชอบนำเรื่องนี้ไปเที่ยวถามชาวบ้านว่า รู้มั้ยว่า เรื่องนี้ แต่งใหม่ เขารู้กันนานแล้วท่าน แต่ที่ท่านและสาวกของท่านไม่รู้คือ เรื่องนี้เป็นคำอธิบายซึ่งครูบาอาจารย์แต่งขึ้นในภายหลัง คัมภีร์นี้ไม่จัดอยู่ในชั้นพุทธวจนะ แต่ก็ยังดีกว่าคำแต่งใหม่ที่ท่านสอนเหล่าสาวกของท่าน เพราะสาวกของท่านแม้องค์ปฏิจจสมุปบาทยังท่องกันไม่ถูกเลย ข้าพเจ้าว่า ท่านมีความรู้รอบตัวน้อย แต่คิดว่าตนรู้เยอะ จึงทำให้แสดงความไม่รู้ออกโชว์ต่อสาธารณชนหลายครั้งหลายครา ส่วนสาวกของท่าน รู้น้อยกว่าท่าน จึงไม่รู้ว่าท่าน "ไม่รู้อะไร หรือรู้อะไรผิดบ้าง" ข้าพเจ้ารู้สึกเวทนา (อ่านว่า เวด ทะ นา คนละความหมายกับ เว ทะ นา ในขันธ์ ๕ อันนี้ท่านก็คงไม่รู้ แล้วหาว่าคนไทยใช้คำพูดผิดอีกสินะ)
ตกลงพระไตรปิฎกมี "คำคนอื่น" หรือเป็นเพราะว่า ท่านจะขายหนังสือพุทธวจนปิฎกเล่มละ ๑,๙๐๐ บาท รวม ๓๓ เล่ม ของท่านใช่หรือไม่ เจตนาของท่านคืออะไร ข้าพเจ้าจะนำความนี้ไปถามท่านในวันที่เราได้พบกัน
ควรหรือไม่ ที่จะกล่าวว่าพระไตรปิฎกคำปลอม พุทธวจนปิฎกคำจริง ทั้งๆ ที่ในพระไตรปิฎกไม่มีคำคนอื่นเลย
ขอบคุณที่มา
http://watnaprapong.blogspot.com/2014/10/blog-post_60.html
ทำรูปขาย และพยายามสื่อด้วยภาพ (นักบวชคึกฤทธิ์เป็นศาสดาของศิษย์สำนักนาป่าพง)
รวมหัวกันค้าขาย พอมีเงิน ไปเอาไปถลุงเล่น (ชอบรถหรู ก็ซื้อมา สนองความต้องการตน)
รถเจ้าสำนัก ได้มาจาก การหลอกลวง พุทธบริษัท
ผู้ใหญ่ เตือนก็ไม่ฟัง
ดูเอาเถอะ นิสัยอสัตบุรุษ
พระไตรปิฎกมี"คำคนอื่น"หรือเป็นเพราะว่าท่านจะขายหนังสือพุทธวจนปิฎกเล่มละ ๑,๙๐๐ บาท ของท่านใช่หรือไม่?
ข้าพเจ้าจึงเข้าใจชัดเจนว่า เหตุใดท่านจึงต้องโจมตีพระไตรปิฎกว่ามีคำปลอม พุทธวจนปิฎกของท่านเท่านั้นคือคำจริง จนถึงขนาดกับกล่าวว่า ต่อไปจะไม่ใช่พระไตรปิฎก แต่จะใช้พุทธวจนปิฎก ของสำนักท่านแทน
ความจริงแล้ว พุทธวจนปิฎก ก็คัดลอกเอามาจากพระไตรปิฎก แล้วนำมาตัดเอาคำพระเถระออก ตัดเอาสาวกภาษิตออก เพราะท่านมีทิฐิว่า คำพระสาวกฟังไม่ได้ ท่านจึงได้บัญญัติคึกฤทธิ์กถาขึ้นบทหนึ่งว่า “อย่าฟังคำคนอื่น”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตกลงพระไตรปิฎกมี "คำคนอื่น" หรือเป็นเพราะว่า ท่านจะขายหนังสือพุทธวจนปิฎกเล่มละ ๑,๙๐๐ บาท รวม ๓๓ เล่ม ของท่านใช่หรือไม่ เจตนาของท่านคืออะไร ข้าพเจ้าจะนำความนี้ไปถามท่านในวันที่เราได้พบกัน
ควรหรือไม่ ที่จะกล่าวว่าพระไตรปิฎกคำปลอม พุทธวจนปิฎกคำจริง ทั้งๆ ที่ในพระไตรปิฎกไม่มีคำคนอื่นเลย
ขอบคุณที่มา http://watnaprapong.blogspot.com/2014/10/blog-post_60.html
ทำรูปขาย และพยายามสื่อด้วยภาพ (นักบวชคึกฤทธิ์เป็นศาสดาของศิษย์สำนักนาป่าพง)
รวมหัวกันค้าขาย พอมีเงิน ไปเอาไปถลุงเล่น (ชอบรถหรู ก็ซื้อมา สนองความต้องการตน)
รถเจ้าสำนัก ได้มาจาก การหลอกลวง พุทธบริษัท
ผู้ใหญ่ เตือนก็ไม่ฟัง
ดูเอาเถอะ นิสัยอสัตบุรุษ